กฎหมายประจำวัน..ที่รู้ไว้ก็สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย

กฎหมายประจำวัน..ที่รู้ไว้ก็สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย

ปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่หันมาใช้รถยนต์กันมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่ามันมีทั้งความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายในการใช้งาน แต่การที่เรามีรถยนต์ส่วนตัวนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถใช้รถใช้ถนนได้ตามอัธยาศัยนะคะ เพราะการที่เราอยู่บนถนน คือการที่เราจะต้องอยู่กับสังคมส่วนมาก สังคมบนท้องถนนค่อนข้างจะสำคัญ ดังนั้นกฎระเบียบการจราจรในการใช้รถใช้ถนนจึงต้องมีการคุมเข้มกันมากขึ้นค่ะ แต่ก็ยังมีบุคคลส่วนน้อยที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายจราจรมากนัก วันนี้เดี๊ยนจึงจัดกฎจราจรที่ฝังอยู่ในหัวของผู้ใช้รถทุกคนมาบอกกล่าวกันค่ะ เพื่อเป็นความรู้ให้กับเพื่อนๆ ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายให้ได้ทราบและจำไว้ใช้ให้ขึ้นใจว่า เจ้ากฎหมายทั้งหมดนี้เป็นกฎหมายเบื้องต้นที่เราควรพึงระลึกไว้เวลาออกไปสู่ท้องถนน..

ดูเพิ่มเติม
>> จอดรถบนทางด่วน ระวังโดนปรับ และอันตรายถึงชีวิต
>> ขับรถปลอดภัยด้วยวิธีง่ายๆ ... ระมัดระวังได้ทั้งตนเองและผู้อื่น

เรื่องของเข็มขัดนิรภัย

1.เรื่องของเข็มขัดนิรภัย

ส่วนใหญ่แล้วเลาเรานั่งรถยนต์หรือรถโดยสารส่วนตัวยิ่งเฉพาะเบาะหน้าแล้ว ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยนะคะ เพราะว่าอย่างแรก ผิดกฎจราจร อย่างที่สองป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในภายภาคหน้า แต่คนไทยจำนวนมากละเลยเกี่ยวกับการคาดเข็มขัดนิรภัยค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าคาดแล้วมีความอึดอัดต่างๆ แต่อย่างไรก็ดี เราควรคาดไว้เพื่อความปลอดภัยของเรานะคะ เผื่อวันใดวันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะได้ไม่มีอันตรายถึงชีวิต ส่วนในเรื่องของกฎหมายนั้นหากไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะมีโทษคือผู้ที่ไม่ยอมคาดเข็มขัดจะมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

เรื่องของการขับรถเร็วเกินกำหนด

2.เรื่องของการขับรถเร็วเกินกำหนด

เดี๊ยนเข้าใจว่า เพื่อนๆที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ นั้นเบื่อหน่ายกับการจราจรติดขัดซะเต็มประดาเหลือเกิน พอเมื่อมีไฟเขียวมาปุ้บเราก็อยากจะเหยียบให้มิดคันเร่งเพื่อให้รถพุ่งออกไปไวๆ แต่พอเหยียบแล้วมันก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น ด้วยความที่เรารีบเราก็จะต้องขับรถเร็วแบบเกินกำหนดกันต่อไป ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะประสบพบเจอกันอยู่บ่อยครั้งนัก แต่เพื่อนๆ อย่าลืมนะคะว่าทางตำรวจจราจรนั้นเขามีกล้องตรวจจับความเร็วเอาไว้ โดยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดนั่นก็คืออัตราการขับขี่ต้องไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เช่นในเขตเทศบาล กรุงเทพฯ และเมืองพัทยา ซึ่งใครที่ฝ่าฝืนกฎข้อนี้ก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทนั่นเองจ้า

การเรื่องของไฟเลี้ยว

3.การเรื่องของไฟเลี้ยว

ทุกครั้งที่เราจะต้องเปลี่ยนเส้นทางสัญจรหรือเลี้ยวรถต่างๆ ไม่ว่าจะซ้าย ขวา เราจะต้องมีการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อให้รถคันข้างหลังได้รู้ด้วยว่าเรากำลังจะเลี้ยวออกไปทางฝั่งไหน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีอุบัติเหตุให้เห็นอยู่ดีค่ะ ถึงแม้ว่าการเปิดไฟเลี้ยวจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อย แต่นี่ก็ถือว่าเป็นอีกอย่างหนึ่งในมารยาทของการขับรถยนต์นะคะ ส่วนทางกฎหมายก็กำหนดออกมาว่าหากเลี้ยวรถแล้วไม่เปิดไฟเลี้ยวเพื่อให้รถคันหลังได้รับรู้ก่อนออกตัว เป็นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

