เปิดเคล็ดลับเช็คสภาพรถมือสองให้ไม่โดนย้อมแมวรับรองไม่มีดราม่าแน่นอน

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 6 มิ.ย 2562
แชร์ 6

รถมือสอง หลายคนกลัวโดนย้อมแมว ได้รถสภาพไม่ดี ในราคาโดนโขกสับ คราวนี้เรามีวิธีดูรถมือสองแบบเจาะลึกทุกมุม ทั้งในแง่ของการดูสภาพรถ การสืบราคา เทคนิคการดูรายละเอียดต่างๆ ที่หลายคนไม่รู้มาก่อน

>> เช็คให้ชัวร์! ก่อนจะซื้อรถยนต์ 5 ข้อควรระวังเมื่อทำสัญญาซื้อขายรถยนต์​

​>> ก่อนซื้อต้องดูดี ๆ ! ตลาดรถมือสองราคาถูก ทำไมถึงต้องถึงต้องตรวจสภาพก่อนซื้อ ?​

เปิดเคล็ดลับเช็คสภาพรถมือสองให้ไม่โดนย้อมแมวรับรองไม่มีดราม่าแน่นอน

การซื้อรถยนต์มือสอง ต้องมีความรู้กันบ้างเล็กน้อย บางคนก็ให้ช่างมาดู แต่หากใครที่ไม่รู้จักใครมาช่วยเหลือ อยากดูด้วยตัวเอง ก็อ่านบทความนี้ไว้ เป็นเทคนิคประดับความรู้ ก่อนไปเจอรถมือสองของจริง จะได้ไม่ถูกย้อมแมวให้เจ็บใจในภายหลัง ซึ่งวิธีการง่ายๆ ใครๆก็ทำได้ดังนี้

เลือกสถานที่ดูรถเป็นลานเรียบในเวลากลางวัน

เลือกสถานที่ดูรถเป็นลานเรียบในเวลากลางวัน

1.เลือกเวลาสถานที่ให้เหมาะสม

การนัดดูรถมือสอง ควรทำตอนกลางวัน เพราะมีแสงสว่างเพียงพอที่จะเห็นข้อบกพร่องต่างๆชัดเจน และควรอยู่ในสถานที่พื้นเรียบ ไม่ใช่จอดอยู่บนพื้นดินหรือทางลาด เพื่อให้เห็นสมดุลย์ตัวรถชัดเจนและเป็นกลางที่สุด

2.เช็คเอกสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ก่อนจะเริ่มดูสภาพรถ ต้องตรวจเช็คเอกสารก่อนว่าเป็นรถจดทะเบียนในไทยถูกต้องจริง โดยดูเล่มทะเบียนว่ามีตัวตนจริง ดูชื่อเจ้าของว่าพร้อมเซ็นโอนได้หรือไม่ ดูเลขเครื่องว่าตรงกับของเดิมหรือเปล่า ถ้าไม่มีเล่ม เลขเครื่องไม่ตรง หรือโอนไม่ได้ ให้หลีกหนีรถเหล่านั้นเอาไว้ เพราะกฎหมายไม่คุ้มครอง เกิดอุบัติเหตุมาจะเสียเงินเปล่า ส่วนรถทะเบียนขาดต่อ ก็ไม่ควรเกิน 3 ปี มิฉะนั้นได้จดทะเบียนใหม่ เสียเวลาไปอีกขั้น

