ดูเหมือนว่าตลาดรถค่ายที่เน้นรถเก๋งในเมืองไทยที่ค่าย Honda ผู้เคยผูกขาดเป็นที่นิยมในหลายๆ รุ่น อาจไม่ใช่ค่ายเดียวที่น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว เมื่อมี Mazda ค่ายร่วมแดนอาทิตย์อุทัย เริ่มจับทางตลาดถูก ดันยอดขายไล่มาห่างๆ ใน 4-5 ปี หลังและไม่ว่ารุ่นไหนของ Honda เป็นที่นิยมก็จะมีรถจากค่าย Mazda นี้ถูกนำไปเปรียบด้วยอยู่เป็นนิจ รวมถึงทั้งสองรุ่นนี้ Honda CR-V และ Mazda CX-5
กับประเภทรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลกและในไทยผู้คนก็เริ่มหันมามองรถประเภท SUV เป็นตัวเลือก เทียบกับพวกรถเก๋ง Sedan อยู่บ่อยครั้ง ด้วยความครอบคลุมในการใช้งานที่มากกว่า เรื่องดีไซน์ก็กลายมาเป็นความแปลกใหม่สำหรับคนที่เบื่อความจำเจของรถซีดานแบบเดิมๆ ถ้าไม่ติดที่เรื่องราคาที่หลายรุ่นส่วนใหญ่ในไทยค่อนข้างมีราคาสูงอยู่น่าจะเห็นวิ่งกันเกลื่อน ไม่นับ MG ZS ครอสโอเวอร์ที่ทำราคามาเพื่อตั้งใจดูดลูกค้ารถประเภทอื่นๆ อย่าง B-Segment, C-Segment ไปซื้อได้ จนประสบความสำเร็จ ทำยอดขายสูงสุดเท่าที่เปิดค่ายมาแล้ว เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจให้หลายค่ายหันกลับไปคิดว่ารถประเภทนี้เป็นที่นิยมของคนไทยจริงๆ แม้จะเป็นรถลูกครึ่งจีน พี่ก็ไม่ติด!
Honda CR-V กับ Mazda CX-5 ถือเป็นมวยที่ถูกคู่ ด้วยราคาที่ใกล้เคียง
โยนทิ้งปัจจัยเรื่องราคาออกไปก่อน เพื่อมาดูรถ SUV ระดับหัวของไทยที่มีให้ครบองค์ประกอบไปจนถึงเหนือกว่าที่รถยุคนี้มี อย่าง Honda CR-V ที่ปัจจุบันออกมาเป็นเจ็นที่ 5 แล้ว วิวัฒนาการตั้งแต่เจ็นแรกมาถึงปัจจุบันคงไม่ต้องพูดถึงความแตกต่าง ด้วยเรื่องเวลาและยุคสมัยนำไปสู่การดีไซน์ที่ดีขึ้นแต่กว่ารถประเภทนี้จะเป็นที่นิยมชมชอบในไทยได้ถึงขนาดนี้ หลายค่ายที่ขายรถประเภทนี้อาจต้องขอบคุณทาง Honda ที่ปูทางมาจนกลายเป็นประเภทรถยอดนิยมในไทยตั้งแต่ปี 2539 จนรุ่นล่า ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่แล้ว Honda CR-V เจน 5 โมเดลใหม่หมดพร้อมเครื่องยนต์ 2 ทางเลือกทั้งเบนซินและดีเซล อัพเกรดความหรูหราให้มากกว่าโฉมก่อนหน้าเพื่อเตรียมพร้อมที่จะยืนเป็นที่หนึ่งของยอดขายในรถประเภทนี้
ส่วน Mazda CX-5 น่ะเหรอก็ไม่มีอะไรมาก เพราะโฉมล่าสุดนี้เป็นเพียงเจ็นที่สองของรุ่นเท่านั้น แต่! สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือรถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถขายดีที่สุดของมาสด้าทั่วโลก กว่า 35% ของยอดขาย Mazda ทั้งหมดทั่วโลกเป็นรถรุ่นนี้ พร้อมรางวัลการันตีมากมายในโฉมแรกจากผู้ใช้ จนมาสู่โฉมใหม่นี้ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานก่อนสิ้นปีในไทย
ทั้งสองรุ่น CR-V และ CX-5 มีมาให้ผู้ใช้เลือกได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลเหมือนกัน แต่ดูเหมือนช่วงนี้กระแสของเครื่องดีเซลจากมาสด้าจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร ฟ้องกันไปมาทั้งจากลูกค้าและค่ายรถยนต์ จึงเลือกมองไปที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่ไว้ใจได้ดีกว่า ถ้าจะมาเปรียบเทียบจะได้ไม่มีใครทัก ท้วง ติงให้เป็นประเด็น เป็นข้อเสียเปรียบให้ทาง Mazda เขา เปิดราคามาทั้งสองรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่ราคาตัวท็อปแพงสุดอยู่ที่เท่าไรไปดูกัน
Honda CR-V 2.4 EL 4WD ราคา 1,549,000 บาท
Mazda CX-5 2.0 SP AT (2WD) 1,530,000 บาท
*ราคาของเดือน มกราคา 2018
