อาจจะดูไม่ค่อยสมน้ำสมเนื้อสักเท่าไร เมื่อจะนำรถสองรุ่นนี้มาทำการเปรียบเทียบกันแบบจริงจัง กับยอดขายที่ห่างกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่คู่คี่สูสีเท่าตลาดรถปิคอัพ หรือประเภทรุ่นที่เล็กกว่าหนึ่งระดับอย่าง subcompact car แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Honda Civic vs Toyota Altis ก็ดูเหมือนจะเป็นคู่ฟัดคู่กัดที่สมน้ำสมเนื้อเท่าที่เป็นไปได้ที่สุดตอนนี้แล้วในตลาดรถ Sedan ขนาดกลางของประเทศไทย
Honda Civic ชื่อรุ่นที่การันตีคุณภาพมาอย่างยาวนานกว่า 40-50 ปี ที่ค่ายเอชใหญ่จากดินแดนตะวันแดง ประเทศญี่ปุ่น อย่าง Honda สร้างชื่อมาอย่างยาวนาน จนโฉมปัจจุบันเป็นเจเนอเรชั่นที่ 10 แล้ว ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2016 ภายใตรหัส FC จากนั้น Civic ก็แทบจะกลายเป็นรถเจ้าตลาด นำโด่งในยอดจำหน่ายรถซีดานขนาดกลางทิ้งคู่แข่งจากประเทศเดียวกันอย่าง Toyota Altis แบบไม่เห็นฝุ่น จากที่ก่อนหน้า Civic FC จะเปิดตัวนี้ Toyota Altis ก็เคยอยู่ในสถานะเดียวกับ Civic นำโด่งยอดขายเป็นเจ้าตลาดแต่เพียงผู้เดียว โดยโฉมของ Corolla Altis เปิดตัวมาเป็นโฉมเจเนอเรชั่นที่ 11 แล้วตั้งแต่ปี 2014 ภายใต้นิยาม So Excited กับภาพลักษณ์ของความปราดเปรียวมากกว่า ทิ้งยอดขายอันดับ 2 ซึ่งตอนนั้นเป็น Civic โฉม FB ที่ประสบความล้มเหลวไม่เป็นท่า มียอดขายปี 2014, 2015 ได้ไม่ถึงครึ่งของ Altis ด้วยซ้ำ
สปอร์ตนำต้อง Civic เรียบหรูไป Altis
การนำสองรุ่นนี้ Honda Civic vs Toyota Altis จึงเปรียบเสมือนเทียบมวยสูสี ที่รุ่นหนึ่ง ตอนนี้มอบความสด ใหม่ เทคโนโลยีอัดแน่น กับอีกรุ่นเป็นมวยเก๋า ทน อึด เป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้งานทั้งแบบส่วนตัวและรถสาธารณะ TAXI เทียบข้อดีข้อเสีย ตามมุมมอง ข้อได้เปรียบ แต่ละรุ่นก็จะมีต่างกันภายใต้รูปแบบเฉพาะตัว
เปิดราคา
โดยอ้างอิงรุ่นย่อยที่นำมาเปรียบเทียบจากรุ่นตัวท็อป ราคาแพงที่สุดของแต่ละรุ่นดังต่อไปนี้
(อ้างอิงจากเว็บหลัก ของแต่ละค่าย)
Honda Civic TURBO RS 1,199,000 บาท
Toyota Altis 1.8V Navi ราคา 1,079,000 บาท
เปิดราคามาจะเห็นว่าตัวท็อปของ Honda Civic แพงกว่าถึงหลักแสน แต่ที่แพงกว่าจะด้วยเหตุผลของอุปกรณ์ ออพชั่นต่างๆ อย่างเครื่องยนต์ขนาดเล็ก แต่จี๊ดด้วย Turbo ความปลอดระดับสูง ต่างๆ ซึ่งเราไปดูกันว่าความแพงที่ต้องจ่ายเพิ่มนี้ จะคุ้มหรือไม่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ Toyota Altis ให้มาในเรื่องการใช้งานพื้นฐานอันพร้อมสรรพและด้วยชื่อ Toyota Altis มีอะไรดีถึงขายแพงในราคาเหยียบล้านได้
ภายนอกคือสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับสำหรับ Toyota Altis เพราะ Honda Civic ที่นอกจากความสด ใหม่ มีเหนือกว่าแล้ว ดีไซน์ หน้าตาถือว่า Honda ทำการบ้านข้อนี้มาได้อย่างดี ตอบทุกโจทย์ความต้องการ ทุกระดับของผู้ซื้อได้ วัยรุ่นที่ต้องการความสปอร์ต ซื้อไปตกแต่งเพิ่มก็ยิ่งสวย วัยกลางคนขับเดิมๆ ก็มอบความหรูหราให้ได้แบบครบทุกองศาการใช้
สปอร์ตเต็มลำ แต่ถ้าหาความหรูหราก็มีให้ใน Honda Civic