3.การมองสภาพสีว่าทำมาใหม่หรือไม่

ต้องเดินวนดูในที่มีแสงสว่างเพียงพอ หาจุดที่ชิ้นส่วนมีสีไม่เป็นเฉดเดียวกัน เช่น กันชนสีเข้มกว่าบังโคลนล้อ หรือฝากระโปรงมีความเงากว่ากันชน ก็สันนิษฐานได้เลยว่า รถคันนี้ทำสีมาแน่นอน นอกจากนี้ยังดูผิวตัวถังว่ามีการบูดโปนจากสีโป๊วไม่เรียบหรือไม่ ถ้ามีก้แสดงว่ารถคันนี้ถูกทำสีมาแล้ว อีกทั้งดูตามขอบยางกระจก หรือขอบไฟส่องสว่าง เพื่อดูจุดที่สีเล็ดลอดออกไปจากการทำสีใหม่ด้วย และควรศึกษาหาสเปคสีรถดั้งเดิมจากโรงงานของรุ่นนั้นมาก่อน จะช่วยให้ดูง่ายขึ้นไปอีก

ดูสีตัวถังรอบคัน ต้องสม่ำเสมอกัน

ดูสีตัวถังรอบคัน ต้องสม่ำเสมอกัน

4.รถแต่งซิ่ง ถ้าเน้นใช้งานควรเลี่ยง

รถยนต์ที่มีการแต่งเพิ่มสมรรถนะทั้งหลาย เช่น เปลี่ยนเครื่อง โหลดเตี้ย ใส่ล้อวงใหญ่ เพิ่มเครื่องเสียงดังตู้มๆ เหล่านี้เป็นการเพิ่มสมรรถนะของรถได้ก็จริง แต่ก็มีแนวโน้มว่ารถคันดังกล่าวจะถูกใช้งานอย่างหนักด้วย อาจจะเคยลงสนามแข่ง หรือใช้ขับด้วยความเร็วสูงบ่อยๆ ตามสไตล์คนรักความเร็ว ดังนั้นหากคุณไม่ใช่สายนักแข่งแล้วล่ะก็ ควรหารถที่สภาพใกล้เคียงเดิมมากที่สุด

5. เปิดดูเครื่อง ต้องไม่เยิ้ม ไม่มีควัน

หลังจากดูภายนอกแล้ว ให้เปิดฝากระโปรงหน้าดูด้วย อย่างอื่นเลยก็ดูว่ามีคราบน้ำมันเปื้อนตามจุดสำคัญบ้างหรือไม่ เช่น รอยต่อระหว่างหัวฉีด หน้าคอมแอร์ หรือรอยน้ำมันหยดลงพื้นยิ่งน่ากลัว นั่นหมายถึงจุดรั่วที่เตรียมตัวซ่อมอีกหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว และเมื่อสตาร์ทดูแล้ว ตอนเครื่องเย็นต้องไม่มีควันไหลออกท่อไอเสีย ถ้ามีออกมาแม้เพียงเล็กน้อย ก็บอกลารถคันนั้นได้เลย เพราะนั่นเป็นสัญญาณว่าเครื่องหลวมแล้ว

เครื่องต้องสวยแห้ง ไม่มีแฉะเยิ้มแบบนี้

เครื่องต้องสวยแห้ง ไม่มีแฉะเยิ้มแบบนี้

>> 10 ข้อต้องดูในส่วนของ “เครื่องยนต์” เมื่อซื้อรถมือสอง

​>> ไขข้อสงสัย ระหว่างมือสอง Honda vs Toyota เลือกยี่ห้อไหนดีกว่า?​

6.ดูสภาพตัวถัง เหล็กสวยไม่เบี้ยว

เริ่มดุจากคานหม้อน้ำด้านหน้า หัวน็อตต้องมีสีเรียบร้อย ไม่มีรอยถลอกจากการถูกแก้ไข รวมถึงรอยเชื่อมตัวถังตรงขอบห้องเครื่อง ต้องสม่ำเสมอกัน ต่อมาดูผนังห้องเครื่อง จะเห็นรอยปั๊มนูนต่ำเพื่อขึ้นรูปเหล็ก สันนูนเหล่านี้จะต้องคมกริบชัดเจนตั้งแต่ห้องเครื่อง จนถึงห้องสัมภาระท้าย ที่ต้องเลิกพรมขึ้นมาดู

