ส่อง 5 รถฟอร์ด ราคาไม่ตก ใช้จนคุ้ม ก็ยังขายง่าย

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 17 ต.ค 2566
แชร์ 0

ส่อง ! 5 รถฟอร์ด ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ชาวไทย ราคาขายต่อไม่ตก ใช้จนคุ้ม ก็ยังขายง่าย จะมีรุ่นไหนบ้าง ใช่รุ่นที่คุณเล็งไว้หรือไม่ ดูคำตอบได้ที่นี่

Ford (ฟอร์ด) แบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอีกแบรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะโซนสหรัฐอเมริกาและยุโรป ข้อดีคือมีราคาเป็นมิตรจับต้องได้ มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดี พวงมาลัยแน่น ช่วงล่างหนึบกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไป ทั้งยังมีรางวัลการันตีจากสนามแข่งระดับโลกอีกหลายรางวัล ทำผลงานจนได้อยู่แถวหน้าในการแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์โลก (WRC) ทำให้ รถ ฟอร์ด ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ในหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น 

และหากใครสนใจ อยากซื้อรถ ฟอร์ด 2023 มาใช้งาน ขอแนะนำ 5 รถฟอร์ด ราคาไม่ตก ใช้จนคุ้ม ก็ยังขายง่าย พร้อมราคาฟอร์ด รุ่นไหนจะถูกใจคุณ มาดู ! 

1. Ford Everest 2023

Ford Everest 2023

Ford Everest​ 2023 (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) รถยนต์อเนกประสงค์ PPV ที่ดัดแปลงจากพื้นฐานจากกระบะ Ford Ranger นอกจากจะให้ความสะดวกสบายแล้ว ยังมีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่น ประกอบด้วย 

  • Everest 2.0L Turbo Trend 4x2 6AT ราคา 1,354,000 บาท
  • Everest 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT ราคา 1,484,000 บาท
  • Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT ราคา 1,724,000 บาท
  • Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT ราคา 1,874,000 บาท
  • Everest 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4x4 10AT ราคา 1,899,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก

ดีไซน์ภายนอกของ Ford Everest แต่ละรุ่นย่อยมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน รุ่น Trend จะใช้การตกแต่งแบบพื้นฐาน รุ่น Sport จะมาพร้อมชุดตกแต่งภายนอกสีดำ Spot ขณะที่รุ่น Titanium+ นั้นเพิ่มความหรูหราด้วยโครเมียม ส่วนรุ่น Wildtrak จะใช้ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Wildtrak ที่มีความสปอร์ตดุดัน โดยทุกรุ่นจะได้รับการติดตั้งไฟหน้า LED ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED รูป C-Clamp ไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟท้าย LED และกระจกมองข้างแบบพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว 

ดีไซน์ภายใน

การตกแต่งภายในแต่ละรุ่นก็ไม่เหมือนกัน ในรุ่น Trend และรุ่น Sport จะได้หน้าจอสีขนาด 8 นิ้ว, ระบบเปิด-ปิดกระจกสัมผัสเดียว เฉพาะด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า, หน้าจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว ส่วนรุ่น Titanium+ และ Wildtrak นั้นจะใช้หน้าจอสีขนาด 12.4 นิ้ว, ระบบเปิด-ปิดกระจกสัมผัสเดียวทุกบาน, หน้าจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว, ระบบสั่งการด้วยเสียง โดยทุกรุ่นจะมีการติดตั้งกุญแจรีโมตพร้อมปุ่มสตาร์ตรถอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ไฟอ่านแผนที่ภายในรถ, Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบ FordPass Connect มาช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการใช้งานด้วย

Ford Everest 2023

ระบบความปลอดภัย

ในส่วนของระบบความปลอดภัยนั้นมีการติดตั้ง ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านถุงลมนิรภัย/และถุงลมบริเวณหัวเข่า, สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบเบรก ABS และกระจายแรงเบรก EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) และป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (HDC) มาพร้อมออปชันอื่น ๆ อีกหลายรายการ 

ขุมพลัง

  • เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที  ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
  • เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ขนาด กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด 

สีตัวถัง

  • Aluminium Metallic
  • Meteor Grey
  • Absolute Black
  • Blue Lighting
  • Eqiunox Bronze
  • Luxe Yellow
  • Snowflake White Pearl
  • Sedona Orange