หน้าตาของ Civic โฉมนี้ถูกยกระดับไปเทียบได้กับรถยุโรปได้เลย แบบไม่เขินอาย ด้วยเส้นสายการออกแบบด้านหน้า กับกระจังหน้าโครเมี่ยม ขนาดใหญ่ ไล่ยาวไปบรรจบกับไฟหน้า LED สไตล์สปอร์ตทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นแบบฉบับการออกแบบของรถ Honda ยุคใหม่ “Solid Wing” พร้อมไฟตัดหมอก ด้านล่าง ไล่มาที่ด้านข้างจะพบกับความชัดเจนของความเป็นซีดานหรูยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายของตัวถังและล้อขนาด 17 นิ้วที่เข้ากันได้ไม่ดูขัดตา ในรุ่น RS จะให้สปอยเลอร์ลักษณะเป็น Wing ด้านหลังขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่เข้ากันได้อย่างลงตัวที่สุดกับไฟท้าย LED แบบ C-Identity
Toyota Altis แม้จะออกมานานกว่าแต่ได้มีการเปิดโฉมไมเนอร์เชนจ์ปรับหน้าตานิดหน่อย ไปเมื่อปลายปี 2016 เพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้มากขึ้น เพื่อหวังต่อสู้กับยอดขายของ Civic Altis โฉมนี้ตัวรถถูกปรับให้ใหญ่ขึ้นกว่าโฉมก่อนหน้า ปรับความสูงของหลังคาให้น้อยลงเพื่อเพิ่มความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวให้กับตัวรถ ที่ด้านหน้ามากับกระจังโครเมี่ยมที่เล็กลงกว่ารุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Futuristic Prestige” เชื่อมระหว่างไฟหน้าทั้งสองข้างที่เป็นแบบ Bi-Beam LED Projector ปรับระดับและเปิด–ปิด อัตโนมัติและไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED พร้อมไฟตัดหมอก ไล่มาจนด้านข้างที่เส้นสายการออกแบบอาจไม่ได้สร้างความตื่นให้มากสักเท่าไรนัก แต่ทดแทนได้ด้วยไฟท้าย ทรงยาว LED แบบ Light Guiding โดดเด่นและชัดเจนขึ้น ที่ถูกเชื่อมต่อด้วยการตกแต่งจากแถบโครเมี่ยม เช่นเดียวกับด้านหน้า มอบความสมบูรณ์แบบของรูปทรงรถโดยรวมภายนอกได้มากยิ่งขึ้น
Altis ภายนอกเรียบๆ แต่แฝงด้วยความหรูหรา
เทียบมิติตัวถัง Honda Civic VS Toyota Altis
ความยาวตัวถัง (mm.) :: Civic(4,630), Altis(4,620)
ความกว้างตัวถัง (mm.) :: Civic(1,799), Altis(1,775)
ความสูงตัวถัง (mm.) :: Civic(1,416), Altis(1,460)
ระยะฐานล้อ (mm.) :: Civic(2,698), Altis(2,700)
ความสูงจากพื้น (mm.) :: Civic(125), Altis(130)
ถ้าให้คะแนน ความหวือหวา โฉบเฉี่ยว ดูล้ำและสปอร์ตกว่าต้องให้กับ Civic ที่ขยับร่างตัวถังเข้าไปใกล้ๆ ประเภทรถซีดานขนาด D-Segment เบียดรุ่นร่วมค่ายอย่าง Accord เข้าไปทุกขณะ ปัจจัยภายนอกเรื่องขนาดและความยาวของตัวถังจะส่งผลต่อพื้นที่ความสะดวกสบายภายใน ถูกใจผู้ซื้อสายสปอร์ตอย่างเต็มขั้น แต่ก็ไม่ทิ้งความหรูหราสำหรับผู้ที่ถวิลหา สามารถมอบ 2 อารมณ์ได้ในรถคันเดียว แต่สำหรับ Altis ภายนอกอาจไม่ค่อยสร้างความตื่นเต้นสักเท่าไร จะด้วยเพราะเห็นรุ่นนี้บ่อยเกินตามท้องถนนจากความเป็นรถโดยสารสาธารณะ แต่เมื่อได้เห็นรุ่นนี้ที่เป็นรถส่วนบุคคลก็รู้สึกได้ว่า จริงๆ แล้วรุ่นนี้ Toyota ทำออกมาสวยไม่น้อยเหมือนกัน ถ้าเป็นสาวกค่ายสามห่วงจริงๆ จะซื้อรุ่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไร แต่ถ้ากลางๆ ไม่ขึ้นกับค่ายไหน Civic น่าจะได้คะแนนสูงกว่าในการออกแบบภายนอกที่ตอบโจทย์ความสปอร์ตและหรูหราได้ในเวลาเดียวกัน
