3 ข้อขอแนะนำกับ “รถบ้าน” ดีๆ ก่อนจะตัดสินใจซื้อมาครอบครอง
หลายคนคงเคยเห็นปิดประกาศ “ขาย” แปะอยู่บนรถที่อยู่ตามถนน หรือบ้างก็ว่า เจ้าของขายเอง เป็นต้น แต่สงสัยหรือไม่ว่ารถพวกนี้ที่ถูกเรียกว่า “รถบ้าน” มันคืออะไร และหากจะซื้อล่ะ มีทริคอะไรพอจะแนะนำได้บ้าง Chobrod เอาคำตอบมาให้แล้ว
เคยสงสัยมั้ยครับ หรือเคยผ่านตากันมาบ้างมั้ย ประโยคที่ว่า “รถบ้าน” คืออะไร
หลายคนรู้ แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ หรือเคยเห็นผ่านๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจ บ้างก็ว่า เห็นเขาประกาศขายรถบ้าน เจ้าของขายเอง เป็นต้น แต่ว่าคำๆ นี้มันมีความหมายว่าอย่างไรกันล่ะ หรือตีเหมารวมไปเลยว่า “รถบ้าน” ก็คือรถยนต์มือสองนี่แหล่ะ เหมือนๆ กับรถจากเต๊นท์รถยนต์ที่ขายกันตามท้องถนนทั่วไปนั่นแหล่ะ
คำอธิบายข้างบนนี้ จริงหรือเปล่า?
รถบ้านคืออะไร แล้วน่าซื้อหรือเปล่า ไปหาคำตอบได้เลย
Chobrod ขอพาผู้อ่านไปหาคำตอบกันหน่อยดีกว่า ว่าแท้จริงแล้ว รถบ้านมันคืออะไร แล้วถ้าจะซื้อมันจำเป็นหรือไม่ และต้องเช็คต้องตรวจสอบอะไรบ้าง ก่อนอื่น ไปทำความรู้จักกับ “รถบ้าน” กันก่อนดีกว่า
"รถบ้าน” ก็คือ รถที่เจ้าของใช้เอง ประกาศขายเอง เป็นการซื้อขายโดยตรงกันระหว่างผู้ซื้อกับเจ้าของที่ครอบครองอยู่ในขณะนี้ ที่เคยผ่านการใช้งานจริงรถยนต์คันนี้มาก่อน และข้อดีของการ “ซื้อรถบ้าน”คืออะไร คำตอบก็คือ คนที่ต้องการรถยนต์ก็จะได้ซื้อกับเจ้าของรถยนต์โดยตรง และได้สอบถามประวัติของรถได้โดยตรง ยิ่งถ้าได้เจ้าของรถยนต์ที่จริงใจ ตอบได้ทุกคำถาม ไม่ปิดบังข้อมูลก็จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่แน่นอนว่าข้อเสียก็มีเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นขายตามสภาพ ไม่ได้มีการเช็คเบื้องต้นเหมือนรถเต๊นท์ หรือผ่านเว็บไซต์ อีกประการคือเรื่องดำเนินการทางเอกสาร ผู้ซื้อก็ต้องจัดการเองด้วย ตรงนี้อาจเกิดความยุ่งยากกวนใจ
ดูเพิ่มเติม
>> เทียบรถบ้านกับรถเต๊น อันไหนดีกว่ากัน?
