ซูซูกิเรียกรถยนต์คืนจากโรงงานผลิตที่ญี่ปุ่นถึง 2 ล้านคัน หลังรัฐบาลญี่ปุ่นตรวจเจอว่าโรงงานไม่ตรวจสอบระบบเบรคหลังผลิตเสร็จ
นับเป็นข่าวใหญ่ในด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ที่สะเทือนไปทั้งเกาะญี่ปุ่นทีเดียว และเผลอๆอาจจะเป็นข่าที่สะเทือนไปทั่วตลาดรถในหลายประเทศทีเดียว เพราะผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อีกค่ายของประเทศอย่างซูซูกิ กำลังถูกรัฐบาลญี่ปุ่นสอบสวนเอาผิดกับความผิดที่ข้องเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของรถยนต์
เรื่องนี้สื่อต่างประเทศหลายสำนักตีข่าวและเผยแพร่กันออกไปอย่างแพร่หลายทีเดียว โดยพากันอ้างคำพูดของ นายเคอิจิ อิชิอิ รัฐมนตรีกระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคมและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ที่บอกว่า บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ ของประเทศญี่ปุ่น กำลังดำเนินการที่อาจไม่เหมาะสม และเป็นผลให้เกิดความลดทอนความเชื่อมั่นของบริษัทที่ผลิตรถยนต์ออกมาจำหน่าย และยังเป็นการทำผิดซ้ำหลายครั้ง อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างมาก หากว่า ซูซูกิ มอเตอร์ จะเต้องเผชิญกับบทลงโทษจากรัฐบาล
นับเป็นข่าวใหญ่ในวงการรถยนต์ทีเดียว กับกรณีที่เกิดขึ้นกับ ซูซูกิ
ความผิดที่ รัฐมนตรีกระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคมและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นผู้นี้พูดถึง ถูกระบุว่ามันคือระบบความปลอดภัย ซึ่ง ซูซูกิ มอเตอร์ปกปิดข้อมูลมานานหลายปี แถมยังมีเรื่องระบบเบรกที่เกิดปัญหา จนนำไปสู่การเรียกคืนรถยนต์ของค่ายกลับสู่โรงงานการผลิตเพื่อตรวสอบมากถึง 2 ล้านคัน
ดูเพิ่มเติม
>> Suzuki ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ 3.3 หมื่นคัน หวัง 3 รุ่นใหม่เขย่าตลาดเมืองไทย
>> ทำได้ไง กวาดเรียบ ยอดขาย Suzuki Ertiga เดือนเดียวซัดไปกว่า 1300คัน
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซูซูกิ มอเตอร์ บริษัทค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาประกาศว่าจะเรียกคืนรถยนต์มากถึง 2 ล้านคัน ซึ่งทั้งหมดจะเป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นจากโรงงานของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ในช่วงเดือนเมษายน 2559 และไม่เพียงแค่รถยนต์ซูซูกิเท่านั้นที่ออกจากโรงงานแห่งนี้ หากแต่ยังมีมาสด้าอีกจำนวนหนึ่งที่โรงงานของซูซูำกิรับผลิตให้ ซึ่งก็ถูกเรียกคืนมาเช่นกัน
รถยนต์ของซูซูกิ 2 ล้านคันจะต้องตีกลับโรงงานแม่ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
เหตุผลของการประกาศเรียกคืนรถยนต์ เพราะคณะกรรมการตรวจสอบอิสระ ได้ไปตรวจสอบพบความผิดปกติบางอย่าง และตรวจสอบย้ำจนแน่ใจว่า รถยนต์ที่ออกจากโรงงานผลิตของซูซูกิ มอเตอร์ อาจไม่ได้ถูกตรวนจสอบเรื่องเบรก และเครื่องยนต์
อีกทั้ง ในรายงานการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบอิสระ ยังเน้นย้ำว่า เป็นเพราะพนักงานในไลนก์การผลิตรถยนต์มองว่าการทดสอบ หรือการตรวจสอบรถยนต์ที่ผลิตเสร็จแล้วนั้น "ไม่จำเป็น" เพราะบริษัทอาจเน้นเรื่องของ "ตุ้นทุน" ในการผลิตเพื่อให้มีประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อผลเป็นเช่นนั้นก็อาจทำให้ถูกมองว่ากาทดสอบรถหลังการผลิตจึงไม่มีความจำเป็น
แน่นอนว่าการเรียกคืนรถยนต์ของซูซูกิจะกระทบกับการตลาด โดยเฉพาะกับรถรุ่นใหม่ๆ ที่เตรียมลงสู่ตลาด
อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศยังระบุอีกว่า เมื่อราว 3 ปีก่อน ซูซูกิ มอเตอร์ได้บิดเบือนข้อมูลการประหยัดน้ำมัน ซึ่งในช่วงแรกบริษัทยืนยันว่าไม่มีการเสกสรรปั้นข้อมูลเท็จ แต่บอกว่ากระบวนการตรวจวัดนั้นไม่ได้ทำตามเงื่อนไขของกระบวนการที่ได้รับอนุมัติจากทางการ แต่ข้อมูลที่แจ้งนั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง จนกระทั่งหนึ่งเดือนต่อมา กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นได้ตรวจสอบอย่างจริงจัง ทำให้ซูซูกิต้องยอมรับว่าข้อมูลการทดสอบเป็นเท็จ
ผลพวงของเรื่องที่แดงขึ้นมา มันจึงทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นนั่นนิ่งเฉยไม่ได้ และจากเรื่องดังกล่าวนี้เอง มันจึงส่งผลให้กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นต้องสอบซูซูกิมอเตอร์ ย้อนหลังไปจนถึงปี 2524 เลยทีเดียว เพื่อหาความผิดปกติทั้งหมดที่ซูซูกิอาจจะปกปิดบางอย่างเอาไว้ด้วย
การขอโทษต่อสาธารณะของผู้บริหารระดับสูงค่ายซูซูกิ
กระนั้นก็ตาม แม้จะเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควรทีเดียวในวการอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่บิ๊กของค่ายซูซูกิอย่าง นายโทชิฮิโระ ซูซูกิ ประธานของซูซูกิ มอเตอร์ ก็ประกาศจะไม่ลงจากตำแหน่ง เพราะว่าต้องการปรับปรุงการทำงานของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขออภัยลูกค้ารถยนต์ของค่ายที่เสียศรัทธาและความไว้วางใจต่อกันมาโดยตลอด
น่าติดตามทีเดียวว่าการที่ซูซูกิถูกทางการของญี่ปุ่นตรวจสอบอย่างหนัก และแน่นอนว่ามันอาจจะต้องตามมาด้วยบทลงโทษหากพบว่าค่ายรถยนต์ค่ายนี้ละเลยความปลอดภัยของสินค้าก่อนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งหากเป็นจริงก็จะกระทบยอดขายและแผนการทำตลาดของค่ายในทันที และอาจไม่ใช่แค่เพียงผลกระทบในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น หากแต่มันอาจจะลุกลามไปทั่วโลก เพราะต้องไม่ลืมว่า ซูซูกิ ก็คือรถยอดนิยมที่มีผู้บริโภคสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ดูเพิ่มเติม
>> เผยโฉม Suzuki Ertiga Black Edition รถ MVP สไตล์หรูดูพรีเมี่ยมกับการดีไซน์ห้องโดยสารสุดทันสมัย
>> เปรียบเทียบ 2 รุ่นรถครอบครัว Suzuki Ertiga VS Toyota Sienta
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้