กันยายน 2024 บมจ. เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT ลงนามบันทึกข้อตกลง MoU กับ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) เพื่อรับงานขนส่งเชื้อเพลิงขยะมูลฝอย (RDF – Refuse Derived Fuel) ด้วยรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (eTruck)
นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ KIAT เปิดเผยว่าทั้ง KIAT และ UAC มีพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง KIAT และ UAC ที่ประเทศ สปป.ลาว โดย KIAT จะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 70 และ UAC จะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 30 สามารถจดทะเบียนบริษัทร่วมทุนได้เสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2024
การดำเนินธุรกิจขนส่งใน สปป. ลาว ครั้งนี้ ถือเป็นการพัฒนาธุรกิจครั้งสำคัญของ KIAT สามารถพัฒนาธุรกิจในต่างแดน เพราะมีพันธมิตรร่วมทุนที่แข็งแรงและเริ่มต้นด้วยการรับงานที่แน่นอน ด้วยธุรกิจ RDF เป็นเชื้อเพลิงที่มีความต้องการสูงใน สปป. ลาว ที่สำคัญ KIAT ใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในการทำธุรกิจที่ สปป. ลาว
งานรับงานขนส่ง RDF จาก VWM เป็นบริษัทย่อยของ UAC เองซึ่งบริหารโครงการจัดการขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจะเป็นกำขนส่ง RDF จากโรงงานจัดการขยะ ไปยังโรงงานปูนซิเมนต์ SCG คำม่วน
เริ่มต้นด้วยรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ eTruck ที่กำลังดำเนินการหลังการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนสำเร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาสเป็ครถที่เหมาะสม จำนวน 10 คันเพื่อขน RDF จำนวน 4,500 ตันต่อเดือน
นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ KIAT เปิดเผยว่า
การดำเนินธุรกิจขนส่งใน สปป. ลาว ครั้งนี้ ถือเป็นการพัฒนาธุรกิจครั้งสำคัญของ KIAT ใน สปป. ลาว และเรามีความเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ธุรกิจขนส่งมากกว่า 30 ปี จะสามารถพัฒนาธุรกิจในต่างแดนให้เติบโตได้อย่างแข็งแรงเพราะเรามีพันธมิตรร่วมทุนที่แข็งแรงและเริ่มต้นด้วยการรับงานที่แน่นอนและชัดเจน
แม้ว่าเศรษฐกิจของ สปป. ลาว ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ธุรกิจ RDF เป็นเชื้อเพลิงที่มีความต้องการสูงใน สปป. ลาว และมีลูกค้าที่ชัดเจน และที่สำคัญ เราใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในการทำธุรกิจที่ สปป. ลาว
เกียรติธนาในฐานะผู้นำด้านโลจิสติกส์ เราไม่ได้ละเลยที่จะศึกษาทางเลือกด้านพลังงานทุกทางเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการบริหารต้นทุนขนส่งที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุดที่สุด ดังนั้น eTruck จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเรา เรามีการศึกษามาอย่างต่อเนื่องและการบริหารกองรถ eTruck จำนวน 10 คันที่ สปป. ลาวนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี คุ้มค่ากับเรามาก และหากประสบความสำเร็จ เราจะสามารถนำแนวทางนี้มาทดลองใช้กับลูกค้าของเราในอนาคตที่ประเทศไทยได้ด้วย
ทางด้านนายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ UAC กล่าวว่า
การเริ่มต้นด้วยการรับงานจาก VWM ด้วยรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ eTruck จำนวน 10 คันเพื่อขน RDF จำนวน 4,500 ตันต่อเดือน ถือเป็นการตอบโจทย์ของทุกฝ่ายที่กำลังขับเคลื่อนในเรื่องการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน (Sustainability)
โดย UAC เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานหมุนเวียน ในขณะที่ KIAT เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารกิจการขนส่ง และที่สำคัญบริษัทร่วมทุนนี้มีแผนงานในการขยายธุรกิจใน สปป. ลาว โดยจะขยายเครือข่ายธุรกิจขนส่งให้แก่บริษัทอื่น ๆ ใน สปป. ลาว ด้วย
ที่เราต้องการใช้ eTruck ก็เพราะเราต้องการใช้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานไฟฟ้าใน สปป. ลาวที่มีราคาต่ำกว่าไทย อีกทั้งเราเองรวมถึงลูกค้าของเรา มีเป้าหมายที่จะใช้พลังงานสะอาดเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของโลกธุรกิจยุคใหม่
บริษัทร่วมทุนนี้ ถือเป็นการนำจุดแข็งของทั้ง UAC และ KIAT มาผนึกร่วมกันโดย UAC มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงานหมุนเวียน และมีเครือข่ายลูกค้าที่ สปป. ลาว ในขณะที่ KIAT มีประสบการณ์ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ยาวนานกว่า 30 ปี อีกทั้งโอกาสทางธุรกิจใน สปป. ลาว ยังมีอีกมาก ซึ่งบริษัทร่วมทุนนี้จะสามารถรองรับกับความต้องการด้านโลจิสติกส์ใน สปป. ลาว ในอนาคต
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