ช่วงที่ PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ คืออุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยทำความสะอาดตามซอกมุมต่าง ๆ ภายในรถออกได้ ลดการสะสมของฝุ่นละออง สาเหตุของภูมิแพ้!
เครื่องดูดฝุ่นในรถ เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ขาดไม่ได้ และควรมีติดรถไว้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่ PM 2.5 ครองเมือง จนประเทศไทยติดอันดับเมืองที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเช่นนี้ (รายงานคุณภาพอากาศ จัดอันดับเมืองมลพิษโลก) ซึ่งเครื่องดูดฝุ่น ในรถ 2023 มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือก มีราคาไม่แพงจับต้องได้ จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกัน
ที่ดูดฝุ่นในรถ แบบเสียบปลั๊กในรถ มีแรงดูดสูงถึง 4500PA กำลังไฟ 120W สามารถดูดสิ่งสกปรกออกได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมถ้วยเก็บฝุ่นจุได้ 400 มิลลิลิตร สายไฟยาว 4.5 เมตร ทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุมภายในรถ และหัวแปรงรูปแบบต่าง ๆ ซอกซอนได้ทุกมุม โดยจะมีราคาอยู่ที่หลักร้อยบาท
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย แรงดูด 3500PA กำลังไฟฟ้า 120W ความจุ 500 มิลลิลิตร มีหัวแปรงหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น หัวดูดปากกว้าง หัวดูดปากแบน หัวดูดแบบยาว และแปรงท่อยาว สามารถเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ใช้ได้หลากหลายพื้นผิว ทั้งเบาะหนัง พรม และพื้นผิวทั่วไป ตัวไส้กรองถอดทำความสะอาดได้ง่าย ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก จัดเก็บง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ ซึ่งราคาจะอยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท (ขึ้นอยู่กับส่วนลดของร้าน)
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาและเก็บง่าย แม้จะมีกล่องเก็บฝุ่นขนาดเล็กเพียง 100 มิลลิเมตร แต่มีกำลังแรงดูดสูงถึง 5000PA ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 2000mAh โดยจะใช้เวลาชาร์จเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น มาพร้อมกับพัดลมคู่ ช่วยให้กรองอากาศได้รวดเร็ว และระบบการกรองแบบสองขั้นตอนด้วย prefilter และ HEPA 11 ระดับ กรองอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน นอกจากนี้ ยังมีไฟ LED ช่วยให้ความสว่างในที่มืดอีกด้วย ซึ่งราคาจะอยู่ที่ หลักร้อยบาท
เครื่องดูดไรฝุ่นในรถขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาได้ง่าย มีกำลังดูดสูงสุด 6000PA กำลังไฟ 120W ทำความสะอาดได้เร็ว ดูดฝุ่นได้ทุกซอกทุกมุม ใช้งานได้นานสุด 30 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับความจุของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 2200mAh ใช้เวลาชาร์จ 5 ชั่วโมง ตัวถ้วยกรองฝุ่นและแผ่นกรอง สามารถถอดออกเพื่อทำความสะอาดได้ สำหรับราคาจะอยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท (ขึ้นอยู่กับส่วนลดของร้าน)
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ที่มีแรงดูดมากถึง 15000PA สามารถดูดได้ทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นขยะในรถ ฝุ่นตามซอกพื้น หรือขนสัตว์ มีความจุแบตเตอรี่ 2500mAh ใช้งานได้ 32 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยจะใช้เวลาชาร์จประมาณ 2-3 ชั่วโมง มาพร้อมกล่องเก็บฝุ่นขนาด 150 มิลลิตร ไฟ LED ในตัว ทำความสะอาดได้แม้ในที่มืด และหัวดูดหลากหลายแบบให้เลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ โดยมีราคาอยู่ที่หลักพันบาท
เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์มีให้เลือกหลายรุ่นหลายยี่ห้อ โดยจะมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบ้าน ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกัน โดยอาจพิจารณาเลือกซื้อจากงบประมาณ ความสะดวกในการใช้งาน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์
อ่านเพิ่มเติม >>