เปรียบเทียบ 2 คู่แข่งเบอร์แรงของตลาดรถไฟฟ้า BMW i3 2018 กับ Nissan Leaf 2018

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 3 ธ.ค 2561
แชร์ 0

ตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ถือเป็นกลุ่มรถยนต์ที่เข้ามามีบทบาทในตลาดรถยนต์โลกอย่างมาก โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีกระแสเรื่องของการอนุรักษ์พลังงานเชื้อเพลิง โดยในปีนี้ก็ได้เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นที่มีเอกลักษณ์ และน่าสนใจ ทั้ง 2 รุ่นนี้จะแตกต่างกันตรงไหน แล้วรุ่นไหนจะมีดีกว่ากันในเรื่องอะไรบ้าง

เปรียบเทียบรถไฟฟ้าจาก 2 ค่าย BMW i3 และ Nissan Leaf

เปรียบเทียบรถไฟฟ้าจาก 2 ค่าย BMW i3 และ Nissan Leaf

นับว่า Nissan Leaf เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทั่วโลกรอคอยอย่างแท้จริง เพราะหลังจากที่เปิดตัวมาได้เพียง 8 เดือน ก็ขายได้แล้วกว่า 2 หมื่นคัน ในขณะที่ BMW i3 ก็มาแรงไม่น้อยไปกว่ากันกับดีกรีแชมป์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าขนาดพรีเมียมคอมแพ็กต์ทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2014 รวมถึงเปิดตัว 2 รุ่นย่อยใหม่ ทั้ง BMW i3 LCI และ BMW i3s แล้วรถยนต์ไฟฟ้าจากทั้ง 2 ค่ายนี้จะมีข้อดีแตกต่างกันในเรื่องอะไรบ้าง มาไล่ดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

BMW i3 มีดีไซน์ภายนอกที่เน้นความโค้งมนของส่วนต่างๆ ตามสไตล์รถขนาดเล็กของยุโรป

BMW i3 มีดีไซน์ภายนอกที่เน้นความโค้งมนของส่วนต่างๆ ตามสไตล์รถขนาดเล็กของยุโรป

ฺBMW i3s เพิ่มความกว้างฐานล้อ 20 มิลลิเมตร เพิ่มลุคสปอร์ตด้วยการพ่นสีกรอบกระจังหน้าไตสู่เป็นสีดำ

ฺBMW i3s เพิ่มความกว้างฐานล้อ 20 มิลลิเมตร เพิ่มลุคสปอร์ตด้วยการพ่นสีกรอบกระจังหน้าไตสู่เป็นสีดำ

ดีไซน์ภายนอก

BMW i3 ใหม่ ใช้กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ทำให้ตัวรถดูกว้างขึ้น และเปลี่ยนมาใช้ไฟหน้า ไฟสูง รวมถึงไฟเลี้ยว LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ด้านข้างมีการปรับปรุงรายละเอียดบริเวณเส้นขอบหลังคาและเสา B เพื่อให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้น พร้อมกับล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 19” ส่วนด้านท้ายรายละเอียดการออกแบบถูกแก้ไขเพื่อให้ตัวรถดูกว้างขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการขยับป้ายชื่อ i3 และ eDrive ให้ชิดกับมุมนอกรถ ติดคิ้วสีเทาที่ขอบล่างของฝาท้าย หรือเพิ่มความกว้างของกันชนส่วนที่เป็นสีเดียวกับตัวรถให้กว้างขึ้น 40 มิลลิเมตรในรุ่น i3s ในรุ่น i3s มีการตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อเสริมบุคลิกความสปอร์ต ด้วยการพ่นกรอบกระจังหน้าไตคู่ส่วนนึงเป็นสีดำ กันชนช่วงใต้ไฟเลี้ยวไฮไลท์สีดำ High-gloss คิ้วชายล่างกันชนขนาบช่องดักลมที่ให้อารมณ์ราวกับสปอยเลอร์หน้า ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นสีฟ้า BMW i Blue หรือสีเทา Frozen Grey ก็ได้ ล้อลายก้านคู่ขนาด 20” ความกว้างเพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร ทำจากวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบา และสามารถเลือกโทนสีได้ว่าจะเป็นสีดำ Jet Black หรือสลับสองสี Bicolor ตัวรถถูกลดความสูงลง 10 มิลลิเมตร และขยายฐานล้อให้กว้างขึ้น 40 มิลลิเมตร เพิ่มความสปอร์ต และแฮนด์ลิงที่เฉียบคมขึ้นอย่างเต็มที่ โดยตัวรถภายนอกได้เพิ่มสีน้ำเงินเข้ม Imperial Blue กับสีแดง Melbourne Red เข้ามาด้วย

ในส่วนของ Nissan Leaf มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว เห็นเส้นสายที่เเชื่อมกับกระจังหน้า V-Motion อย่างชัดเจน