2. Ford Ranger Raptor 2023

Ford Ranger Raptor 2023

ดุดัน ไม่เกรงใจใคร Ford Ranger Raptor 2023 (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็ปเตอร์) กระบะ 4 ประตู 5 ที่นั่ง ที่ได้รับการอัปเกรดแชสซีให้แกร่งขึ้น โดยมีจุดยึดช่วงล่างที่ถูกออกแบบมาเพื่อแร็ปเตอร์โดยเฉพาะ ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน ลุยได้ทุกสภาพถนน มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รูปแบบให้เลือกทั้งดีเซล เทอร์โบคู่ และเบนซิน วี 6 สูบ เทอร์โบคู่ แบ่งได้ทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย 

  • Ranger Double Cab Raptor 2.0L Bi-Turbo 4WD 10AT ราคา 1,769,000 บาท
  • Ranger Double Cab Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT ราคา 1,919,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก

ดีไซน์ภายนอกแข็งแกร่งดุดัน ได้รับการติดตั้งกระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซน์พิเศษแบบ Raptor มาพร้อมไฟหน้า Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED รูป C-Clamp ไฟท้ายแบบ LED ตัวถังขยายกว้างพิเศษพร้อมซุ้มล้อ ฝาท้ายแบบผ่อนแรง และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน

ภายในห้องโดยสารมีการติดตั้งระบบเลือกโหมดการขับขี่ 7 โหมดแบบหมุน, แท่นชาร์จไร้สาย, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, หน้าจอแสดงผลหน้าปัด จอสีขนาด 12.4 นิ้ว, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา, ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, หน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A, ระบบ FordPass Connect เป็นต้น

Ford Ranger Raptor 2023

ระบบความปลอดภัย

สำหรับระบบความปลอดภัย ใช้ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านถุงลมนิรภัย/และถุงลมบริเวณหัวเข่า, สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า-หลัง , กล้องมองหลังขณะถอยจอด พร้อมกล้องมองรอบคัน 360 องศา, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control พร้อม Electric Brake Booster, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน, ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง และอีกมากมายที่พร้อมสร้างความอุ่นใจให้ผู้ใช้ในระหว่างการเดินทาง

ขุมพลัง

  • เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอรฺโบชาร์จเจอร์คู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด 
  • เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 3.0 ลิตร 2,956 ซีซี. 6 สูบ 24 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ ให้กำลังสูงสุด 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 583 นิวตันเมตร 3,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

สีตัวถัง

  • Absolute Black
  • Arctic White 
  • Code Orange
  • Conquer Grey

3. Ford Ranger Stormtrak 2023

Ford Ranger Stormtrak 2023

มาต่อกันที่ Ford Ranger Stormtrak 2023 (ฟอร์ด เรนเจอร์ สตอร์มแทรค) กระบะ 4 ประตู 5 ที่นั่ง รุ่นยกสูง ตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ ด้วยสปอร์ตบาร์และราวหลังคาปรับเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลัง ช่วยยึดสัมภาระต่าง ๆ ได้ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย 

  • Ranger Double Cab Stormtrak 2.0L Bi-Turbo HR 10AT ราคา 1,264,000 บาท
  • Ranger Double Cab Stormtrak 2.0L Bi-Turbo 4x4 10AT ราคา 1,399,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก

ตัวบอดี้ภายนอกใช้กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะแบบ Stormtrak มากับไฟ AUX Lamp สติกเกอร์ตกแต่งสไตล์ Stormtrak ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ ไฟวิ่งกลางวัน ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบ LED ราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ ฝาท้ายแบบผ่อนแรง และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน

ห้องโดยสารภายในโทนดำ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยสีดำ-แดง เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มากับหน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส ขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A, ระบบ FordPass Connect และอีกมากมาย

Ford Ranger Stormtrak 2023

ระบบความปลอดภัย

ด้านเทคโนยีความปลอดภัยก็ได้มอบให้แบบครบครัน เช่น ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ, ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระบะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากการชน, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, กล้องมองรอบคัน 360 องศา ฯลฯ 

