รถยนต์กลุ่ม C-Segment เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับความนิยม และก็เริ่มจะมีฟังก์ชั่นหลายๆอย่างเทียบกับรถรุ่นใหญ่ได้แล้วในปัจจุบันและราคาไม่เกินล้าน แต่ก็มีหลายแบรนด์ที่ทำรถยนต์ Segment นี้ วันนี้เรามาดูระหว่างแบรนด์ใหญ่จากแดนปลาดิบว่าจะตัดสินใจเลือกอย่างไรดีระหว่าง Nissan Sylphy 2018 และ Honda Civic 2018
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์สักคันที่ใหญ่กว่า B-Segment ขึ้นไป มีกำลังขับเคลื่อนที่แรงขึ้น มีห้องโดยสารที่กว้าง ตัวถังที่ใหญ่เพียงพอ และไม่ใหญ่เกินไปในราคาที่จับต้องได้ รถยนต์ Nissan Sylphy 2018 และ Honda Civic 2018 นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ นอกจากจะเป็น 2 แบรนด์ใหญ่จากญี่ปุ่นแล้ว ยังมีความแตกต่างที่น่าสนใจที่ดึงดูดให้ลูกค้าอยากจับจองเป็นเจ้าของอีกด้วย แต่จะเลือกรุ่นไหนดีระหว่าง Nissan Sylphy 2018 และ Honda Civic 2018 เราตามไปดูกันครับ
เปรียบเทียบ Nissan Sylphy 2018 vs Honda civic 2018
วันนี้เราจะไปดูกันครับว่ารถที่ระดับ Segment เดียวกันจากสองค่ายยักษ์ใหญ่นี้จะมีอะไรน่าสนใจและจะใช้แง่มุมไหนในการตัดสินใจดี เพราะสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลย รถยนต์คนละแบรนด์กันจะมีแนวคิดในการออกแบบและประกอบ รวมไปถึงฟังก์ชั่นต่างๆที่ให้มาไม่เหมือนกัน ทั้งยังส่งผลไปถึงราคาขายอีกด้วย บางอย่างอาจไม่จำเป็นสำหรับเราในราคาที่ลดลง หรือยอมจ่ายเพิ่มเพื่อได้ฟังก์ชั่นอื่นเพิ่มเติม ซึ่งรถ Segment นี้ก็อยู่ในระดับที่ราคาและฟังก์ชั่นดึงกันอยู่ด้วย
1. เปรียบเทียบราคา
Nissan Sylphy 2018 มีช่วงราคารุ่นล่างสุดไปถึงสูงสุดคือ 833,000 บาท - 1,015,000 บาท
Honda Civic 2018 มีช่วงราคารุ่นล่างสุดไปถึงสูงสุดคือ 869,000 บาท - 1,199,000 บาท
ราคาส่วนต่างของรุ่นล่างสุดประมาณ 36,000 บาท และราคาส่วนต่างรุ่นท็อปสุดประมาณ 184,000 บาท ราคาส่วนต่างของรุ่นล่างสุดประมาณ 36,000 บาท และราคาส่วนต่างรุ่นท็อปสุดประมาณ 184,000 บาท ด้วยเรื่องของชื่อชั้นและยอดขายรวมของแบรนด์แล้วก็ต้องยกให้ Honda ว่าเขานำหน้า Nissan อยู่เล็กน้อยทำให้ในทางการตลาดการตั้งราคาก็อาจจะตั้งได้สูงกว่าได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ว่ามีฟังก์ชั่นอะไรต่างๆในรถยนต์ต่างกันมากแค่ไหน และส่วนต่างที่มีตั้งแต่หลักหมื่นไปถึงหลักแสนมีอะไรบ้างตามไปดูกันครับ
2. เปรียบเทียบดีไซน์ภายนอก