ในส่วนของ Nissan Leaf มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว เห็นเส้นสายที่เเชื่อมกับกระจังหน้า V-Motion อย่างชัดเจน

ช่วงท้ายให้ภาพลักษณ์ของรถสไตล์สปอร์ตเลยทีเดียว

ช่วงท้ายให้ภาพลักษณ์ของรถสไตล์สปอร์ตเลยทีเดียว

Nissan Leaf 2018 ดีไซน์ออกมาให้ดูโฉบเฉี่ยวแต่ทรงพลัง มีเส้นสายดุดันกว่าโฉมที่แล้ว ติดตั้งไฟหน้าดีไซน์บูมเมอแรง รับกับกระจังหน้าทรง V-Motion พร้อมตกแต่งกระจังหน้าและกันชนท้ายด้วยสีฟ้า มีความยาวตัวถังอยู่ที่ 4,490 มิลลิเมตร ความกว้างตัวถัง 1,788 มิลลิเมตร ความสูง 1,540 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร ระยะความกว้างแทร็คล้อหน้า/หลังอยู่ที่ 1,530 และ 1,545 มิลลิเมตรตามลำดับ ระยะต่ำสุดจากใต้ท้องรถถึงพื้น (Ground clearance) 150 มิลลิเมตร

ดูเพิ่มเติม

ภายในของ BMW i3 ตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มหนัง Giga Brown Natural Leather และวัสดุผ้า Carum Spice Grey Wool Cloth

ภายในของ BMW i3 ตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มหนัง Giga Brown Natural Leather และวัสดุผ้า Carum Spice Grey Wool Cloth

ดีไซน์ภายใน

ภายในของ BMW i3 ตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มหนัง Giga Brown Natural Leather และวัสดุผ้า Carum Spice Grey Wool Cloth สำหรับรุ่น Lodge ได้เพิ่มหนังและผ้า Wool หุ้มเบาะสีน้ำตาล “Solaric” ในส่วนของรุ่น i3s มีการตกแต่งด้วยวัสดุผ้า หนัง และชิ้นส่วนตกแต่งสีน้ำตาลเข้ม พร้อมตรา i3s ที่พรม ใช้หน้าจอ iDrive ขนาด 10.25 นิ้ว ได้รับการปรับมาเป็นเมนูแบบใหม่ และเพิ่มฟังก์ชันเข้าไป เช่น Natural Language Understanding ช่วยให้การสั่งการด้วยเสียงแม่นยำและรวดเร็วขึ้น, Digital Charging Service จัดการช่วงเวลาชาร์จไฟตามที่ต้องการ, On-Street Parking Information และ Apple CarPlay ในส่วนของที่นั่งโดยสาร BMW i3 จะมีเพียงแค่ 4 ที่นั่งเท่านั้น

ภายในห้องโดยสารของ Nissan Leaf ใช้วัสดุตกแต่งสีดำ และเพิ่มตะเข็บสีฟ้าที่เบาะนั่งอีกด้วย

ภายในห้องโดยสารของ Nissan Leaf ใช้วัสดุตกแต่งสีดำ และเพิ่มตะเข็บสีฟ้าที่เบาะนั่งอีกด้วย

ภายในห้องโดยสารของ Nissan Leaf ใช้วัสดุตกแต่งสีดำ และเพิ่มตะเข็บสีฟ้าที่เบาะนั่งอีกด้วย

ภายในห้องโดยสารของ Nissan Leaf 2018 มาพร้อมห้องโดยสารที่ถูกออกแบบโดยเน้นเรื่องความสะดวกสบาย ดูกว้างขวางและผ่อนคลายด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย ออกแบบแผงคอนโซลหน้าในรูปแบบ Gliding Wing ใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมมากขึ้น เน้นการใช้วัสดุสีดำ เบาะนั่งถูกตกแต่งด้วยตะเข็บสีฟ้า ติดตั้งหน้าจอผู้ขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้วแสดงผลด้วยสี ใช้สำหรับแสดงข้อมูลที่สำคัญต่างๆ เช่น Safety Shield, ระบบความบันเทิง, ระบบนำทาง, ข้อมูลการขับขี่ เป็นต้น รวมถึงใช้สีฟ้าในส่วนต่างๆ เพื่อสื่อถึงนวัตกรรมและความหรูหราอีกด้วย สำหรับที่นั่งโดยสารของ Nissan Leaf มีถึง 5 ที่นั่ง

ขุมพลังเครื่องยนต์ของ BMW i3 ให้สมรรถนะที่ 170 แรงม้าให้ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.

ขุมพลังเครื่องยนต์ของ BMW i3 ให้สมรรถนะที่ 170 แรงม้าให้ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.