ก่อนดูรายละเอียดดูแค่ราคาก็แทบจะหันหน้าหนีค่าย Mazda ในทันที ทั้งที่เครื่องยนต์เล็กกว่าและเป็นระบบขับเคลื่อนสองล้อเท่านั้น ทำไมราคาใกล้เคียงกับทาง Honda CR-V ที่ขับสี่แต่ราคาต่างกันไม่ถึงหมื่นห้า จะด้วยความมั่นหน้ามั่นใจในเครื่องยนต์ Skyactiv-G เกินไปหรือเปล่าหรือเพราะความสดใหม่กว่าก็ไม่น่าใช่ เพราะ Honda CR-V นั้นเปิดตัวมาก่อน CX-5 แค่ไม่กี่เดือน ดูแค่เรื่องราคากับสเปคเบื้องต้นในเรื่องเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนคะแนนช่องนี้ Honda CR-V มาวิน
ดูแค่ราคากับอุปกรณ์หลักๆ CR-V ให้เครื่องใหญ่กว่าแถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Exciting H Design” จาก Honda ถ่ายทอดสู่เอกลักษณ์ความเป็นรถจากค่ายได้หมดจด สอดผสานความโดดเด่นทันสมัย ความหรูหราได้ไม่ต่างกับรถยุโรปราคาแพง ไฟหน้าและหลังแบบ Full LED พร้อม Daytime Running Light ที่ด้านหน้าพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เข้ากันได้อย่างลงตัวกับเส้นสายตัวรถที่ออกแบบมาให้ดูกว้างกว่าที่เคยเป็น นำไปสู่การเลือกใช้ล้อขนาด 18 นิ้วเพื่อให้เข้ากันกับขนาดตัวที่ดูใหญ่ขึ้น ประตูท้ายไฟฟ้าเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานพร้อมระบบแฮนด์ฟรี การออกแบบของ CR-V ไม่ใช้อารมณ์ความก้าวร้าว ดุดัน โฉบเฉี่ยวแต่อย่างใด กลับเป็นอารมณ์ของสุนทรียภาพความเป็นรถชั้นเลิศที่รถสักคันจะมอบให้ได้เสียมากกว่า
CR-V มอบความสุนทรียภาพความเป็นรถชั้นเลิศแบบเต็มขั้น
มาที่ด้านของ Mazda CX-5 กับการแบกรับทั้งชื่อเสียงและมาตรฐานที่โมเดลแรกสร้าง จนกลายเป็นความท้าทายที่มากขึ้นของวิศวกรผู้ออกแบบ สิ่งที่เห็นได้ใน Mazda CX-5 โฉมล่าสุดนี้คือผู้ออกแบบพยายามจะไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนมากนักจนดูเป็นรถคนละคัน แต่กลายเป็นการต่อยอด เพิ่มความชัดเจนของ “KODO Design” ของ Mazda ให้มากขึ้น ผลผลิตที่ได้นำไปสู่ความโฉบเฉี่ยวที่มากว่ารุ่นแรก เส้นสายที่เรียบง่าย น้อยแต่ชัดเจน รู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้แหละคือ “Mazda” งดงามแต่ทรงพลังจากภายใน ให้ลูกเล่นที่ไฟหน้ามาเยอะเช่นกันทั้งไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED, ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติรวมไปถึงไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และอีกลูกเล่นที่สำคัญนั่นคือหลังคาซันรูฟที่ CR-V ไม่มี
ดีไซน์ของ CX-5 ปรับแต่งต่อยอดจากโมเดลแรกที่ประสบความสำเร็จ
เทียบมิติตัวถัง Honda CR-V vs Mazda CX-5
ความยาวตัวถัง (mm.) :: CR-V(4571), CX-5(4550)
ความกว้างตัวถัง (mm.) :: CR-V(1855), CX-5(1840)
ความสูงตัวถัง (mm.) :: CR-V(1667), CX-5(1680)
ระยะฐานล้อ (mm.) :: CR-V(2660), CX-5(2,700)
ความสูงจากพื้น (mm.) :: CR-V(208), CX-5(193)
CR-V และ CX-5 ต้องบอกเลยว่าสูสีเมื่อเทียบมิติตัวถังห่างกันไม่มาก มิติของ CR-V ดูกว้างกว่าใช่หลอกตาแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลของดีไซน์จาก CX-5 ไม่น่าแปลกใจถ้าตัวรถจะแคบกว่าเพราะเน้นไปในทางโฉบเฉี่ยว สปอร์ตแบบเต็มขั้น แต่ CR-V นอกจากตัวรถที่ดูกว้างกับเส้นสายที่มากกว่าแล้วแต่คะแนนความหรูหราก็ใช่ย่อยมีมาให้แบบเต็มกราฟ
ห้องโดยสารของ CR-V มีดีกว่าในเรื่องของจำนวนเบาะนั่งที่มีมาให้ถึง 7 ตำแหน่ง อีกทั้งยังสามารถเลือกปรับใช้สอยตามการใช้งานได้อย่างไม่ติดขัด ผนวกกับการออกแบบและตกแต่งด้วย ลายไม้ชิ้นส่วนสีดำ Piano Black ในเรื่องอุปกรณ์ภายในต่างๆ ของ Honda CR-V มีมาให้ที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้
เรือนไมล์จอดิจิตอลแบบ TFT จอสี
Navigation – ระบบนำทางเนวิเกเตอร์
หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay
ช่องเชื่อมต่อ HDMI
จำนวนลำโพง 4 + 4 (ทวีตเตอร์)
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระ ซ้าย/ขวา
วัสดุตกแต่งพวงมาลัย สีเงินเมทัลลิก
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
อีกช้อได้เปรียบของ CR-V คือให้เบาะมาสามแถว 7 ที่นั่ง
ส่วนของ Mazda CX-5 อาจจะด้อยกว่าที่จำนวนเบาะนั่งซึ่งมีมาให้ 5 ตำแหน่งแบบเดียวกับรถเก๋งซีดานธรรมดา แต่เรื่องออฟชั่นอุปกรณ์และการออกแบบภายในที่มากับการตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครม ไม่ได้ดูยิ่งหย่อนไปกว่า CR-V เลยแม้แต่น้อย ไปดูกันว่าภายในของ CX-5 มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี บนกระจกหน้า Windshield Active Driving Display
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี MID (Multi Information Display)
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
ระบบเสียงจาก BOSE รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
เรียบแต่หรู น้อยแต่ครบสำหรับ Mazda CX-5
กินกันไม่ลงจริงๆ ที่ภายใน ทั้งสองค่ายจัดหนักจัดเต็มเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ มาแบบ ไม่หวงของ แต่ที่ได้เปรียบกว่านิดๆ คือเรื่องของระบบรองรับความบันเทิงที่ทาง CR-V ให้มาดูจะเหนือกว่า อีกทั้งระบบ Navigation นำทาง ช่องเชื่อมต่อภาพ HDMI แต่ Mazda ก็มีจุดที่เหนือกว่าอย่างลำโพง 10 ตำแหน่ง ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander แบบเฉพาะของ Mazda และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางต้องยอมรับว่า Mazda จ่ายน้อยกว่าแต่สิ่งที่ได้ไม่รู้สึกว่ายิ่งหย่อยไปกว่า CR-V เลยแม้แต่น้อย
เครื่องยนต์ของ CR-V มากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4L DOHC i-VTEC พ่วงด้วยเทคโนโลยี Earth Dreams เค้นพลังออกมาได้สูงสุดอยู่ที่ 173 แรงม้า รองรับพลังงานทงเลือก E85 ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ REAL TIME AWD with E-DPS ที่ตอบสนองได้ดั่งใจไปพร้อมกับความนุ่มนวลในการขับขี่ ครบทุกรูปแบบการเดินทาง
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4L DOHC i-VTEC ของ CR-V
ส่วนทางด้านของ Mazda CX-5 แน่นอนว่าต้องมากับเทคโนโลยี SKYACTIV ทั้งเครื่อยนต์และระบบเกียร์ โดยเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0L ให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 165 แรงม้า แรงบิดสูง แรงบิดสูง 210 นิวตัน-เมตร ที่พัฒนามากขึ้นในเรื่องความประหยัดน้ำมันและปล่อยมลพิษน้อยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับ SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติ 6 Speed ตอบสนองได้ทันใจและแม่นยำกว่า ให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่องราบรื่น
เครื่องยนต์ เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0L ของ CX-5
เรื่องเครื่องยนต์แม้จะต่างกันถึง 400 ซีซีแต่ด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV ทำให้ CX-5 ขับแรงม้าออกมาได้ไม่ยิ่งหน่อยไปกว่า CR-V มากนัก แต่ถึงอย่างไรแล้ว CR-V ยังให้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติมาให้ด้วยกับราคาที่ต่างกันแค่ 15,000 บาท จึงปฎิเสธไม่ได้ที่ CR-V จะเข้าวินในข้อนี้ไป
เปรียบเทียบความปลอดภัย Honda CR-V vs Mazda CX-5 :: CX-5 เข้าวินเพราะ i-ACTIVSENSE
