เทียบข้ามรุ่น Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018 กับ MG V80 ใครเหมาะจะใช้รุ่นไหน

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 3 พ.ค 2562
แชร์ 0

ไม่เพียงแค่ตลาดรถอเนกประสงค์เท่านั้นที่เติบโต แต่ยังมีกลุ่มรถตู้อีกหนึ่งประเภทที่มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด วันนี้ Chobrod ขอยก 2 รุ่นรถตู้เปิดตัวใหม่จากค่าย Mercedes-Benz และ MG มาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆ ที่กำลังมองหารถตู้รุ่นใหม่มาใช้ ได้เห็นว่ารถตู้รุ่นไหนเหมาะกับเพื่อนๆ มากที่สุดค่ะ

เปรียบเทียบ Mercedes-Benz V-Class Night Edition ปะทะ New MG V80

เปรียบเทียบ Mercedes-Benz V-Class Night Edition ปะทะ New MG V80

สำหรับตลาดกลุ่มรถตู้เรียกว่าอยู่มาอย่างยาวนาน แต่ว่าก็เป็นกลุ่มที่มีแต่รุ่นรถหน้าตาเดิมๆ แต่ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้ก็มีรถตู้หน้าตาใหม่โผล่มาให้เรามองเห็นกันมากขึ้น โดยวันนี้ Chobrod จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับรถตู้ 2 รุ่นใหม่จากค่าย Mercedes-Benz และ MG ซึ่งถ้าบอกว่ามาเปรียบเทียบก็ดูจะข้ามรุ่นกันไปสักหน่อย เราเลยพาทำมารู้จักกับ 2 รุ่นนี้แทนแล้วกันค่ะ

I. แนะนำ

1. Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018

เปรียบเทียบ Mercedes-Benz V-Class Night Edition ปะทะ New MG V80

ภายนอกตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเส้นสายแบบธรรมดา ภายนอกอาจไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ภายในเห็นแล้วต้องวาร์ป

ภายนอกตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเส้นสายแบบธรรมดา ภายนอกอาจไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ภายในเห็นแล้วต้องวาร์ป

Mercedes-Benz V-Class ได้รับการออกแบบทำให้การเดินทางเป็นครอบครัวผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้ทุกช่วงเวลาของการพักผ่อนหรือประสบการณ์การผจญภัยต่างๆ เกิดความประทับใจมากขึ้นและนำพาผู้โดยสารเดินทางถึงจุดหมายปลายทางด้วยความสะดวกสบายและมีสไตล์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องการมอบประสบการณ์ความสามารถในการปรับเปลี่ยนของ V-Class ภายใต้แนวคิดการออกแบบภายในให้มีความอเนกประสงค์ทำให้ Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018 เป็นรถยนต์แบบ MPV ที่ให้ความสะดวกสบายด้วยหลากหลายความเป็นไปได้ สัดส่วนภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมในด้านของความสามารถในการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งาน ฟังก์ชันการใช้งานและการออกแบบ โดยราคาเปิดตัวในต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 2,098,000 บาท ซึ่งหากรวมภาษี และค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วราคาอาจพุ่งไปถึงเกือบๆ 5 ล้านบาทเลยทีเดียว

2. MG V80

โดดเด่นด้วยตัวถังทรงกล่อง ที่ให้ความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง

โดดเด่นด้วยตัวถังทรงกล่อง ที่ให้ความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง

โดดเด่นด้วยตัวถังทรงกล่อง ที่ให้ความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง

MG V80 เป็นรถตู้เพื่อการโดยสารรุ่นแรกจาก MG ที่เปิดตัวในไทยไปเมื่องาน Motor Show ที่ผ่านมา โดยรุ่นนี้เคยเปิดตัวในไทยมาก่อนด้วยแบรนด์ Maxus ในชื่อรุ่น Maxus V80 มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายรูปแบบ และหลายรุ่นย่อย ไม่ว่าจะเป็น V80 Pasina / Palina / Sativa / Lativa / Cortina ซึ่งการกลับมาในครั้ง MG ก็กลับมาในชื่อรุ่นเดิม “MG V80” โดดเด่นด้วยการเป็นรถตู้โดยสาร 4 แถว 11 ที่นั่งในขนาดที่ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะสำหรับการใช้ขนส่งผู้โดยสาร และครอบครัวในจำนวนมาก ให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารมาอย่างกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ เปิดตัวมาด้วยทางเลือก 2 รุ่นย่อย คือ MG V80 2.5L MT ราคา 988,000 บาท และ MG V80 2.5L SELEMATIC ราคา 1,038,000 บาท

ดูเพิ่มเติม
>> ปริ่ม ! MG เผยได้รับการต้อนรับ NEW MG V80 จากคนไทยสูงเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้
>> พาไปส่อง “MG ZS EV 2019” รถไฟฟ้าอีกคันที่จะลุย ตลาดรถเมืองไทย