>> รถมือสองแบบไหนถือว่าดี? .. ส่อง 6 คุณสมบัติของรถมือสองที่ดีมีคุณภาพ
แต่ในเมื่อประเด็นคือการซื้อขายรถยนต์กัน แม้จะซื้อกับเจ้าของโดยตรงที่ถูกเรียกว่า “รถบ้าน” ก็ตามที Chobrod ก็มีวิธีเช็คสภาพเบื้องต้นมาฝากผู้อ่านด้วย หากสนใจจะซื้อรถบ้านเอาไว้ใช้งานสักคัน
ก่อนตัดสินใจซื้อ "รถบ้าน" อย่าลืม 3 สิ่งที่ต้องเช็ค
1.ดูเล่ม ต้องแท้ ไม่มีการสวม - ข้อนี้ต้องสังเกตว่าเล่มทะเบียนรถยนต์เป็นของแท้หรือไม่ วิธีการดูก็พลิกไปหน้าที่ 16 ซึ่งจะบ่งบอกรายการเสียภาษี โดยทุกครั้งที่มีการเสียภาษีประจำปี หลักง่ายๆ คือ การพิมพ์แต่ละครั้ง รูปแบบของตัวอักษร หรือช่องไฟจะมีระยะที่ไม่เท่ากัน หากรูปแบบของการพิมพ์เหมือนกัน น้ำหมึกเท่ากันทุกบรรทัด ช่องไฟที่เท่ากันในแต่ละบรรทัดของแต่ละปีที่ยื่นภาษี จึงเป็นที่ผิดสังเกต ให้พึงระวังถึงการปลอมแปลงสมุดจดทะเบียนได้ อีกอย่าง ก็ดูชื่อเจ้าของรถยนต์ว่าเป็นเจ้าของตรงกันกับคนที่จะขาย “รถบ้าน” ให้กับเราหรือเปล่าด้วย
2.เอาไปขับ - การขอลองขับ “รถบ้าน” ก่อนตัดสินใจซื้อไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะแน่นอนว่าการมองรูปลักษณ์รถยนต์ด้วยสายตาภายนอกอาจไม่ครอบคลุมทั้งหมด เพราะยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงอีกไม่น้อยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการตัดสินใจซื้อ ทั้งการทำงานของเครื่องยนต์เสถียรดีหรือไม่ การเร่งความเร็ว การเบรค องศาการเลี้ยวเป็นอย่างไร การทำงานของเกียร์ เป็นต้น แม้จะเป็นการขายตามสภาพ แต่แน่นอนว่าก่อนซื้อก็ต้องตรวจสอบสภาพถึงความพึงพอใจที่รับได้ และยิ่งหากต้องการนำรถมาใช้งานต่อก็ต้องมั่นใจได้ว่าเมื่อซื้อมาแล้วไม่ได้เอาไปซ่อมต่อ ไม่เช่นนั้นปวดหัวบาน
3.ความน่าเชื่อถือของคนขาย - ต้องวิเคราะห์กันเองว่าเจ้าของรถยนต์ที่จะขายให้เรานั้น ตอบคำถามทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์จริงๆ หรือไม่ หรือแอบอำพรางปิดบังปัญหาของรถยนต์รถบ้านคันที่จะขายเอาไว้ แต่หากไม่แน่ใจในข้อนี้ ผู้ซื้อก็น่าจะพาช่างไปตรวจดูสภาพรถยนต์ด้วยก็ได้
บางทีรถบ้านก็ประกาศขายกันข้างถนนง่ายๆ ก็มี
หรือถ่ายรูปรถแล้วลงเว็บไซต์อย่าง Chobrod ก็มีไม่น้อย
ทั้ง 3 ข้อข้างต้นน่าจะเป็นคำแนะนำเบื้องต้นได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่ต้องการหา “รถบ้าน”มาไว้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเศรษฐกิจในยุคนี้ที่ยังเอาแน่เอานอนได้ยาก การถอยรถยนต์ป้ายแดงสักคันมาขับก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับฐานะของทุกคน ดังนั้น “รถบ้าน” อาจจะตอบโจทย์กระเป๋าเงินว่าพอจ่ายได้มากกว่า แต่ก่อนจะซื้อ ก็อย่าลืม 3 ข้อข้างบนนี้ให้ดี เพราะอาจช่วยคุณได้ไม่ต้องมาปวดหัวกันทีหลัง
เพราะของแบบนี้ ต้องบอกกันตรงๆ เลยว่า “ตาดีได้ ตาร้ายเสีย” นะครับ
ดูเพิ่มเติม
>> Five Fact : 5 ขั้นตอนขอสินเชื่อซื้อรถยนต์มือสอง
>> เคล็ดลับในการเช็คกระบะมือสอง ด้วยตัวเราเอง
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