เรื่องของการหยุดรถ

4.เรื่องของการหยุดรถ

เรื่องจองการจอดรถ หยุดรถ ในที่ต้องห้าม ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการกีดขวาดการจราจรและทำให้รถยนต์คันอื่นไม่สามารถออกไปเส้นทางอื่นได้ สาเหตุนี้เราพบเจอกันบ่อยค่ะ เป็นเสมือนความเห็นแก่ตัวของสังคมไทยที่รีบกันจนไม่มีน้ำใจให้คนข้างหลัง ตามควาผิดมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาทค่ะ

เรื่องของการแช่รถซ้าย-ขวา

5.เรื่องของการแช่รถซ้าย-ขวา

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าเราจะขับรถด้วยความเร็วสูงตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว แต่ผู้ที่ขับขี่ก็ต้องมีวิธีการขับซ้ายให้รถที่เร็วกว่าแซงขึ้นไปได้ก่อนนะคะ หากฝ่าฝืนกฎจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ตามความผิดในข้อหาขับรถกีดขวางจราจร มีโทษสูงสุด 1,000 บาท

เรื่องของการจอดรถในที่ห้ามจอด

6.เรื่องของการจอดรถในที่ห้ามจอด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งตามพื้นที่ที่มีเส้นขาวแดงหรือว่าป้ายห้ามจอด จนตำรวจเหนื่อยที่จะตักเตือน เอาเป็นว่าลงความผิดไปเลยก็แล้วกัน จอดรถในที่ห้ามจอดมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาทค่ะ

เรื่องของสำเนาและเล่มทะเบียนรถ

7.เรื่องของสำเนาและเล่มทะเบียนรถ

เล่มทะเบียนรถนั้นควรเคียงคู่กับสำเนาเล่มทะเบียนรถนะคะ เพราะตามกฎหมายแล้วผู้ขับรถจะต้องได้รับใบอนุญาตขับรถและสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถไว้ในครอบครองด้วย ทั้งนี้ตามความผิดมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท อย่าลืมพกติดรถไว้นะคะ

เรื่องของการให้คนข้ามถนน

8.เรื่องของการให้คนข้ามถนน

หากเห็นคนกำลังข้ามถนน แล้วผู้ใช้รถไม่ยอมจอดเพื่อให้คนข้ามไปในทางม้าลาย ตามกฎหมายถือว่ามีความผิดและมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท

เรื่องของไฟตัดหมอก

9.เรื่องของไฟตัดหมอก

ทุกวันนี้ผู้คนนิยมใช้ไฟตัดหมอกในการขับขี่ตอนค่ำคืนมากขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น แต่ว่าไฟตัดหมอกนั้นก็มีการปรับแต่งให้อยู่บริเวณด้านล่าง แต่หากว่าใช้บริเวณถนนทั่วไป จะมีโทษปรับสูงสุด ไม่เกิน 2,000 บาทค่ะ

อย่างไรก็ตาม กฎหมายทั้งหมดนี้เป็นกฎหมายที่เราควรท่องจำให้ขึ้นใจ ถึงแม้ว่าจะมีกฎจราจรบนท้องถนนมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่กฎหมายนี้คือก็หมายเบื้องต้นที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรพึงมีเอาไว้ป้องกันตนเองไม่ให้ผิดกฎจราจร เพื่อที่จะทำให้เราถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและลดอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วยจ้า ทั้งนี้ทาง chobrod ก็อยากให้เพื่อนๆ ระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนให้มากขึ้นกว่าเดิม จากที่ระวังอยู่แล้วก็ระวังเข้าไปอีกเพื่อความปลอดภัยนะคะ

โดยแต่ละข้อกฎหมายนั้นเราจะเล็งเห็นได้ว่าเป็นข้อกฎหมายที่อยู่ใกล้ตัว และอาจจะเป็นข้อกฎหมายที่หลาย ๆ คนยังใช้ในชีวิตประจำวัน โดยอาจไมรู้ตัวว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นผิดกฎหมาย และมีโทษปรับ การปฏิบัติตามกฎจราจรนั้นจะทำให้เราถึงที่หมายอย่างปลอดภัย และลดอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติม
>> ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจกฎหมาย !!!
>> รู้ไว้ใช่ว่า ... ตัวอย่างของการแต่งรถผิดกฎหมายและจำนวนค่าปรับที่ต้องจ่าย

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้