All-New Chevrolet Blazer ใหม่ รวบไว้ซึ่งความเด่นของดีไซน์ และอเนกประสงค์ยุคใหม่เต็มขั้น

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 27 มิ.ย 2561
แชร์ 7

Chevrolet สร้างปรากฎการณ์ยิ่งใหญ่ของรถ SUV อีกครั้งด้วยการเปิดตัว All-New Chevrolet Blazer ซึ่งถือเป็นนำกลับมาทำตลาดอีกครั้ง พร้อมกับชื่อเรียกใหม่ ต่อจาก Chevrolet S-10 Blazer ที่เลิกทำตลาดไปเมื่อปี 2005 และการกลับมาในครั้งนี้ ค่ายโบว์ไทน์ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังกับความงดงาม และความเด่นในเรื่องอารมณ์ของดีไซน์ที่เจนจัดยิ่งขึ้น สปอร์ตแบบสุดขั้ว

All-New Chevrolet Blazer ใหม่ รวบไว้ซึ่งความเด่นของดีไซน์และอเนกประสงค์ยุคใหม่เต็มขั้น

All-New Chevrolet Blazer ใหม่ 

มองผ่านมองเร็ว อย่าคิดว่าคันนี้จะก้าวมาทดแทน Chevrolet Captiva หรือแม้กระทั่ง Trailblazer SUV, PPV เดิมของค่าย แม้หน้าตาจะออกมาคล้ายกับ Toyota Fortuner เล็กๆ ที่ด้านข้าง หรือด้านหน้าจะให้อารมณ์ Dynamic Shield ของ Mitsubishi Pajero Sport แบบบ้านเราก็ตาม แต่ภายใต้การออกแบบที่ดุดัน โฉบเฉี่ยวระดับขั้นสุดนี้ แรงบันดาลใจโดยตรงที่แท้จริงของ All-New Chevrolet Blazer ใหม่นี้คือ Chevrolet Camaro SS สปอร์ตสองประตูประจำค่าย ที่คงไม่ต้องพูดพร่ำอะไรมากถึง Passion ที่รถคันนี้ส่งให้คุณทุกครั้งที่ได้เห็น

ดูเพิ่มเติม
>> 
Mitsubishi Pajero Sport 2018 โฉมดัดแปลงเพื่อการพาณิชย์ที่อังกฤษ
>> มาแล้ว! กับทีเซอร์อย่างเป็นทางการแรกในไทย All New Mitsubishi Xpander 2018

Camaro SS แรงบันดาลใจหลักของ All-New Chevrolet Blazer

Camaro SS แรงบันดาลใจหลักของ All-New Chevrolet Blazer

ตั้งแต่โคมไฟหน้าแบบ HID ที่ถูกออกแบบแถบจะเป็นส่วนเดียวกับกับกระจังหน้า และช่องดักลมขนาดใหญ่ ซึ่งลากยาวลงไปล่างสุด ขนาบข้างด้วยไฟตัดหมอก ที่ดีไซน์ใช้การตัดเส้นแบบหักมุมยิ่งทวีความเกี้ยวกราดให้กับด้านหน้ามากยิ่งข้ึน ผนวกกับการดีไซน์ให้หลังคาลอย หรือ Floating Roof ในช่วงท้ายรถ เข้ากันได้ดีและลงตัวกับเส้นสายที่ใช้ในด้านข้าง เพิ่มมิติของตัวรถให้ดูน่าเกรงขาม และน่าค้นหามากยิ่งขึ้น ที่ด้านท้ายจะเป็นแบบ LED อยู่ในโคมดีไซน์ล้ำที่อาจทำให้คุณนึกถึง Mazda CX-5 โฉมก่อนปัจจุบันได้เล็กๆ แต่ก็ไม่เหมือนกันจนเกินไป ด้วยดีไซน์ต่างของภายในของตัวโคมไฟ ล้อที่ใช้จะเป็นล้ออัลลอยขนาดตั้งแต่ 18-21 แล้วแต่เกรด สรุปรวมที่ภายนอกแล้วมันคือ SUV ตัวจริง (ไม่ใช่โครงสร้างบอดี้ออนเฟรมแบบ Trailblazer) ที่ดูมีเสน่ห์ ทรงดุ แน่นไปด้วยความสปอร์ตในทุกจุด ยากที่จะปฎิเสธไม่ให้มองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม

