พาเทียบหาข้อได้เปรียบของ Toyota Yaris ที่ทำให้ขายดีกว่าคู่แข่ง ทิ้งห่างแบบเหนือ ๆ
ถ้าจะถามถึงยอดขายของกลุ่มรถอีโค คาร์ในช่วงปีสองปีให้หลังมานี้ เจ้าตลาดที่ยืนเด่นเหนือใครตั้งแต่วันออกตัวเผยโฉมคงหนีไม่พ้น Toyota Yaris ทั้งสองเวอร์ชั่น Hatchback และ Sedan (ATIV) อะไรบ้างที่ถือเป็นข้อได้เปรียบของรถรุ่นนี้ ทั้งที่องค์ประกอบโดยรวมของรถในกลุ่มก็แทบจะไม่หนีกันมาก วันนี้ Chobrod.com จะพาคุณไปเทียบแบบคันต่อคัน รุ่นต่อรุ่นระหว่าง Yaris และคู่แข่งที่ชื่อพอเทียบกันได้ หาคำตอบว่าทำไมบทสรุปสุดท้ายในการเลือกซื้อรถอีโคคาร์สักคันของคุณถึงต้องเป็น Toyota Yaris
พาเทียบหาข้อได้เปรียบของ Toyota Yaris ที่ทำให้ขายดีกว่าคู่แข่ง ทิ้งห่างแบบเหนือ ๆ
“แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนา มันแข่งกันไม่ได้” แต่จากความสำเร็จของอีโค คาร์สามห่วงอย่าง Toyota Yaris หาได้เป็นเพราะเรื่องดวงซะที่ไหน ถ้าพึ่งแค่ดวงคงไม่ตีรถยาวขายดีเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มตลาด “รถเครื่องเล็ก” อีโค คาร์มาอย่างยาวนานขนาดนี้ ตั้งแต่แรกเริ่มที่เปิดตัวโฉมใหม่ของทั้งสองเวอร์ชั่นใน Yaris (2017) ก็สามารถทำอันดับขายดีเป็นที่นิยมอันดับ 1 และ 2 ในกลุ่มรถประเภทนี้ทันที (Yaris, Yaris ATIV) ชนิดที่ไม่เห็นหัวรถ “เบอร์รอง” ที่อุตส่าห์พยายามปั้นยอดขายด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมาย
เด่นและขายดีทั้งคู่ไม่ว่าจะเป็น Yaris Hatchback และ Yaris ATIV (Sedan) โดนใจคนไทยทั่วประเทศ
และอะไรบ้างของ Toyota Yaris ที่เป็น “จุดแข็ง” เหนือคู่แข่ง อย่ารอช้า ! ไปดูกันเลย
Toyota Yaris VS Nissan Almera : ความสดใหม่น่าซื้อ "คนละเบอร์"
นอกจากภาษีในเรื่องของโลโก้หน้ารถที่ Toyota จะดูดีมีพลังกว่าโลโก้ Nissan อยู่หน่อย ๆ แล้วนั้น ความสดใหม่ก็ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ Yaris ดูได้เปรียบกว่าด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเทียบแล้ว Yaris ที่เปิดตัวโมเดลใหม่หมดไปเมื่อปี 2017 กับ Nissan Almera ที่ลากขายยาวมา “แสนนาน” ตั้งแต่ปี 2011 พร้อมพกพามากับความภาคภูมิใจที่ว่าได้เป็นรถ “รุ่นแรก” ที่เข้าร่วมเงื่อนไขโครงการอีโค คาร์ในประเทศไทย
ลายครามของกลุ่มรถอีโค คาร์จะน่าสนใจกว่า Yaris ก็คงเป็นที่เรื่องของความกว้างของภายในห้องโดยสาร
ถ้ามองในอีกแง่ แสดงให้เห็นว่าโมเดลของ Almera โฉมนี้มันถูกลากขายมายาวนานแค่ไหน ถ้าเปรียบเป็นส้มตำคงเรียกว่า “เซ็ง” ไม่น่ากินแล้ว แม้จะนำมาปรุงใหม่เพิ่มด้วยการไมเนอร์เชนจ์ออกรุ่นอัพเดทนับครั้งไม่ถ้วน ฤาจะให้เทียบกับ “ความสดใหม่” เพิ่งตักออกจากครกแบบที่มีอยู่ใน Toyota Yaris ก็คงจะยาก
Toyota Yaris VS Suzuki Swift : ความเป็นแบรนด์สามห่วง “ข่มได้”
แบบนี้ค่อยเรียกว่า “สมน้ำสมเนื้อ” หน่อยในเรื่องความสดใหม่ เพราะ Yaris เปิดตัวช่วงกลางปี 2017 ส่วน Swift ก็มาในช่วงต้นปี 2018 ใหม่พอ ๆ กัน รวมไปถึงเรื่องฟีเจอร์อ๊อฟชั่นต่าง ๆ ก็จัดมาให้เต็ม ! ทั้งคู่แบบไม่มีใครยอมใคร กลายเป็นเรื่องของดีไซน์ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญทำให้หลายคนใช้ตัดสินใจซื้อแทน
Swift ใหม่พอ ๆ กับ Yaris ทำออกมาเอาใจวัยรุ่นได้ดีพอกัน แต่แพ้แค่โลโก้หน้ารถเท่านั้น
*สนใจตลาดรถSuzuki Swift มือสอง, Toyota Yaris มือสอง, ราคาสวยๆ กดดูที่นี่ได้นะครับ
ทั้งสองรุ่นเน้นความโฉบเฉี่ยว เร้าอารมณ์แบบโดนใจวัยรุ่นเป็นหลัก Yaris เน้นเหลี่ยมสันหักมุมโฉบไปทุกส่วน ทาง Swift ได้เรื่องความโค้งมนที่มากกว่า ใครใคร่สไตล์ไหนเลือกได้เลยสไตล์นั้น แต่หนึ่งจุดสำคัญที่ทำให้ Toyota Yaris ได้เปรียบและยอดขายปัง ! ยิ่งกว่า Suzuki Swift ถึงตอนนี้ เดาได้ไม่ยากนั่นก็คือเรื่องของ “แบรนด์” ความแกร่งกว่าในเรื่องของยี่ห้อจาก Toyota เมื่อเทียบกับ Suzuki แล้ว ดูจะได้เปรียบกว่ามาก ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นทั้งเรื่องความไว้วางใจ, ศูนย์บริการ, บริการหลังการขาย ไปจนถึงเรื่องของคุณภาพตัวรถ ต้องบอกว่า “บารมี” ของความเป็นรถจาก Toyota ที่ประทับตราลงบน Yaris สามารถใช้ข่มได้ ! กับคู่แข่งทั้งหลาย รวมไปถึง Suzuki Swift
ดูเพิ่มเติม
>> รีวิว All New Toyota Yaris 2018
>> ราคาและตารางผ่อน Toyota Yaris โตโยต้า ยาริส ล่าสุด
Toyota Yaris VS Mitsubishi Mirage, Attrage : เรื่องความปลอดภัยอะไรกันแน่ที่สำคัญ ?
