การดูแลและตรวจเชคแบตเตอรี่รถยนต์ให้อยู่กับเราได้นาน ๆ

การดูแลและตรวจเชคแบตเตอรี่รถยนต์ให้อยู่กับเราได้นาน ๆ

อีกหนึ่งพื้นฐานของการดูแลรถยนต์สุดรักสุดหวง ไม่ให้ไปตายกลางทางหรือแวะกินข้าวลิง คงหนีไม่พ้นปัญหาของแบตเตอรี่รถของเรา ไม่ว่าจะชำรุด ไม่เก็บประจุไฟ ทำให้รถของเรานั้นไม่สามารถสตาท์ได้ หรืออาจจะเกิดอาการดับกลางคัน โดยส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้นำรถยนต์ไปเชคสภาพเป็นประจำก็อาจจะทำให้เรานั้นไม่สามารถทราบได้เลย ในบางกรณีผู้ใช้รถบางคนนั้น ไม่เคยตรวจเชคอุปกรณ์ต่าง ๆ ใต้ฝากระโปรงเลย อย่างน้อยสิ่งที่ควรจะดูบ่อย ๆ ด้วยตาเปล่าไม่ต้องใช้เครื่องมือ ก็คือแบตเตอรี่ หรือพวกของเหลวต่าง ๆ นั่นเอง แต่ในวันนี้ Chobrod.com จะขอนำเสนอเรื่องราวของแบตเตอรี่ให้เพื่อน ๆ ทุกท่านได้รับชมนะครับ

ควรตรวจเช็คแบตเตอรี่เป็นประจำ

แบตเตอรี่คือ

อุปกรณ์ที่ัจัดเก็บ และ จ่ายกระแสไฟฟ้าโดยมีลัษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะติดต่างอยู่มุมสุดของห้องเครื่อง ซึ่งด้านในของแบตเตอรี่นั้นจะมีการทำปฏิกิริยาเคมีที่สร้างไฟฟ้า โดยเป็นหัวใจของการให้กำเนิดพลังไฟฟ้าของรถยนต์ แบตเตอรี่จะจ่ายไฟฟ้าเมื่อเราสตาร์ทเครื่อง โดยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่นั้นจะส่งต่อไปที่ไดร์สตาร์ทเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานนั่นเอง ต่อด้วยการทำงานของไดร์ชาร์จเพื่อให้ไฟนั้นเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของรถทั้งหมด แต่จะมีบางอุปกรณ์ที่นำไฟฟ้ามาใช้จากแบตเตอรี่โดยผ่านแค่ชุดฟิวส์

ภายในของแบตเตอรี่ประกอบด้วย แผ่นธาตุ บวก และ ลบ

แบตเตอรี่แบบน้ำจะมีจุกปิด

แบตเตอรี่แบบแห้ง ด้านบนจะไม่สามารถเปิดได้

ส่วนประกอบของแบตเตอรี่ ได้แก่

• ขั้วแบตเตอรี่ (Pole)
• แผ่นธาตุลบ (Negative Plate)
• แผ่นกั้น (Separator& Glass mat)
• แผ่นธาตุบวก (Positive Plate)
• จุกปิด (Vent Plug)
• เปลือกหม้อและฝาหม้อ (Container3 & Lid)
• ขั้ว (Terminal Pole)

ดูเพิ่มเติม
>> ฟังจากปากช่าง ... เรื่องของรถยนต์ที่คนไทยมักจะสนใจคืออะไร ?
>> มาหาคำตอบกันว่า เครื่องฟอกอากาศในรถ! มีความจำเป็นขนาดไหน?

เชคระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับเสมอ

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรเมื่อแบตเตอรี่เราเสียหรือไม่สมบูรณ์ ?

จริง ๆ แล้วก็มีข้อสังเกตง่าย ๆ นะครับสำหรับผู้ไม่มีความรู้เรื่องรถก็สามารถจัดอาการได้ เช่น

• การเกิดคราบสีขาวเหมือนเกลือที่ขั้วแบต จะทำให้การส่งประจุไฟผ่านขั่วนั้นยากขึ้น
• น้ำกลั่นลดลงเกินกว่ามาตรฐาน (ในกรณีที่เป็นแบตเตอรี่ที่สามารถเติมน้ำกลั่น)
• เครื่องเสียงภายในห้องโดยสารมีปัญหา ติด ๆ ดับ ๆ หรือสัญญาณไม่ดี
• ระบบกันขโมยรวน อาจจะเกิดการแจ้งเตือนโดยที่ไม่มีอะไรมาโดน
• สตาร์ทรถไม่ติด
• ไดร์ชาร์จทำงานไม่สมบูรณ์ทำให้แบตเตอรี่ไม่มีไฟ
• ไฟหน้าไม่สว่าง
• กระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง
• แบตเตอรี่ที่ใช้งานมาเกิน 2 ปี หรือเร็วกว่านั้น
• แบตเตอรี่เกิดอาการบวม

ถ้าหากรถใครที่มีอาการตามที่กล่าวมาให้มาสังเกตได้ที่แบตเตอรี่นะครับและคิดไว้ซะว่าอาจจะถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วละครับ

ตรวจเชคแรงดันไฟเสมอเพื่อไม่ให้แบตมีปัญหาระหว่างการใช้งาน

สำหรับวิธีดูแลรักษาเพื่อให้แบตเตอรี่นั้นอยู่กับรถของคุณได้นานขึ้นควรทำดังนี้

-ทำความความสะอาดขั้วแบตเตอรี่อยู่เสมอ ด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ราดไปที่ขั้วเลย และเช็ดให้แห้งเสมอ

-ใช้วาสลิน ทาที่ขั้วแบตเตอรี่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบขี้เกลือในกรณีแบตเตอรี่เริ่มเก่า

-ดูระดับน้ำกลั่นไม่ให้พร่องหรือต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้าต่ำให้นำมาเติมครับ สำหรับน้ำกลั่นมีแบบใส และแบบสี สามารถใช้ได้เหมือนกัน

-ในแบตเตอรี่แบบแห้งนั้นจะมีช่องใส ๆ เป็นวงกลม หมั่นดูตลอดว่าเป็นสีเขียวเหลือไม่

-ไม่ควรจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานหลายวัน ควรมาสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้เพื่อให้กระแสไฟของแบตเตอรี่ทำงานอยู่เสมอ

ถ้าสาตร์ทรถไม่ติดเนื่องจากแบตเตอรี่ควรหาสายพ่วงแบตเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น

นอกจากนี้การถ้าเราทำทุกอย่างครบทุกขั้นตอนแล้วแบตเตอรี่เจ้ากรรมไม่รักดียังงอแงอยู่ก็ควรจะเตรียมงบ เพื่อซื้อลูกใหม่นะครับ นอกจากนี้ในบางร้านขายแบตเตอรี่ สามารถเทรินแบตลูกเก่าได้อีกด้วย ถ้าหากยังเตรียมงบไม่ทัน ท่านอาจจะต้องพกสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ด้วยนะครับ เผื่อไปที่ไหนแล้วรถสตาร์ทไม่ติดจะได้ไม่ต้องลำบากวิ่งหาสายพ่วงในเวลาฉุกเฉิน

ดูเพิ่มเติม
>> ผลวิจัยชี้ Console หน้ารถมีผลต่อการเลือกซื้อรถ จริงไหม? ต้องดู!!
>> รวมความเห็น Mitsubishi Pajero Sport มือสองคุ้มค่าน่าถอยหรือไม่ ?

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้