ขุมพลัง

เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

สีตัวถัง

  • Absolute Black
  • Arctic White 
  • Sedona Orange
  • Meteor Grey

4. Ford Ranger Wildtrak 2023

Ford Ranger Wildtrak 2023

กระบะออฟโรด 4 ประตู ขนาด 5 ที่นั่ง Ford Ranger Wildtrak 2023 (ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค) รุ่นยกสูง เหมาะสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นใช้งานในชีวิตประจำวัน ขนของ หรือขับออกท่องเที่ยว โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • Ranger Double Cab Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT ราคา 1,064,000 บาท
  • Ranger Double Cab Wildtrak 2.0L Bi-Turbo HR 10AT ราคา 1,174,000 บาท
  • Ranger Double Cab Wildtrak 2.0L Bi-Turbo 4x4 10AT ราคา 1,314,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก

ภายนอกมีความดุดันจัดจ้าน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ลายตาข่ายที่เชื่อมกับกันชนล่าง และไฟหน้ารูปทรงซีแคลมป์ ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความแกร่ง ติดตั้งมากับไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟวิ่งกลางวัน ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบ LED สปอร์ตบาร์และราวหลังคา ฝาท้ายแบบผ่อนแรง และล้ออัลลอย สีเทา Boulder Grey ขนาด 18 นิ้วรับกับซุ้มล้อที่ขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นใน Wildtrak

ดีไซน์ภายใน

ภายในโทนดำ ตกแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Wildtrak ตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ทุกองค์ประกอบกลมกลืนสอดรับเป็นส่วนเดียวกัน เน้นคาแรคเตอร์ที่แตกต่างด้วยการเดินด้ายสีส้ม Cyber Orange และประทับตรา ‘Wildtrak’ บนเบาะ มาพร้อมแผงหน้าปัดแสดงข้อมูลแบบดิจิตอลขนาด 8 นิ้ว, ช่องเก็บของตามจุดต่าง ๆ, ระบบสั่งงาน SYNC4A, จอ LED แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว, หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสี ขนาด 8 นิ้ว, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่อง่อ USB และอีกหลายรายการ

Ford Ranger Wildtrak 2023

ระบบความปลอดภัย

อุ่นใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ให้มาอย่างครบครัน อาทิ สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน กล้องมองรอบคัน 360 องศา ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง และอีกมากมาย

ขุมพลัง

  • เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ เทอร์โบแปรผัน กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
  • เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10  สปีด

สีตัวถัง

  • Meteor Grey
  • Absolute Black
  • Snowflake White Pearl
  • Luxe Yellow
  • Sedona Orange

5. Ford Ranger XLS 2023

Ford Ranger XLS 2023

ปิดท้ายด้วยกระบะรุ่นยกสูงอย่าง Ford Ranger XLS 2023 (ฟอร์ด เรนเจอร์ เอ็กซ์แอลเอส) เกียร์อัตโนมัติ มีให้เลือกทั้งรุ่น Open Cab ตัวถังตอนครึ่ง เปิดแค็บใช้งานได้ และรุ่น Double Cab ตัวถังสองตอน 4 ประตู ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในเชิงพาณิชย์และส่วนบุคคล แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย 

  • Ranger Open Cab XLS 2.0L Turbo HR 6AT ราคา 794,000 บาท
  • Ranger Double Cab XLS 2.0L Turbo HR 6AT ราคา 879,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก

Ranger XLS ใช้ไฟหน้า LED พร้อมไฟวิ่งกลางวัน LED รูป C-Clamp สำหรับขับขี่ในเวลากลางวัน มาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบปรับด้วยไฟฟ้า บันไดข้างและบันไดเหยียบข้างกระบะท้าย กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน

ภายในมอบออปชันต่าง ๆ มาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง และด้านผู้โดยสาร 4 ทิศทาง หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A, ระบบ FordPass Connect เป็นต้น

Ford Ranger XLS 2023

ระบบความปลอดภัย

ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย ติดตั้งมาครบตามมาตรฐาน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด คู่หน้า/ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน, กล้องมองหลังขณะถอยจอด, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพทางการทรงตัว ESP, ระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ 

ขุมพลัง

เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ เทอร์โบแปรผัน กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

สีตัวถัง

  • Aluminium Metallic
  • Meteor Grey
  • Absolute Black
  • Arctic White 
  • Blue Lighting

หากสนใจ Ford มือสอง สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chobrod.com 
แหล่งซื้อขาย รถยนต์มือสอง ราคาถูก ตลาดรถยนต์ มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