ใครกำลังวางแผนจะซื้อรถยนต์ Nissan มาทางนี้เลย ขอแนะนำ Top 5 รถ Nissan น่าขับ 2023 ราคาเป็นมิตร งบน้อยก็ถอยได้ จะมีรุ่นไหนโดนใจคุณบ้าง ติดตามได้เลยในบทความนี้ !
รถ Nissan แบรนด์รถยนต์ระดับโลกสัญชาติญี่ปุ่น อีกแบรนด์หนึ่งที่เป็นต้นแบบในหลาย ๆ อย่างของอุตสาหกรรมยานยนต์ ตัวรถขึ้นชื่อในเรื่องความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ทั้งยังเป็นรถที่ลงทุนในด้านออปชั่น ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก ระบบความบันเทิง และความปลอดภัย ภายในยังโปร่งโล่ง นั่งสบาย เรียกได้ว่าเอาใจคนนั่งสุด ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่รถยนต์นิสสันจะได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ชาวไทยมาอย่างยาวนาน
และสำหรับใครที่กำลังเล็ง ๆ ไว้ว่าจะซื้อ รถนิสสัน 2023 ขอแนะนำ Top 5 รถ Nissan 2023 น่าขับ งบน้อยก็ถอยได้ พร้อมราคานิสสัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจ
เริ่มต้นด้วยรถ Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) รถยนต์ซีดาน ขนาด 4 ประตู 5 ที่นั่ง มาในตัวถังขนาดเล็ก ให้ความปราดเปรียว คล่องแคล่ว เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างยิ่ง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง ขนาด 1.0 ลิตร ให้ความประหยัด มีอัตราสิ้นเปลืองที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่
ดีไซน์ภายนอก
ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้า V-Motion ขนาดใหญ่ ที่สอดรับกับโลโก้ Nissan ใหม่ได้อย่างลงตัว มาพร้อมไฟหน้า LED และระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟตัดหมอก LED กระจกมองข้างสีดำไฟฟ้าปรับพับอัตโนมัติ พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED สปอยเลอร์ และกันชนหลัง ทรงสปอร์ต พร้อมโลโก้ใหม่ รวมถึงล้อล้ออัลลอย ขนาด 15 นิ้ว สีเทา
ดีไซน์ภายใน
ห้องโดยสารภายในทูโทนสีดำตัดสีน้ำเงินเข้ม ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน และสีดำ เปียโน แบล็ก เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ โดยมีการติดตั้งกุญแจรีโมตอัจฉริยะ, ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์จากกุญแจรีโมต, มาตรวัดเรืองแสงแบบ Fine Vision Meter, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT หน้าจอสีขนาด 7 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, หน้าจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto, ที่ชาร์จไร้สาย พร้อมอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมายที่มอบให้อย่างครบครัน
ระบบความปลอดภัย
ในส่วนของระบบความปลอดภัย จะได้ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้าพร้อมช่วยเบรกฉุกเฉิน, กล้องมองภาพรอบคัน, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน, ระบบ NissanConnect และอื่น ๆ อีกหลายรายการ
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซินแบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร 999 ซีซี. เทอร์โบ กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ช่วง 2,400-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT
สีตัวถัง Nissan Almera
กระบะ Nissan Navara Single Cab (นิสสัน นาวารา ซิงเกิ้ลแค็บ) ตัวถังตอนเดียว ขนาด 2 ประตู 2 ที่นั่ง ตอบโจทย์ทุกงานบรรทุกด้วย Chassis โครงสร้างเหล็กกล้าชิ้นเดียวยาวตลอดคัน เหมาะสำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ เช่น ขนสินค้า รับส่งผู้โดยสาร นำไปติดแหนบ ติดตู้เย็น ใช้ประกอบอาชีพได้ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
ดีไซน์ภายนอก
ด้านหน้ามีดีไซน์แบบอินเตอร์ล็อก กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ กระจังหน้า ฝากระโปรง และแผงกันกระแทก ได้รับการออกแบบให้มีความดุดันมากขึ้น โดยมีการติดตั้งไฟหน้าฮาโลเจน กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าสีดำ มือจับประตูด้านนอกแบบ Grip Type ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบ 2 จังหวะ และล้อกระทะ ขนาด 16 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน
ภายในสีเทา ตกแต่งอย่างเรียบง่าย คอนโซลหน้าใช้วัสดุสีดำ มากับช่องเก็บของที่แผงประตู พร้อมที่วางขวดน้ำ หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto ระบบปรับอากาศ กระจกไฟฟ้าขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ เบาะนั่งสีเทา กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบความปลอดภัย ก็ได้มอบให้ครบตามมาตรฐาน เช่น ระบบเบรก ABS, EBD, BA, ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, กุญแจรีโมตแบบ Jack Knif, ระบบกุญแจ Immobilizer, โครงสร้างนิรภัย Zone Body
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน VGS อินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
สีตัวถังรถ Nissan Navara Single Cab
อ่านเพิ่มเติม >>
มาถึงรถ Nissan Navara King Cab (นิสสัน นาวารา คิงแค็บ) กระบะ 2 ประตู ตัวถังตอนครึ่ง แค็บเปิดใช้งานได้ นับเป็นเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรถกระบะไว้ใช้งานส่วนตัว หรือในเชิงพาณิชย์ เพราะสามารถบรรทุกได้ทั้งคนและของ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
ดีไซน์ภายนอก
นาวารา คิงแค็บ ใช้กระจังหน้าแบบ Interlock โครเมียม ไฟหน้าฮาโลเจน เปิด – ปิด อัตโนมัติ กระจกข้างสีเดียวกับตัวรถปรับและพับอัตโนมัติ กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ กระจังหลังสีดำ กระบังลมหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัย มือจับประตูด้านนอกแบบ Grip Type ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบ 2 จังหวะ ล้อกระทะ ขนาด 16 นิ้ว และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน
ห้องโดยสารภายในได้รับการออกแบบให้ทุกพื้นที่รอบห้องโดยสารจัดเก็บของได้ครบครัน ตั้งแต่ช่องเก็บของหน้ารถ ที่เก็บของใต้ช่องแอร์ และคอนโซลกลาง มาพร้อมระบบปรับอากาศ ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง หน้าจอสัมผัส 7-8 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto มาตรวัดแบบจอสีสามมิติ ขนาด 7 นิ้ว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบ Push Start เป็นต้น
ระบบความปลอดภัย
ด้านความปลอดภัย มีการติดตั้งกล้องมองหลัง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS, EBD, BA, กุญแจรีโมตแบบ Jack Knif, ระบบกุญแจ Immobilizer, โครงสร้างนิรภัย Zone Body, พวงมาลัยยุบตัวได้เมื่อเกิดการชนด้านหน้า และอีกหลายรายการ
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน VGS อินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
สีตัวถังรถ Nissan Navara King Cab
ต่อกันที่รถ Nissan Navara Calibre (นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์) รถกระบะยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ มีให้เลือก 2 ตัวถัง ประกอบด้วย รุ่น King Cab 2 ประตู (แค็บ) และรุ่น Double Cab 4 ประตู สามารถใช้โดยสารส่วนตัว หรือเชิงพาณิชย์ได้เช่นกัน โดยจะมีทั้งพื้นที่กระบะสำหรับบรรทุก หรือขนอุปกรณ์ต่าง ๆ และที่นั่งภายใน ที่รองรับผู้โดยสารได้มากสุด 5 ที่นั่ง แบ่งเป็น 9 รุ่นย่อย ได้แก่
ดีไซน์ภายนอก
ภายนอกหล่อเข้ม ดุดัน รุ่นปกติจะใช้กระจังหน้าแบบ Interlock สีโครเมียม ส่วนรุ่น Black Edition จะมาพร้อมกระจังหน้าสีเทาดำ กระจกข้างสีดำ และสติ๊กเกอร์ดีไซน์พิเศษ โดยทุกรุ่นได้รับการติดตั้งไฟหน้า LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow me Home ไฟส่องสว่างกลางวัน ไฟตัดหมอก ไฟท้าย LED และล้ออัลลอย ขนาด 17-18 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน
ภายในห้องโดยสารมีที่กว้างขวาง สะดวกสบายเต็มพื้นที่ใช้สอย และครบครันด้วยออปชันต่าง ๆ อาทิ หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา, มาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ จอสีแบบสามมิติขนาด 7 นิ้ว, รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบ Push Start ฯลฯ
ระบบความปลอดภัย
นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ มีการติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA, กล้องมองภาพด้านหลัง, สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, พวงมาลัยแบบยุบตัวเมื่อเกิดการชนด้านหน้า, ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน และอีกหลายรายการ
เครื่องยนต์
สีตัวถังรถ Nissan Navara Calibre
ปิดท้ายกันด้วยรถ Nissan KICKS e-POWER (นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์) ครอสโอเวอร์ SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์จากนิสสัน ที่มอบอัตราเร่งที่ดี ให้ประสบการณ์การขับแบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ตัวรถยังมีความเงียบมากกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินทั่วไป โดยสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
ดีไซน์ภายนอก
ดีไซน์ภายนอกมีความสปอร์ตและทันสมัย กระจังหย้าใช้สีดำเงาตกแต่งของโครเมียม สอดรับกับไฟหน้า LED พร้อมไฟเลี้ยว Signature Light ได้อย่างลงตัว มากับไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ สวิตซ์ปรับระดับไฟหน้า ไฟท้ายแบบ LED Signature Light กันชนหน้า-หลังสีเดียวกับตัวรถ สเกิร์ตด้านหน้า ด้านข้างซ้าย-ขวา และด้านหลัง รวมถึงล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน
ห้องโดยสารภายในรุ่นปกติโทนดำ ส่วนรุ่น ATECH จะตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเพิ่มเติม ติดตั้งมาพร้อมปุ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ ระบบการขับขี่คันเร่งแบบ e-Pedal Step หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ TFT หน้าจอสี ขนาด 7 นิ้ว มาตรวัดอุณหภูมิภายนอก ช่องเก็บของและที่วางของรอบคัน หน้าจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ และอื่น ๆ
ระบบความปลอดภัย
อุ่นใจได้กับระบบความปลอดภัยที่มอบแบบจัดเต็ม เช่น ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า, ลุงลมนิรภัยด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ, ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน, ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง, ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง เป็นต้น
เครื่องยนต์
จุดเด่นของรถ Nissan KICKS e-POWER นั้นอยู่ที่เทคโนโลยี Hybrid หรือที่นิสสันเรียกว่า e-POWER มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. ส่งกำลังสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที
ซึ่งตัวเครื่องยนต์จะทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และจ่ายไฟให้ชุดมอเตอร์ไฟฟ้า ชนิด Synchronous ส่งกำลัง 136 แรงม้า ที่ 3,410 - 9,697 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 0 - 3,410 รอบต่อนาที พ่วงแบตเตอรี่ Lithium-ion 2.06 kWh 4 Modules 96 Cells
โดยจะไม่สามารถจ่ายไฟด้านนอกได้ และต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น
สีตัวถังรถ Nissan KICKS e-POWER
หากสนใจ nissan มือสอง สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chobrod.com
แหล่งซื้อขายรถยนต์มือสอง ตลาดรถ มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