7.ห้องโดยสาร ต้องไม่แฉะ

เมื่อเข้ามานั่งในห้องโดยสาร ลองรื้อพรมทุกชิ้นส่วนที่เปิดได้ เพื่อดูว่ามีรอยคราบน้ำ หรือรอยความชื้นแฉะใดๆหรือไม่ หากมีก็แสดงว่า รถคันนี้ถูกนำเข้ามาขังไว้แล้ว ในอนาคตใช้ไปเกิดสนิมเร็วกว่าปกติแน่นอน รวมถึงดูสภาพของพลาสติก ว่ามีแตกหักหรือไม่ เพราะมันบ่งบอกว่ามีการชนเข้าถึงห้องโดยสาร หรือไม่ก็เกิดจากปัญหาประจำรถรุ่นนั้นๆ ซึ่งต้องเสียค่าเปลี่ยนคอนโซลหลักหมื่นบาทกันเลยทีเดียว

ภายในลองพลิกพรมดู ต้องไม่มีคราบรอยน้ำ

8.ลองขับสั้นๆ ต้องใช้งานได้ทุกส่วน

เมื่อขอเจ้าของรถลองขับได้ ก็ให้เราลองสังเกตตั้งแต่หน้าปัด ต้องไม่มีโชว์ไฟเตือนใดๆ การเข้าเกียร์ ต้องเข้าได้นิ่ม ไม่มีเสียงตึงตังและกระชาก จากนั้นขับออกช้าๆ โดยหาพื้นที่ว่างเพื่อหักพวงมาลัยออกจนสุดทั้งซ้าย-ขวา เพื่อดูว่ามีเสียงดังขณะเลี้ยวหรือไม่ จากนั้นลองขึ้นลูกระนาดบนถนนด้วยความเร็วต่ำ เพื่อดูเสียงช่วงล่างว่ามีเสียงเหมือนเหล็กกระทบกันหรือไม่ โช้คอัพต้องซับแรงได้และไม่เด้งหลายที ซึ่งแต่ละอาการนี้ หากซื้อรถมาซ่อมเอง ก็เสียเงินหลายพันบาทขึ้นไปทั้งนั้น

9.ก้มดูดอกยาง

หลงัจากขับแล้ว ถ้ามีเวลาสักนิด ก้มดูช่วงล่างว่ามีโช้คอัพเยิ้มหรือไม่ และดอกยางทั้ง 4 เส้น ต้องมีการสึกหรอสม่ำเสมอเท่ากันทั้งด้านนอกและด้านใน มิฉะนั้น ถ้ายางสึกด้านใดด้านหนึ่งเกินไป นั่นหมายถึงพวกบูชและชิ้นส่วนช่วงล่าง มีการสึกมาก ซ่อมใหญ่ก็หลายพันจนถึงหลักหมื่นบาท

สตาร์ทแล้วควันขาวแบบนี้ ซ่อมเป็นหมื่นแน่นอน

สตาร์ทแล้วควันขาวแบบนี้ ซ่อมเป็นหมื่นแน่นอน​

10.รู้ราคากลาง รู้เขารู้เรา

สุดท้ายแล้ว ผู้ซื้อควรรู้ราคากลางล่วงหน้าไว้ เพื่อประกอบการพิจารณา และการต่อรองราคาตามความเหมาะสมต่อไป

ขอเสริมความรู้เกี่ยวกับ "วิธีการดูรถมือสองว่าชนหนักไหม?!"

รถยนต์มือสองไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แค่มีความรู้เบื้องต้นดังกล่าวแล้ว เราก็จะสามารถซื้อรถได้อย่างสนิทใจ และมั่นใจไปได้เปราะหนึ่งว่า รถที่เราเสียเงินมา ไม่ได้เสียรู้จากพ่อค้ามาแน่นอน แล้วพบกับบทความรถมือสอง ที่จะอยู่ข้างผู้ซื้อคอยแนะนำเสมอ ที่เว็บไซต์ Chobrod.com ในตอนต่อไปครับ

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้