ภายในของ Civic และ Altis ถูกออกแบบภายใต้ความล้ำหน้า และเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวไม่แพ้กัน การเลือกใช้วัสดุชั้นดี มีคุณภาพสูงมาประกอบในการตกแต่งของทั้งสองรุ่น ให้ความรู้สึกสปอร์ตและหรูหราด้วยดีไซน์เพียงต่าง ขนาดพื้นที่ภายในที่กว้างขวางไม่โดดกันมาก ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น พัฒนาขึ้น สามารถมอบความสะดวกสบายได้ไม่น้อยหน้ารถประเภท D-Segment ส่วนอุปกรณ์ที่ทั้งสองรุ่นนี้ให้มามีอะไรต่างกันบ้างไปดูกัน
Civic มีมาตรวัดจอแสดงข้อมูลการขับขี่เป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด แต่ Altis ยังเป็นเพียงแค่เข็มธรรมดาพร้อมจอ MID พร้อมไฟหลากสี
Civic มีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเปิดแอร์ด้วยกุญแจรีโมท
Civic มีเบรกมือไฟฟ้าและระบบ Auto Brake Hold
Civic ให้ลำโพงมามากกว่าอยู่ที่ 8 ตำแหน่งแต่ Altis ให้มา 6 ตำแหน่ง
Altis มีระบบกรองอากาศในห้องโดยสารมาให้แต่ Civic ไม่มี
เบาะนั่งฝั่งผู้โดยสาร Altis ปรับได้ 8 ทิศทางแต่ Civic ปรับได้แค่ 4 ทิศทาง
Civic รองรับ Apple CarPlay ส่วน Altis มีบริการพิเศษ T-Connect จาก Toyota
Civic ให้ช่อง HDMI พร้อม ช่อง USB และช่องจ่ายไฟสำรอง ส่วน Altis มีช่อง USB มาให้ 2 ช่อง
ทั้งสองรุ่นมีถุงลมมาตรฐานมาให้หลายตำแหน่ง ทั้งคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมแต่ Altis มีถุงลมนิรภัยบริเวณเข่าด้านคนขับมาให้ด้วยซึ่ง Civic ไม่มีมา
เบาะหลังของ Altis ปรับพับได้แบบ 60:40
Civic และ Altis มีกล้องมองหลังมาให้ทั้งสองรุ่นแต่ Civic พิเศษกว่าที่สามารถปรับได้ 3 ระดับ
ภายในของ Honda Civic ที่โดดเด่นด้วยมาตรวัด เป็นหน้าจอแสดงผลเต็มรูปแบบ
แม้เหมือน Altis จะมีเรื่องออพชั่นกระจุ๊กกระจิ๊กให้มากกว่า Civic แต่เรื่องอุปกรณ์ใหญ่ๆ และเทคโนโลยีน่าสนใจอย่าง จอแสดงเต็มรูปแบบไร้เข็มที่มาตรวัดอีกต่อไป, สตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเปิดแอร์ด้วยกุญแจ, เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold, Apple CarPaly แม้ราคารถที่แพงกว่าแต่ก็ทำให้ Civic ดูพิเศษกว่า Altis ด้วยออพชั่นล้ำๆ ที่รถในเมืองไทย ยังไม่ค่อยได้สัมผัสกันมากนัก
ภายในของ Altis มีหน้าจอมาตรจัดแบบดั่งเดิม เพิ่มเติมสีสันและจอ MID
Altis มากับเครื่องยนต์รหัสพิมพ์นิยม 2ZR-FBE พร้อมระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8L พร้อมระบบช่วยเพิ่มแรงบิดในทุกระดับความเร็ว ACIS (Acoustic Control Induction System) ให้กำลัง 141 แรงม้า และรองรับน้ำมัน E85 ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ Super CVT-i 7 Speed แบบ Gate-type พร้อมระบบ Sequential Shift สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการเพื่อให้เหมาะสมกับรอบเครื่อง เพียงขยับเกียร์ไปที่ + หรือ –
เครื่องยนต์ 1.8L Dual VVT-i ของ Toyota Altis
