ไขข้อสงสัย : “ไฟแนนซ์จะยึดรถไหม” ถ้าหาไม่มีเงินผ่อนรถ!?

มีหลายวิธีในการจัดการกับค่าผ่อนรถไม่ไหว

หลายคนคงที่กังวลใจว่าหากไม่มีเงินผ่อนรถต่อ ไฟแนนซ์จะมายึดรถคืนหรือไม่ วันนี้ Chobrod มีคำตอบ พร้อมทางออกที่น่าจะช่วยทุกท่านได้ เกี่ยวกับเรื่องของไฟแนนซ์ กับการยึดรถคืน จะมีอะไรบ้างเลื่อนลงมาดูเลยค่ะ

ซื้อรถช่วงแรกอะไรก็ดีไปหมด แต่ถ้าจ่ายค่างวดไม่ทันจะเป็นอย่างไรล่ะ?

สำหรับคนที่ซื้อรถมา การผ่อนรถใน 1-3 เดือนแรกอาจจะยังรู้สึกสบายๆ อยู่ แต่พอเข้าเดือนที่ 4 เป็นต้นไปจะเริ่มรู้สึกถึงความขัดสนทางการเงิน จนส่งผลให้เกิดการค้างค่างวดได้เลยทีเดียว ตามปกติแล้วหากมีการขาดส่งค่างวดรถเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินจากไฟแนนซ์จะติดต่อเข้ามาเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ให้ แต่หากภายใน 30 วัน ยังตกลงเรื่องค่าชำระค่างวดไม่ได้ ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินจะมายึดรถของเรา โดยวิธีการยึดรถก็มีหลากหลายวิธี ซึ่งบางครั้งอาจมาในรูปแบบทีไม่ทันตั้งตัว โดยที่เราไม่มีสิทธ์ต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น

ดูเพิ่มเติม
>> จริงหรือหลอก!!! ฟรีดาวน์รถมือสอง​
>> เจาะคำถาม ล้วงคำตอบ: คืนรถเช่าซื้อแล้ว ไฟแนนซ์ขายขาดทุน ไม่ต้องจ่ายค่าขายขาดทุน ???​

หลายคนคงกังวลกับการที่มีเงินไม่พอจ่ายค่างวด

การรีไฟแนนซ์ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้รถของคุณยังเป็นของคุณอยู่ โดนการขยายเวลาการผ่อนออกไป และขอลดยอดการผ่อนในแต่ละเดือนให้ลดลง แต่ผลที่อาจจะตามมาก็คือ การเสียดอกเบี้ย หรือผลประโยชน์ให้กับทางไฟแนนซ์มากขึ้น อีกวิธีหนึ่งก็คือการเจรจาของผ่อน เฉพาะดอกเบี้ยไปก่อน โดยที่ยังคงเงินต้นไว้ เผื่อว่าในอนาคตผู้เช่าซื้ออาจมีเงินก้อนไปปิดยอดค้างค่าชำระ ก็ช่วยให้สามารถเจรจาได้ง่ายขึ้น

การคืนรถให้กับไฟแนนซ์ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับคนที่ไม่อยากรับภาระเรื่องรถต่อ

แต่สำหรับคนที่ไม่อยากเพิ่มภาระให้ตนเองมากไปกว่านี้ เราสามารถคืนรถให้กับทางไฟแนนซ์ได้ โดยการคืนรถมีอยู่ 2 กรณีด้วยกัน คือ

1. กรณีการคืนรถโดยผิดสัญญา หรือ ค้างผ่อนชำระหลายงวด โดยจะต้องชำระค่าเสียหาย ค่าขาดประโยชน์ อื่นๆ ยิ่งค้างชำระหลายงวดจะยิ่งเสียค่าเสียหายจำนวนมาก
2. กรณีการคืนรถโดยที่ไม่ผิดสัญญา หรือ ไม่ได้ค้างผ่อนชำระ ลักษณะนี้ ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายหรือค่าขาดประโยชน์ใดๆ เนื่องจากไม่ได้ค้างชำระ ไฟแนนซ์จะคิดเพียงค่าส่วนต่างเวลาที่ขายรถ และขาดทุนเท่านั้น

ขายรถต่อให้บุคคลอื่นอื่นก็ง่ายต่อการจัดการ

หรือจะใช้วิธีการการขายให้บุคคลอื่น ซึ่งมีอีก 2 กรณีเช่นกัน ได้แก่

1. การขายให้บุคคลอื่นโดยไม่ได้เปลี่ยนสัญญา โดยผู้เช่าซื้อยังเป็นคนเดิมอยู่ ซึ่งกรณีนี้ค่อนข้างเสี่ยงอย่างมาก หากคนที่ซื้อรถไปแล้วเอาไปขายให้คนอื่นต่อ หรือรถหาย ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตามกรณีนี้ไม่เป็นที่แนะนำ ยกตัวอย่างเช่น บางเคสเอารถไปจำนำในบ่อน หรือเอาไปขายให้เต็นท์ ทำให้เจ้าของ หรือผู้เช่าซื้อรถจะต้องปวดหัวไปตามหารถมาคืนไฟแนนซ์
2. การขายให้บุคคลอื่นโดยเปลี่ยนสัญญา เป็นการขายเปลี่ยนสัญญา และนำเงินที่ได้ไปปิดจ่ายไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ปลอดภัยทั้งคนค้ำประกัน ปลอดภัยทั้งผู้เช่าซื้อด้วย แต่ต้องหาคนซื้อรถ หาคนเปลี่ยนสัญญาให้ได้ โดยอาจจะต้องยอมขายขาดทุน เพื่อแลกกับเวลาและค่าใช้จ่ายที่จะตามมาในอนาคต

การอ่านสัญญาอย่างถี่ถ้วนตั้งแต่แรกช่วยให้คุณหาทางออกได้ง่ายยิ่งขึ้น

หากการต่อรองกับไฟแนนซ์จบลงอย่างงดงาม รถคู่ใจก็จะยังคงอยู่กับคุณเช่นเคย

การอ่านสัญญาอย่างถี่ถ้วน และการเลือกซื้อรถตามกำลังการผ่อนจ่ายของเราเท่าที่ไหว ทั้ง 2 สิ่งนี้จะช่วยให้เราตั้งสติก่อนซื้อของ หรือก่อนการเซ็นสัญญาที่ดีมาก เพราะหากเกิดปัญหาในการผ่อนจ่ายรถ คุณยังสามารถเลือกคืนรถ หรือปรับโครงสร้างหนี้ได้ทันทีตามที่ระบุไว้ในสัญญาแต่ละฉบับ เพื่อรักษารถของคุณให้คงอยู่กับคุณได้อย่างยาวนาน ไม่ถูกไฟแนนซ์ยึดไปก่อนนะคะ แล้วบทความดีๆ ต่อไปจะเป็นบทความไหน ติดตามกันต่อได้ที่ Chobrod.com นะคะ

ดูเพิ่มเติม
>> ลดต้น-ลดดอก สัญญาเช่าซื้อรถใหม่ ต่างจากเดิมอย่างไร?
>> ผ่อนรถไม่ไหวคืนรถให้ไฟแนนซ์ อาจไม่จบ ระวังโดนยึดทรัพย์!​

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ค้นหาข้อมูลรายละเอียดสามารถเข้าดูวีวิวรถ เชิญที่นี่