คงจะมีแค่เรื่องระบบความปลอดภัย “ช่วยเตือนช่วยเบรก” อย่างเดียวละมั้ง (FCM-LS) ที่ทำให้ Mirage และ Attrage ดูเหนือกว่า Yaris เพราะนอกจากนั้นแล้วเก๋งตัวเด่นจากค่ายสามห่วงแทบจะดูดีกว่าแบบกินเรียบ 2 สหายจากค่ายทรีไดมอนด์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขุมกำลังที่แรงกว่า ทั้งที่ของ Mirage และ Attrage ทำได้แค่พอไปทีไม่รีบร้อน การออกแบบดีไซน์ที่ดูมีลูกเล่นมากมายใน Yaris แต่ในทางกลับกัน Mirage และ Attrage มันดูเรียบไปซะหมด “จนน่าเบื่อ” ทั้งภายนอกภายใน ไม่มีจุดเด่นไหนให้พูดถึงเลย เปรยได้เพียงแค่คำว่า “เรียบง่าย” เป็นบริบทเท่านั้น
“เรียบง่าย” คงเป็นเพียงนิยามเดียวที่ใช้ได้กับรถ 2 รุ่นนี้ Mirage และ Attrage
ไปจนถึงเรื่องของระบบความปลอดภัย ที่แม้ว่า Mirage และ Attrage จะพกมาดีที่เรื่องของเทคโนโลยีช่วยเตือนช่วยชะลออัตโนมัติ แต่ดูแล้วเหมือนจะเป็นแค่ของเล่นให้ตัวรถดูล้ำขึ้นอีกนิดและช่วยให้มีอะไรให้พูดถึงเสียมากกว่า มองถึงที่การใช้งานจริง ๆ เชิงป้องกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จำนวนถุงลมที่ให้มาดู “ย้อนแย้ง” กับเรื่องความล้ำของความปลอดภัยที่รถทั้ง 2 คันนี้พยายามจะขาย ถ้าจะเน้นความปลอดภัยให้เหนือกว่าคู่แข่งจริง ๆ ควรจะให้มามากกว่าแค่ 2 ใบคู่หน้า เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุจำนวนถุงลมแน่น ๆ เต็มห้องโดยสารถึง 7 จุดของ Toyota Yaris มันมอบความรู้สึกปลอดภัยได้มากกว่าเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย แม้จะยังไม่เจออุบัติเหตุก็เหอะ ซึ่งคิดว่าคุณก็น่าจะรู้สึกเช่นเดียวกับผู้เขียน
ข้อเด่นข้อด้อยย่อมมี แค่ Yaris คันนี้ ข้อดีมีเยอะกว่าคู่แข่งก็เท่านั้น
ยังมีอีโคคาร์อีกหลายรุ่นเลยที่นับเป็นคู่แข่งร่วมกับ Toyota Yaris อาทิเช่น Honda Brio, Nissan March, Nissan Note, Suzuki Ciaz เป็นต้น แต่ 3 รุ่นที่ถูกนำมาเทียบนี้คือเรามองแล้วว่าดูจะเป็นคู่แข่งที่พอสมน้ำสมเนื้อกับ Yaris ที่สุด มีจุดเด่นที่เหนือกว่า Yaris ในบางข้อ อย่างไรก็ตามรถทุกคันเมื่อมีจุดเด่นก็ล้วนต้องมีจุดด้อยร่วมไปเหมือนโลกคู่ขนาน เพียงแต่ว่าผู้ซื้อทั้งหลายที่ตัดสินใจซื้อ Toyota Yaris คันนี้ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแล้ว บริบทสุดท้ายที่ตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละคนมีมากกว่าเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น ๆ นั่นเอง
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้เเละคราวหน้าเรื่องอะไรติดตามไปพร้อมกันเลยนะครับ
ดูเพิ่มเติม
>> TOYOTA YARIS ดีจริงหรือ? รวบรวมปัญหาการใช้งานและวิธีการแก้ไขจากผู้ใช้จริง
>> 7 เรื่องที่จำเป็นต้องรู้ เมื่อคิดจะซื้อรถอีโคคาร์มือสอง
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้