ส่วน Civic เป็นเครื่องยนต์เทคโนโลยีใหม่ ที่เน้นอัตราเร่งมากกว่าขนาดของเครื่องยนต์ Honda ปรับลดขนาดเครื่องยนต์ลงมาเน้นพัฒนาเครื่องยนต์ผสมตัวช่วยด้านกำลังอัดอย่าง Turbo ภายใต้ Earth Dreams Technology จนกลายมาเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5L DOHC VTEC TURBO ให้กำลังม้ามากถึง 173 แรงม้า ไม่น้อยหน้ารถเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่ประหยัดน้ำมันเทียบเท่ารถขนาดเครื่องยนต์ 1.8L ทำงานร่วมกับเกียร์ CVT และรองรับน้ำมัน E85 เช่นเดียวกัน
ทั้งสองรุ่นมี Paddle Shift มาให้ขับสนุกมากขึ้น ในเรื่องพละกำลังอาจต้องยกให้ Civic ทั้งเรื่องความแรงและแรงม้า ถึงแม้เครื่องยนต์จะเล็กกว่าเพียง 1.5L แต่สามารถผลิตฝูงม้ามาได้เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8L ของ Altis กว่า 30 ตัว ต้องให้เครดิตเรื่องเทคโนโลยีเครื่องยนต์และการนำเทอร์โบเข้ามาช่วยของ Civic ส่วนเครื่องยนต์ Altisรุ่นนี้ถูกนำมาใช้อย่างยาวนานหลายรุ่นแล้ว ถ้าจะนับข้อดีจะโดดเด่นในด้านความคงทน และอะไหล่มือสองสำหรับซ่อมที่ราคาถูกกว่าในอนาคตถ้ารถต้องถึงเวลาซ่อมบำรุง
เครื่องเล็ก 1.5L แต่จี๊ดจ๊าดด้วย Turbo ของ Honda Civic
ถ้าพูดถึงความปลอดภัย Altis ตามที่ระบุในส่วนของภายใน มีจุดของถุงลมมาให้มากกว่า Civic คือบริเวณรองรับเข่าคนขับ แต่ที่ล้ำของ Civic คือระบบแสดงภาพมุมอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน “Honda LaneWatch” นอกนั้นความแตกต่างด้านความปลอดภัยที่ทั้งสองรุ่นให้ก็มีไม่มากให้มาครบตามมาตรฐานความปลอดภัยที่รถยุคนี้ต้องมี ทั้ง ABS/EBD ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ถือว่าอยู่ในระดับความปลอดภัยสูงทั้งสองรุ่น
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน “Honda LaneWatch” ใน Civic
จากการเปรียบเทียบหลายๆ ด้านทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์และความปลอดภัยดูเหมือนว่า Honda Civic เป็นรุ่นที่น่าซื้อกว่าในทุกๆ ด้าน แต่ด้วยความที่เป็นรถจากค่าย Toyota และดีไซน์บวกออพชั่นต่างๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ไม่ขี้เหร่ จึงทำให้ Altis ยังขายดีอยู่เป็นอันดับสองของตลาดรถประเภทนี้ ส่วน Civic เหมือนจะติดลมบนไปไกล ทำยอดขายมากกว่า Altis ตลอดทั้งปีนี้และก็น่าจะยาวไปจนถึงปีหน้าด้วยเช่นกัน จนกว่าที่ Altis จะเปิดตัวรุ่นใหม่ โฉมใหม่ ถ้าไม่ออกแบบมาให้เด็ดดวงจริงๆ จนต้องกราบ! ก็ยากที่จะโค่นแชมป์หรือดึงดูดผู้ซื้อไม่ให้ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อ
ซีดาน Honda Civic คันนี้ได้
ถ้าเน้นพิมพ์นิยม เน้นใช้งานครบๆ เป็นหลัก ดีไซน์ เทคโนโลยีไว้ทีหลัง Toyota Altis คือคำตอบ แต่ถ้าเน้นดีไซน์ ความสวยเป็นสำคัญ ไม่อยากขับไปบนถนนเจอรุ่นเดียวกันแต่เป็นสีเขียว-เหลือง พร้อมด้วยนวัตกรรมของรถในอนาคตเพื่อช่วยทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย Honda Civic ที่ราคาอาจจะแพงกว่าแสนบาท แต่มันก็น่าซื้อสำหรับใครบางคนที่มีเหตุผลการเลือกในข้างต้น
ดูเพิ่มเติม
>> เทียบสเปค Honda HR-V vs Mazda CX-3 คันไหนเหมาะกับคุณ
>> เปรียบเทียบ Yaris Ativ กับ Suzuki Ciaz คันไหนน่าใช้กว่า ?