Nissan Sylphy 2018 เน้นการออกแบบที่ทำให้ดูหรูหรามาเป็นหลักจึงมีการออกแบบไฟหน้าที่ใช้แนวคิดของประกายเพชรมาเกี่ยวข้อง ทำให้เวลามองที่ไฟหน้าแล้วจะคล้ายกับมีประกายเพชรอยู่ตลอดเวลาแม้ไม่ได้เปิดไฟหน้า และใช้ไฟหน้าแบบ Xenon เพิ่มความสว่างในยามค่ำคืน ขณะที่ไฟหรี่ใช้เป็นแบบ LED ทำให้ประหยัดไฟมากขึ้นและให้ความสว่างมากกว่าทั้งยังเสริมด้วยระบบทำความสะอาดโคมไฟหน้าอีกด้วย ราวมือจับประตูก็ใช้โครเมี่ยมเพิ่มความหรูหรา ซึ่งสีโครเมี่ยมก็จะเด่นขึ้นมาตัดกับสีของตัวรถทันที กระจังหน้ายังคงเป็นดีไซน์ตามกลิ่นอายของ Nissan ในยุคนี้คือเป็นเส้นตามแนวนอนพร้อมด้วยตราโลโก้ตรงกลาง ล้อรถยนต์เป็นอัลลอยสปอร์ต2ขนาดคือ 16และ17 นิ้ว ด้านหลังเป็นสปอยเลอร์ที่ไม่ดูใหญ่เทอะทะเกินไปพร้อมกับไฟเบรคดวงที่สาม ด้านบนหลังคายังมี Sunroof ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าอีกต่างหาก
ภายนอกของ Nissan Shyphy 2018 ที่เน้นความหรูและมาพร้อมกับ Sunroof
สำหรับ Honda Civic 2018 นั้น กระจังหน้าของ Honda Civic จะแตกต่างกับ Nissan Sylphy อย่างเห็นได้ชัด โดยจะมีแถบโครเมี่ยมที่หนาเด่นขึ้นมาวางด้วยโลโก้ Honda ด้านบน ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ที่ออกแบบให้มีรูปทรงแบบโฉบเฉี่ยว และเป็นแบบเปิดปิดอัตโนมัติสำหรับรุ่นที่ไม่ใช่รุ่นล่างสุดในทุกรุ่น ตามประกบด้วยไฟหน้าสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED เช่นเดียวกับไฟท้ายที่เป็นแบบ LED เช่นกัน ล้อรถยนต์เป็นอัลลอยให้เลือกทั้งขนาด 16และ17นิ้ว ด้านหลังก็มีสปอยเลอร์แบบ Wing พร้อมกับไฟเบรคดวงที่3ด้วย
ภายนอก Honda Civic 2018 ที่มาพร้อมความโฉบเฉี่ยว
ภายนอกเรียกได้ว่าเป็นแบบฉบับเฉพาะของทั้งสองแบรนด์ที่ทำออกมาได้ดีทั้งคู่ มีการปรับส่วนต่างให้เข้าสมัยไม่ว่าจะเป็นดีไซน์หรือการใช้ไฟLEDเข้ามาเพิ่ม แต่ส่วนที่เห็นจะต่างกันหลักๆก็คือระบบ Sunroof ไฟฟ้าที่มีใน Nissan Sylphy 2018 สำหรับใครที่คิดว่าจุดนี้เป็นจุดสำคัญสำหรับการให้สุนทรียภาพในการขับรถแล้วล่ะก็ทาง Nissan Sylphy 2018 ก็จะดีกว่าเล็กน้อย
3.เปรียบเทียบอุปกรณ์ภายใน
Nissan Sylphy 2018 ภายในของ Nissan Sylphy 2018 มีให้เลือกทั้งแบบสีเข้มดำหรู หรือจะเป็นแบบสีอ่อนแบบสีเบจก็มีให้เลือกทั้งสองอารมณ์ มิเตอร์จะอยู่ตรงหน้าคนขับและมีสีขาวเรืองแสงพร้อมกับจอแสดงผล MID (Multi Information Display) แต่ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนักเพื่อให้แสดงผลได้อย่างง่ายๆไม่ต้องซับซ้อน ช่องลมเครื่องปรับอากาศแบบแยกอิสระซ้ายขวาจะอยู่ตรงกลางเหนือจอแสดงผลของเครื่องเสียง ส่วนแผงควบคุมระบบปรับอากาศจะอยู่ด้านล่างของเครื่องเสียงอีกทีเนื่องจากการปรับเครื่องเสียงคาดว่าน่าจะใช้บ่อยกว่าระบบปรับอากาศ พวงมาลัยเป็นแบบสามก้านที่มีสวิทช์ควบคุมพวงมาลัยอยู่ที่ด้านซ้ายทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่าจะปรับอะไรต้องซ้ายหรือขวา จำง่ายๆไปเลยว่าอยู่ด้านซ้ายของพวงมาลัย ส่วนเครื่องเสียงสามารถรองรับระบบ Apple Carplay ได้ ใช้ระบบนำทางผ่านสมาร์ทโฟนได้ พร้อมระบบบลูทูธแฮนด์ฟรี และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง
ภายในสีโทนดำของ Nissan Shyphy 2018
ภายในสีเบจของ Nissan Shyphy 2018
มาตรวัดเรืองแสงเรียบหรูของ Nissan Shyphy 2018
Nissan Shyphy 2018 มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังด้วย
ปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยทำให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน
ระบบนำทางและการเชื่อมต่อ Apple Carplay ใน Nissan Shyphy 2018
Honda Civic 2018 จะออกแบบภายในให้ดูเรียบหรุ เริ่มกันตั้งแต่สีที่ใช้เป็นสีโทนดำ เน้นการดีไซน์ภายในให้เอื้อกับคนขับมากกว่าจะทำให้สมมาตรซ้ายขวา โดยเครื่องเสียงและดีไซน์ของช่องลมเครื่องปรับอากาศจะมีองศาที่หันไปทางคนขับเล็กน้อย ระบบเครื่องเสียงที่อยู่ตรงกลางจะคล้ายกับทาง Nissan คือช่องลมเครื่องปรับอากาศตามด้วยหน้าจอเครื่องเสียงและด้านล่างเครื่องเสียงเป็นแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ โดยที่หน้าจอเครื่องเสียงของ Honda Civic 2018 จะเน้นปุ่มควบคุมต่างๆแบบSoftware Switch ทำให้ดูเรียบหรูกลืนไปกับหน้าจอกว่าของ Nissan ที่เป็น Hardware Switch ส่วนฟังก์ชั่นที่เหนือขึ้นมาอีกของ Honda Civic 2018 ก็คือระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ทำให้สามารถสั่งเปิดแอร์ในรถยนต์ได้ก่อนโดยที่ผู้ขับยังไม่ถึงตัวรถ เบาะนั่งฝั่งคนขับสามารถปรับได้ถึง 8 ทิศทาง
ภายในโทนดำของ Honda Civic 2018
หน้าจอสัมผัสสำหรับปรับความแรงของเครื่องปรับอากาศในHonda Civic 2018
ระบบเสียงจากลำโพง 8 จุด ใน Honda Civic 2018
ปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยและช่องเชื่อมต่อทั้ง 12V, HDMI, USB ในHonda Civic 2018
มาตรวัดเรืองแสงของ Honda Civic 2018
Bluetooth Handsfree ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในนั้น ด้านพื้นฐานแล้วถือว่าใช้ได้ทั้งคู่เพราะว่าฟังก์ชั่นต่างๆที่อำนวยความสะดวกก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งเครื่องเสียงที่มีหน้าจอและการดีไซน์ระบบปรับอากาศ ต่างกันตรงที่ Honda Civic 2018 มีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศ และเบาะที่นั่งคนขับปรับทิศทางได้มากกว่าเล็กน้อย ที่เหลือจะเป็นเรื่องของดีไซน์โดยรวม
ดูเพิ่มเติม
>> ทำไมรถตลาดอย่างค่าย Honda ถึงไม่ทำรถให้ออกมาดีไซน์ล้ำๆ?