II. ดีไซน์ภายนอก

1. Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018

รถตู้หรูสไตล์สปอร์ต มาพร้อมกับเส้นสายที่สวยงาม รวมถึงให้พื่นที่โดยสารอย่างกว้างขวาง

รถตู้หรูสไตล์สปอร์ต มาพร้อมกับเส้นสายที่สวยงาม รวมถึงให้พื่นที่โดยสารอย่างกว้างขวาง

Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018 มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกในรูปแบบรถตู้หรูสไตล์สปอร์ต มาพร้อมกับลายเส้นที่สวยงาม ดีไซน์ด้านข้างแสดงให้เห็นความกว้างขวางของตัวรถพร้อมเสริมความพลิ้วไหวด้วยมุมโค้งมนด้านหลัง รับกับกระจกหลังขนาดใหญ่ และแถบโครเมียมใต้กระจก กระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ Avant-garde พร้อมเพิ่มความดุดันกับล้ออัลลอยแบบ 19 นิ้วลาย 7 ก้านคู่สีดำเช่นเดียวกับตัวถัง ไฟหน้าดีไซน์ใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยี LED Intelligent Light System อย่างเต็มรูปแบบ ปิดท้ายด้วยไฟท้าย LED ซึ่งออกแบบอย่างงดงามลงตัว

>>> ดูเพิ่มเติม ราคารถเบนซ์

2. MG V80

ให้ตัวถังมาค่อนข้างใหญ่ ตกแต่งเรียบง่าย หน้ารถสั้น

ให้ตัวถังมาค่อนข้างใหญ่ ตกแต่งเรียบง่าย หน้ารถสั้น

MG V80 มาพร้อมกับมิติตัวถังที่ความยาว x กว้าง x สูง: 4,950 x 1,998 x 2,132 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase 3,100 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร มาในรูปแบบการตกแต่งที่เรียบง่าย ด้วยรูปทรงตัวถังรถรูปทรงสีเหลี่ยม พื้นที่ด้านหน้ารถสั้น แม้ภายนอกจะดูเหมือนว่ามีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ให้พื้นที่ภายในมาค่อนข้างเยอะ ผสานกับความโดดเด่นที่เหมาะสำหรับการเป็นรถตู้สำหรับครอบครัวด้วยความสะดวกสบายของประตูสไลด์ข้าง 2 บาน พร้อมบันไดไฟฟ้าแบบอัตโนมัติช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลง นอกจากนี้ยังมีประตูท้ายบานคู่แบบ 50 : 50 ที่เปิดได้กว้าง 180 องศา ช่วยให้การขนสัมภาระสะดวกสบายยิ่งขึ้น

III. ดีไซน์ภายใน

1. Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018

ภายในติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากให้อย่างครบครัน

ภายในติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากให้อย่างครบครัน

พื้นที่โดยสารกว้างขาง ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำเป็นหลัก

พื้นที่โดยสารกว้างขาง ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำเป็นหลัก

ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ และล้ำสมัย แต่ยังคงความเรียบง่ายในการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลายทั้งลายไม้คลาสสิกเคลือบเงาแบบผิวเปียโน วัสดุหุ้มที่นั่งแบบ Nappa Leather คุณภาพสูงที่เดินตะเข็บอย่างหรูหรา พร้อมไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับได้ 3 สี เน้นการตกแต่งด้วยสีดำไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งหนังแท้คุณภาพที่นุ่มสบายสีดำ แผงหน้าปัดหนังมีการออกแบบตัดเย็บอย่างดี และการปูพรมพื้นของรถ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ 'Edition'  ซึ่งจะคุมโทนด้วยชุดสีดำเกือบทั้งหมด ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางสะดวกสบาย กับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบแยกส่วน ประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวาและฝาท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งจากภายในห้องโดยสารและจากกุญแจรีโมท ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าและ TEMPMATIC สำหรับผู้โดยสารด้านหลังสามารถแยกปรับการทำงานได้อย่างอิสระ พร้อมแป้นควบคุมระบบเสียงแบบสัมผัส (touchpad) และระบบเสียงรอบทิศจาก Burmester ที่มาพร้อมกับลำโพง 15 ตัว และ bass reflex box นำเสนอพลังเสียงระดับ 640 วัตต์ ไปสู่ผู้โดยสารในทุกตำแหน่งที่นั่ง

