ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจกฎหมาย !!!

ด้วยการเดินทางของบ้านเราที่ระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่ค่อยจะเอื้อต่อการใช้ชีวิตของคนเมืองเท่าไหร่นัก การมีรถยนต์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับหลายๆคน เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกในการเดินทาง แต่เรื่องหนึ่งที่การขับขี่บนท้องถนนต้องระวัง ก็คืออุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ จักรยานยนต์ คน สัตว์ หรือสิ่งของ ก็สามารถมาชนรถเราได้ วันนี้ Chobrod จะพาไปทบทวนกฎจราจร เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย

ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจกฎหมาย !!! 

• รถที่เราขับควรจะอยู่ในสภาพที่ดี พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ควรตรวจเช็คสภาพรถ ลมยาง และน้ำมัน แผ่นป้ายทะเบียนควรติดเอาไว้ เลี่ยงการขับขี่ด้วยรถที่สร้างฝุ่นละอองหรือควัน เพราะจะทำให้ทัศนวิสัยที่ไม่ดีอาจเกิดอุบัติเหตุ
• สัญญาณและเครื่องหมายจราจร ไฟจราจร 3 สีต้องจำให้แม่น สีเขียวคือสามารถออกรถไปได้ สีเหลืองให้เตรียมหยุดไม่ใช่เตรียมเร่งออกรถ และสีแดงคือให้หยุดหลังเส้นให้หยุดรถ หากเจอไฟแดงกระพริบที่ทางแยก ให้ชะลอรถ แล้วมองจนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจึงค่อยขับต่อ
• เสียงนกหวีดจากเจ้าหน้าที่ การเป่ายาวหนึ่งครั้งให้ผู้ขับหยุดรถทันที และการเป่านกหวีดสั้นๆ สองครั้งคือให้ขับรถผ่านไปได้  มือใหม่ควรนำหนังสือกฎและเครื่องหมายจราจรให้เข้าใจ เพราะบางครั้งอาจจะไปเจอเครื่องหมายจราจรที่ไม่คุ้น อาจมีติดรถก็ได้

รถที่เราขับควรจะอยู่ในสภาพที่ดี พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

• การใช้ไฟหรือเสียงสัญญาณ หากแสงสว่างไม่พอ มองเห็นได้ไม่ชัดเจนในระยะ 150 เมตร ก็ควรเปิดไฟหน้ารถ เพื่อแสดงให้เห็น และเมื่อบีบแตรก็ควรมีเสียงดังไกลไม่น้อยกว่า 60 เมตร เพื่อส่งเสียงไปยังสิ่งกีดขวางข้างหน้าได้ทัน
• การที่จะขับแซง ควรให้สัญญาณรถคันหน้าเสมอก่อนและแซงขวาเท่านั้น รักษาระยะห่างพอสมควร เมื่อแซงผ่านแล้วก็ต้องเข้าเลนซ้าย ห้ามแซงคันที่กำลังเปิดไฟเลี้ยวขวา ห้ามแซงขณะรถขึ้นสะพานหรืออยู่ทางโค้ง หรือหากดูแล้วว่ามีทัศนวิสัยที่ไม่ดีก็ไม่ควรแซง

การที่จะขับแซง ควรให้สัญญาณรถคันหน้าเสมอก่อนและแซงขวาเท่านั้น

• การขับรถออกจากที่จอด ถ้ามีรถขวางควรให้สัญญาณมือหรือไฟสัญญาณ แสดงความต้องการว่าเราจะออกจากที่จอดรถ เมื่อจะเลี้ยวรถต้องชะลอและเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวไม่ต่ำกว่า 30 เมตร แล้วให้กลับรถในทางที่ปลอดภัย ไม่กลับรถบนสะพานหรืออย่างน้อย 100 เมตรจากทางราบเชิงสะพาน
• การหยุดรถและจอดรถ ควรหยุดหรือจอดรถในทางที่ปลอดภัยไม่กีดขวางผู้อื่น ที่สำคัญควรจอดรถชิดซ้ายกับขอบทางในระยะห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร ห้ามจอดรถบนทางเท้า บนสะพาน ในอุโมงค์ ทางแยก หรือตรงที่มีป้ายห้ามจอด

เราควรทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ขับขี่ด้วยความปลอดภัย

ดูเพิ่มเติม
>> ข้อห้ามที่คนขับกระบะควรรู้!!!
>> สอบถามความเห็นจากเหล่าประชาชน เกี่ยวกับ “กฎหมายการจราจร” ของไทย “ควรปรับปรุงไหม” หรือ “ควรไปต่อ ?”

• เราควรทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ขับขี่ด้วยความปลอดภัย
• ไม่ควรขับขี่ด้วยการใช้อารมณ์ส่วนตัวบนท้องถนน ควรมีความใจเย็นในขณะขับรถ และไม่ประมาท
• นอกจากสภาพรถที่ต้องพร้อมแล้ว ผู้ขับขี่ก็ควรพักผ่อนให้เพียงพอเช่นกัน เพราะการหลับในก็เป็นสาเหตุต้น ๆ ของอุบัติเหตุ
• ถ้ามีการดื่มสุราหรือของมึนเมาก็ไม่ควรขับรถ เพราะนอกจากจะทำให้ผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุแล้ว คนอื่นก็อาจต้องรับเคราะห์ไปด้วย
• ควรระวังเรื่องการลื่นไถลขณะขับขี่ตอนฝนตกถนนลื่น ควรขับด้วยความเร็วต่ำแต่ใช้เกียร์สูงเพื่อป้องกันการลื่นเสียการทรงตัว และก็ไม่เหยียบเบรกแบบฉุกละหุก

การหยุดรถและจอดรถ ควรหยุดหรือจอดรถในทางที่ปลอดภัยไม่กีดขวางผู้อื่น

• ผู้ที่ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุแล้วขับหนี สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำผิด เมื่อเกิดอุบัติเหตุสิ่งที่ต้องทำ คือ หยุดรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ประกัน และหาเครื่องหมายสัญญาณแจ้งว่าเป็นพื้นที่อุบัติเหตุ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุต่อเนื่อง
• ประกันช่วยคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมรถ การดูแลในเรื่องค่ารักษา เช่น ผู้ทำประกันฯ ชั้น 1 ก็อาจได้รับการดูแลทั้งฝ่ายถูกและฝ่ายผิด รวมทั้งประกันบางตัว มีการดูแลรับผิดชอบไปถึงเรื่องรถยนต์สูญหาย ถูกขโมย และเกิดเหตุไฟไหม้ ด้วย

เป็นยังไงบ้างกับสาระดีๆที่เรานำมาฝากกัน ถึงแม้ว่าการมีรถจะทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็ควรที่จะขับขี่อย่างปลอดภัย ใส่ในกฎจราจรบนท้องถนน ต้องระมัดระวังในการขับขี่ ไม่ควรขับด้วยความประมาท เพราะไม่เพียงแต่อาจทำให้ตัวเองเป็นอันตรายแล้ว การเกิดอุบัติเหตุก็ทำให้คนอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องเจอไปด้วย ดังนั้นเราควรป้องกันไว้ก่อน

ดูเพิ่มเติม
>> ตำรวจ เผยกฎจราจรใหม่ปี 62 ทำผิดไม่ต้องยึดใบขับขี่
>> รู้ไว้ใช่ว่า ... ตัวอย่างของการแต่งรถผิดกฎหมายและจำนวนค่าปรับที่ต้องจ่าย