>> Honda รถยนต์ที่ติดอันดับตลาดรถที่ขายดีมากที่สุดในครึ่งปี 2018
4.เปรียบเทียบเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ของ Nissan Sylphy 2018 เป็นเครื่องเบนซิน 4สูบ 1,598 ซีซี ให้กำลัง116แรงม้าที่ 5,600รอบต่อนาที รองรับน้ำมันE85 และมีเครื่องยนต์แบบเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ที่ปริมาตรกระบอกสูบ 1,618 ซีซี ให้กำลังสูงถึง 190แรงม้าที่ 5,600รอบต่อนาทีเช่นกัน แต่ตัวเทอร์โบนี้จะไม่รองรับน้ำมัน E85
เครื่องยนต์ของ Honda Civic 2018 เป็นเครื่องเบนซิน 4 สูบ 1,799 ซีซี ให้กำลัง 141 แรงม้าที่ 6,500รอบต่อนาที และก็มีเครื่องเทอร์โบเช่นกัน แต่ขนาดความจุของกระบอกสูบในเครื่องเทอร์โบจะเป็น 1,498ซีซี ที่ให้กำลังสูงถึง 173แรงม้า ที่5,500รอบต่อนาที
ในด้านเครื่องยนต์ต้องบอกเลยว่า มีข้อดีข้อเสียกันคนละแบบ สำหรับเครื่องธรรมดาทาง Nissan Sylphy 2018 จะมีเครื่องเล็กว่าเครื่องยนต์ของ Honda Civic 2018 หน่อยทำให้ได้แรงม้าน้อยกว่าแต่รุ่นที่เป็นเทอร์โบ ทาง Nissan Sylphy 2018 จะมีเครื่องที่ใหญ่กว่าทำให้ได้แรงม้ามากกว่าด้วย
5. เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย
Nissan Sylphy 2018 มีระบบถุงลมคู่หน้า ด้านข้าง และแบบม่าน ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆที่น่าสนใจคือ ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ VDC (Vehicle Dynamic Control) กล้องมองหลังและสัญญาณเตือนกะระยะด้านหลังที่ให้มาพร้อมกันทั้งคู่ในรุ่นท็อป
ระบบความปลอดภัยหลักๆคือถุงลมทั้งหน้า ข้าง แบบม่านและระบบควบคุมการทรงตัวของ Nissan Sylphy 2018
Honda Civic 2018 มีระบบถุงลมที่ไม่แพ้กันคือ คู่หน้า ด้นาข่าง และแบบม่าน ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆที่น่าสนใจคือ ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA (vehicle stability assist) และระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน กล้องมองหลังที่ปรับมุมมองได้ 3ระดับ ระบบแสดงภาพในมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda Lane Watch) และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ
ระบบสัญญาณเตือนขณะเบรกกะทันหันใน Honda Civic 2018
Honda Lane Watch ใน Honda Civic 2018 จะมีกล้องด้านข้าง
ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชันใน Honda Civic 2018
กล้องมองหลังปรับได้ 3 ระดับใน Honda Civic 2018
เรียกได้ว่าเรื่องความปลอดภัยทาง Honda Civic 2018 จะอยู่เหนือกว่าสักหน่อย ด้วยระบบเทคโนโลยีของHondaเองที่นำมาจากรุ่นพี่ Honda Accord คือระบบ แสดงภาพในมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda Lane Watch) และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ แถมยังให้ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชันในทุกรุ่นย่อยด้วย
สรุปกันเลยดีกว่าว่า จะตัดสินใจอย่างไรดี สำหรับสองรุ่นนี้ที่ราคาต่างกันหลักหมื่นจนถึงหลักแสนบาท ก็ต้องยอมรับในส่วนหนึ่งว่าทาง Honda เขาให้เครื่องยนต์ที่่แรงกว่าเล็กน้อยสำหรับรุ่นที่ไม่ใช่เทอร์โบก็ถือว่าตรงนี้คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคา Honda Civic สูงกว่า Nissan Sylphy และทาง Honda ยังมีระบบความปลอดภัยที่เป็นระบบใหม่ๆใส่เข้ามาในรถด้วยคือ แสดงภาพในมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda Lane Watch) และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมท ส่วนที่เป็นเทคโนโลยีใหม่อย่างอื่นก็คือ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ทั้งหมดนี้ทำให้ Honda Civic ดูมีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าเล็กน้อย ก็ต้องอยู่ที่ทางลูกค้าว่าอยากจะได้รถยนต์ที่มีระบบเทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้หรือไม่ กับเงินที่ต้องแลกมาในราคาเป็นแสนบาท
อย่างไรก็ตามนี่คือมุมมองที่ออกมาจากทาง Chobrod.com ซึ่งสามารถนำมาใช้เพิ่มมุมมองในการตัดสินใจรถได้เพิ่มขึ้นครับ ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกหลายปัจจัยที่เอามาช่วยในการเลือกซื้อและที่สำคัญถ้าคุณได้ลองขับก็จะยิ่งเข้าใจรถคันนั้นๆมากขึ้นด้วยครับ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการเลือกซื้อรถในกลุ่ม C-Segment ที่เป็นรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยและมีฟังก์ชั่นต่างๆที่มากขึ้นน้องๆรถหรูแล้ว ก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่านเลือกรถได้ตรงใจกับความต้องการมากที่สุดนะครับ
ดูเพิ่มเติม
>> ซีดานโหมด! กับ Nissan Sylphy Zero Emission รถไฟฟ้าเวอร์ชั่นซีดานของ LEAF
>> รู้จัก Nissan Intelligent Mobility นวัตกรรมพลังงานสะอาด
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
อ่านรีวิวรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ เชิญที่นี่