Nissan เปิดตัว Navara เจนใหม่ 2026 เครื่อง 2.4 ลิตร เทอร์โบดีเซล แพลตฟอร์มจากพันธมิตรในเครืออย่างมิตซูบิชิ ชูเครื่อง 2.4L Diesel เทอร์โบ 470 Nm พร้อมช่วงล่างจูนพิเศษโดย Premcar สเปกพรีเมียม อัดแน่น ADAS









Nissan ต่อยอดความสำเร็จในตลาดรถกระบะมานานกว่าสี่ทศวรรษ ด้วยการเผยโฉม Next-Generation Nissan Navara (นิสสัน นาวารา เจนเนอเรชันใหม่) ในประเทศออสเตรเลียซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับมาตรฐานในกลุ่มรถกระบะ 1 ตัน โดยรุ่นใหม่นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 2569 (2026) ในประเทศออสเตรเลีย เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของ Navara
รถกระบะ Navara เจนใหม่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม ของพันธมิตรในเครืออย่างมิตซูบิชิ มอเตอร์ หรือกระบะ Mitsubishi Triton (L200 เจเนอเรชั่นที่ 6) ผสานความแข็งแกร่งระดับโลกเข้ากับการปรับจูนช่วงล่าง (Suspension Calibration) พิเศษที่พัฒนาและทดสอบโดย Premcar ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นโครงการทางวิศวกรรมที่ครอบคลุมที่สุดโครงการหนึ่งของ Nissan ในภูมิภาคนี้ การปรับจูนช่วงล่างแบบเฉพาะจุดนี้ทำให้ Navara มอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ทั้งบนถนนปกติและแบบออฟโรด อีกทั้งยังรับน้ำหนักบรรทุกและการลากจูงได้อย่างมั่นคงและสะดวกสบาย







ขุมพลังและสมรรถนะ Navara ใหม่ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบ (Turbodiesel) ให้กำลัง 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) และแรงบิดสูงถึง 470 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มีช่วงอัตราทดกว้าง เพื่อมอบสมรรถนะที่ตอบโจทย์งานหนักและการใช้งานทั่วไป ในขณะที่ยังคงรักษาระดับการประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ 7.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (ประมาณ 12.99 กม./ลิตร) นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการลากจูงสูงสุดถึง 3,500 กิโลกรัมในทุกรุ่น





ดีไซน์และเทคโนโลยี Navara เจนใหม่มีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกของ Nissan แต่ถูกตีความใหม่ให้มีความซับซ้อนและทันสมัยยิ่งขึ้น โดยชูโรงด้วยกระจังหน้า V-strut Shield ที่ดูดุดัน และไฟหน้าทรงตัว C ที่เชื่อมต่อกับกระจังหน้าอย่างลงตัว สำหรับรุ่นท็อป PRO-4X โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายนอกสีดำ พร้อมการเน้นด้วยสี Lava Red ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อขั้นสูง Super 4WD (ในรุ่น ST-X และ PRO-4X) ที่มีโหมดการขับขี่ถึง 7 รูปแบบสำหรับทุกสภาพภูมิประเทศ
ด้านเทคโนโลยี Navara ติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว พร้อมรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ส่วนความปลอดภัยมาพร้อมถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง และชุดเทคโนโลยีช่วยขับขี่ ADAS ที่ครอบคลุม เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนฉุกเฉิน (Emergency Lane Assist), ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) และกล้องมองภาพรอบทิศทาง
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