2. MG V80

ตกแต่งด้วยโทนสีขาว รองรับการนั่งโดยสารในระยะเวลายาวนานได้อย่างสบายๆ

ตกแต่งด้วยโทนสีขาว รองรับการนั่งโดยสารในระยะเวลายาวนานได้อย่างสบายๆ

ภายในห้องโดยสารให้พื้นที่กว้างขวาง โอ่โถง สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจากการวางเครื่องยนต์ไว้ที่ด้านหน้า และการใช้ระบบขับเคลื่อนแบบล้อหน้า ทำให้พื้นที่ห้องโดยสารเป็นแบบแบนราบ (Flat floor) ประกอบกับมิติตัวถังที่กว้าง และสูงจึงช่วยให้ห้องโดยสารโปร่งโล่ง นั่งสบาย และเดินเชื่อมถึงกันได้ทั้งห้อง เบาะที่นั่งโดยสารมี 4 แถว 11 ที่นั่ง โดยแถวที่ 1มี 2 ที่นั่ง เป็นที่นั่งแบบ Captain Seat (เข็มขัดนิรภัย 3 จุด ELR), แถวที่ 2 มี 2 ที่นั่ง เป็นที่นั่งแบบ Captain Seat (เข็มขัดนิรภัย 3 จุด ELR), แถวที่ 3 มี 3 ที่นั่ง (เข็มขัดนิรภัย 2 จุด NR) และแถวที่ 4 มี 4 ที่นั่ง (เข็มขัดนิรภัย 2 จุด NR) ฝาท้าย แยกเปิดอิสระ ซ้าย-ขวา 50 : 50 เปิดได้กว้างข้างละ 180 องศา ภายในใช้วัสดุหนังสีขาว ซึ่งช่วยให้ห้องโดยสารกว้างมากขึ้นไปอีก

IV. ขุมพลังเครื่องยนต์

1. Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018

ติดตั้งเครื่องยนต์เดีเซล 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า

ติดตั้งเครื่องยนต์เดีเซล 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า

ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.1 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อขับขี่ภายในเมือง/ภายนอกเมือง/แบบผสม: 7.3/6.4/6.8 ลิตร/100 กม. อัตราการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อขับขี่แบบผสม: 179 กรัม/กม.

2. MG V80

MG V80 ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ VM Motori Eco-D ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า

MG V80 ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ VM Motori Eco-D ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า

ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ VM Motori Eco-D ขนาด 2.5 ลิตร 2,499 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 92.0 x 94.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 17.5 : 1 กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ AMT Selematic ขับเคลื่อนล้อหน้า

มองหา MG มือสอง คลิกที่นี่

V. ความปลอดภัย

1. Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018

Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018 ให้ระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์ความบันเทิงมาอย่างครบครัน

Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018 ให้ระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์ความบันเทิงมาอย่างครบครัน

Mercedes-Benz V-Class Night Edition 2018 ให้ระบบความปลอดภัยมาอย่างครบครัน อาทิ ระบบ Distance Pilot Distronic, ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้าให้ระบบความปลอดภัยมาอย่างครบครัน อาทิ ระบบ Distance Pilot Distronic, ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า, ระบบรักษาการทรงตัวกรณีมีลมขวางปะทะตัวรถด้านข้างน้า, ระบบรักษาการทรงตัวกรณีมีลมขวางปะทะตัวรถด้านข้างม ระบบช่วยเตือนให้ขับขี่อยู่ในช่องทาง, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบ Driving Assistance, ระบบช่วยการมองเห็นในจุดอับสายตา และระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ

2. MG V80

MG V80 มีระบบความปลอดภัยครบครันทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย (BFI – Body Frameless Integrated) ดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ และ 7 ระบบความปลอดภัยใน ESP (Electronic Stability Program) ซึ่งทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียวที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ สามารถขับขี่ได้สนุก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ดูเพิ่มเติม
>> Mercedes-AMG G 63 ออฟโรดทรงเท่ หรูลุยคุยได้หมด ! เตรียมเปิดตัวในไทยปลายเมษานี้
>> ไปดู Mercedes-AMG GT 53 4-door Coupe นำเข้าทั้งคันลุยตลาดรถเมืองไทย

สรุป

น่าจับตามองมากเลยนะคะ สำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้ แต่ราคาก็ต่างกันพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ

น่าจับตามองมากเลยนะคะ สำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้ แต่ราคาก็ต่างกันพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ

ทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่าเป็นรถตู้ที่ให้ความสะดวกสบายกับผู้โดยสารอย่างมาก แต่ราคาก็แตกต่างกันมากพอสมควร ถ้าจะถามว่ารถทั้ง 2 คันนี้เหมาะกับใคร ก็ต้องดูที่การใช้งานว่าปกติแล้วในการไปเที่ยวแบบครอบครัว หรือไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน เพื่อนๆ โดยสารกันมากหรือน้อย เพราะหากมากกว่า 7 คนรถตู้ฝั่ง MG ก็เหมาะมากกว่า แต่ถ้าโดยสารน้อยคน และต้องการความปลอดภัยที่มากขึ้น ก็ต้องยกให้กับทาง Mercedes-Benz ไป ในเรื่องของความแรง และเครื่องยนต์ยังไง Mercedes-Benz ก็ชนะอย่างแน่นอนอยู่แล้ว รวมถึงทางด้านของความสะดวกสบายในการอำนวยความสะดวก Mercedes-Benz ก็ยังคงชนะขาดลอยไปอยู่ดี แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่ากันถึง 1 ล้าน หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้

มอง คลิกที่นี่Mercedes-Benz มือสอง

สามารถติดตามข่าวสารเรื่องรถยนต์แบบอัพเดทได้ที่ Chobrod.com ได้เช่นเคยนะคะ