สำหรับตำแหน่งที่ชาร์จไฟจะอยู่ด้านข้างตัวรถ หรือในตำแหน่งเดียวกับที่เติมน้ำมัน

สำหรับตำแหน่งที่ชาร์จไฟจะอยู่ด้านข้างตัวรถ หรือในตำแหน่งเดียวกับที่เติมน้ำมัน

ขุมพลังเครื่องยนต์

BMW i3 2018 รุ่นมาตรฐานยังใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบเดิม ด้วยชุดมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้สมรรถนะที่ 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. แต่สำหรับรุ่น  BMW i3s ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นถึง 40% ให้กำลังได้มากถึง 184 แรงม้า แรงบิด 269 นิวตัว-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง ใน 6.9 วินาที และให้ความเร็วสุงสุดได้มากถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การชาร์จไฟหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้เฉลี่ย 280 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC cycle พร้อมโหมด SPORT ให้คนขับเลือกเวลาต้องการซิ่ง ซึ่งรถจะปรับให้คันเร่งตอบสนองคมและพวงมาลัยแน่นขึ้น นอกจากนี้ BMW i3s จะได้สปริง ช็อคอัพ และเหล็กกันโคลงที่ทำมาเฉพาะรุ่นอีกด้วย รวมถึงมีออพชัน Range Extender มาให้เลือกซื้อเพิ่มได้ โดยจะมีเครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ ขนาด 38 แรงม้า ติดตั้งมาเพื่อปั่นไฟเก็บเข้าแบตเตอรี่เป็นหลัก ทำให้สามารถขับได้ไกลขึ้นอีกราว 150 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งหมดสูงถึง 330 กิโลเมตร

Nissan Leaf ติดตั้งเครื่องยนต์ไว้ที่ส่วนหน้า ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า สามารถขับขี่ได้ 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง

Nissan Leaf ติดตั้งเครื่องยนต์ไว้ที่ส่วนหน้า ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า สามารถขับขี่ได้ 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง

ในส่วนของการชาร์จไฟสามารถชาร์จจากด้านหน้ารถได้เลย

ในส่วนของการชาร์จไฟสามารถชาร์จจากด้านหน้ารถได้เลย

ขุมพลังของ Nissan Leaf 2018 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM57 ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร สามารถเร่ง เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.9 วินาที ขับขี่ได้เป็นระยะทาง 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ชาร์จไฟได้ทั้งแบบ DV – CHAdeMO และ AC – Type 1 ได้ โดยใช้เวลาชาร์จปกติอยู่ที่ 8 ชั่วโมง (ที่ชาร์จแบบ 6kW) หรือ 16 ชั่วโมง (ที่ชาร์จแบบ 3kW) และสามารถรองรับการชาร์จด่วน 80% ด้วยเวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น 

ดูเพิ่มเติม

BMW i3 มีจุดเด่นอยู่ที่ความแรงของเครื่องยนต์ และการทำความเร็วได้มากกว่า

BMW i3 มีจุดเด่นอยู่ที่ความแรงของเครื่องยนต์ และการทำความเร็วได้มากกว่า

Nissan Leaf มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์โฉบเฉี่ยว และระบบความสะดวกสบายในการขับขี่

Nissan Leaf มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์โฉบเฉี่ยว และระบบความสะดวกสบายในการขับขี่

ราคา และสรุป

ในส่วนของราคา BMW i3 เปิดตัวในไทยเมื่องาน Motor Show 2018 ด้วยราคา 2.89 ล้านบาท และ Nissan Leaf ที่เพิ่งเปิดตัวในงาน Motor Expo 2018 นี้ ขายอยู่ในราคา 1.99 ล้านบาท ซึ่งต่างกันถึงเกือบ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว สำหรับรถทั้ง 2 รุ่นนี้ดูน่าสนใจพอกันเลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะทั้งในเรื่องของขุมพลัง หรือความสะดวกสบายในการขับขี่ สำหรับเรื่องของดีไซน์ภายนอกถ้าชอบรถที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวก็อาจจะเทใจไปให้ทาง Nissan Leaf มากหน่อย แต่การซื้อรถไฟฟ้าก็มีข้อควรระวังเนื่องจากปัญหาที่ตามมา อาทิ ข้อผิดพลาดของระบบการทำงาน โดย Nissan Leaf มีปัญหาเรื่องการสตาร์ทรถที่ยากกว่าปกติ รวมถึงปัญหาการชาร์จไฟ และระบบ ProPILOT ที่ไม่เป็นไปตามโฆษณา ส่วน BMW i3 ล่าสุดก็ได้มีการเรียกคืนในอเมริกาเพราะปัญหาเกี่ยวกับเรื่องระบบความปลอดภัยเรื่องการรับแรงกระแทกของโครงสร้าง ถึงแม้ว่าจะเป็นส่วนน้อยที่เจอปัญหาเหล่านี้ แต่กับรถราคาสูงเช่นนี้ก็ต้องพิจารณากันดีๆ ก่อนซื้อนะคะ และสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับรถดีๆ สามารถอ่านได้ที่ Chobrod.com นะคะ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้