ในเรื่องระบบความปลอดภัย CR-V ยังไม่มีการนำระบบ “Honda Safety Sense” มาให้ใน CR-V โฉมนี้ ทั้งที่รุ่นที่จำหน่ายในต่างประเทศนั้นมีระบบนี้มาให้ คาดว่าจะมาพร้อมกับรุ่นไมเนอร์ฯ จึงทำให้ระบบความปลอดภัยของ CX-5 ดูดีกว่าขึ้นมาอย่างชัดเจน ภายใต้ระบบความปลอดภัยในชื่อ “i-ACTIVSENSE” ที่มีการนำเรดาห์และกล้องเข้ามาช่วยในการประมวลผลสถานการณ์การขับขี่ เพิ่มความปลอดภัยได้ยิ่งกว่า
อุปกรณ์ความปลอดภัยที่น่าสนใจของ Honda CR-V มีดังต่อไปนี้
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda LaneWatch
ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Monitor
Agile Handling Assist (AHA) – ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่
Vehicle Stability Assist (VSA) – ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง
Multi-angle Rearview Camera – กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ เพิ่มทัศนวิสัยในการถอย
ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ (Dual i-SRS)
ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbags)
ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
ออฟชั่นความปลอดภัยของ CR-V มีมาให้ครบครันแต่ยังไม่ครบเครื่อง
อุปกรณ์ความปลอดภัยที่น่าสนใจของ Mazda CX-5 มีดังต่อไปนี้
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะขับถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะขับถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist system)
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS (Smart City Brake Support)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support)
ระบบช่วยหยุดรถขณะขับถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
i-ACTIVSENSE คือจุดเด่นที่ CX-5 มีเหนือกว่า CR-V
โดยสรุปแล้วในส่วนของความปลอดภัย CX-5 ได้เปรียบ CR-V เต็มๆ จากอานิสงส์ของบารมีเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE เพราะนอกจากนี้ เรื่องระบบความปลอดภัยพื้นฐานอื่นๆ ทั้งจำนวนถุงลม ระบบเบรก ABS, BA และอื่นๆ มีมาให้ไม่ต่างกันมากนัก ดังนั้นถ้าจะนับเรื่องความปลอดภัยต้องให้ CX-5 ได้เปรียบในหัวข้อนี้
สรุป
ถ้าให้สรุปโดยไม่ดูตัวเลขยอดขายหรือดีไซน์ที่ต่างคนต่างชอบแล้วนั้น ดูเหมือน Mazda CX-5 จะได้เปรียบกว่านิดๆ แต่ด้วยเพราะเรื่องโลโก้แบรนด์ที่ติดอยู่หน้ารถอย่าง Honda ที่สร้างสมชื่อเสียงมาได้น่าเชื่อถือกว่า อีกทั้งยังได้เครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า แรงกว่าแถมยังได้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อีกทั่งความโดดเด่นของ CX-5 ในแต่ละข้อนั้นไม่สามารถใช้คำว่า “ฉีกขาด” CR-V ได้มากพอ สิ่งที่ CR-V มีมาให้ในหัวข้อต่างๆ นั้นอาจจะด้อยกว่า CX-5 เพียงเล็กน้อยไปจนถึงเทียบเท่า ไม่สามารถซื้อใจผู้ซื้อได้อย่างชัดเจน ทำให้ผลออกมาเป็นยอดขายของ CR-V ที่มากกว่า CX-5 หลายขุมในปี 2017 และ Honda CR-V ก็น่าซื้อกว่าจริงๆ
Honda CR-V หรือ Mazda CX-5 น่าซื้อทั้งสองรุ่น เทียบแล้วต่างกันไม่มาก
น่าจะพอเป็นไอเดียในการตัดสินใจให้สำหรับผู้ที่กำลังลังเลรถทั้งสองรุ่นได้ไม่มากก็น้อย ทางเลือกที่แตกต่างอย่าง SUV ไม่เพียงแค่ความโดดเด่นที่มากกว่ารถเก๋งซีดานทั่วไป แต่เรื่องอรรถประโยชน์นั้นก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับถนนเมืองไทยบ้านเรา ยังไงแล้วลองถามใจตัวเองดูให้ดีก่อนตัดสินใจจ่ายเงินล้าน ทั้งความชอบในเรื่องดีไซน์ อุปกรณ์การใช้งานและบริการหลังการขายของรถแต่ละรุ่น ต้องถูกใจคุณในทุกข้อ
ดูเพิ่มเติม