สวยโดดเด่นกว่าทุกมุมมอง ใหม่ทุกเส้นสายสำหรับ All-New Chevrolet Blazer คันนี้

สวยโดดเด่นกว่าทุกมุมมอง ใหม่ทุกเส้นสายสำหรับ All-New Chevrolet Blazer คันนี้

สวยโดดเด่นกว่าทุกมุมมอง ใหม่ทุกเส้นสายสำหรับ All-New Chevrolet Blazer คันนี้

สวยโดดเด่นกว่าทุกมุมมอง ใหม่ทุกเส้นสายสำหรับ All-New Chevrolet Blazer คันนี้

All-New Chevrolet Blazer แบ่งออกเป็น 3 เกรดดังต่อไปนี้
Base
Premier เน้นการตกแต่งภายนอกไปที่สีโคมเมี่ยม
RS  เน้นไปที่ความดุดันด้วยกระจังหน้าสีดำเงา

ต่อมาที่ส่วนของภายในห้องโดยสาร ก็สวยล้ำไม่แพ้กันกับภายนอก เรียกได้ว่าต่อเนื่องอารมณ์กันได้แบบไม่ขาดตอน เช่นกันที่การดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภายในของ Camaro บวกกับการนำมาใช้ซึ่งวัสดุการตกแต่งคุณภาพสูง ความจุสุทธิของจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 5 คน พร้อมเงื่อนไขการปรับตำแหน่งการนั่งไปที่ด้านหน้า-ด้านหลังได้อีก 5.5 นิ้ว เพื่อเพิ่มพื้นที่ในส่วน Leg Room หรือพื้นที่จุสัมภาระก็ตามแต่เลือกใช้งาน ล้ำกว่ากับช่องเก็บของคอนโซลหน้าเปิด-ปิดแบบไฟฟ้า, กระจกมองหลังแสดงภาพจากกล้องมองหลังได้, ระบบฝาท้ายรถแบบเตะเปิด, ระบบชาร์จไฟไร้สาย รวมไปถึงพอร์ต USB 6 พอร์ต ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะอัดแน่นไว้ครบสำหรับรุ่น Premier และ RS ส่วนในเรื่องของระบบอินโฟเทนเมนต์จะมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และระบบ Chevrolet Infotainment 3 ที่รองรับได้กับทุกการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็น Apple CarPlay, Android Auto และ Wi-Fi 4G LTE

ภายในสวยล้ำพร้อมอรรถประโยชน์การใช้งานที่เลือกปรับได้ตามไลฟ์สไตล์

ภายในสวยล้ำพร้อมอรรถประโยชน์การใช้งานที่เลือกปรับได้ตามไลฟ์สไตล์

ภายในสวยล้ำพร้อมอรรถประโยชน์การใช้งานที่เลือกปรับได้ตามไลฟ์สไตล์

ด้านขุมกำลัง Chevrolet Blazer 2019 มีมาให้เลือก 2 ระดับได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5L 4 สูบเรียง แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 193 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 255 Nm และอีกเกรดที่โหด-มันส์กว่า กับเครื่องยนต์เบนซิน 3.6L แบบ V6 กับฝูงม้ากว่า 305 ตัว และแรงบิดกว่า 365 Nm ผสานการทำงานส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 Speed อีกทั้งทางค่ายยังเคลมว่าในรุ่นตัวแรง V6 นี้ มีพละกำลังลากจูงมากถึง 2,040 กิโลกรัมเลยทีเดียว รวมไปถึงออพชั่นการขับขี่ที่สามารถเลือกใช้ได้ตามสภาพถนนด้วยระบบ Traction Select สำหรับการเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามความต้องการได้แบบเรียลไทม์ ในรุ่นท็อปสุด RS และ Premier ยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Twin-Clutch AWD ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มสมรรถนะของรถได้ แม้สภาพถนนไม่เป็นใจ จะเปียกหรือเป็นหิมะ Chevrolet Blazer ก็พร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน

เกรด Premier เน้นการตกแต่งภายนอกไปที่สีโคมเมี่ยม ก็ให้ความสวยไปอีกแบบ

โดย All-New Chevrolet Blazer จะเริ่มจำหน่ายส่งให้กับดีลเลอร์ของอเมริกาช่วงต้นปี 2019 โดยราคาค่าตัวยังไม่มีการเผยออกมา ส่วนความเป็นไปได้ที่คนไทยจะได้สัมผัสกับรุ่นนี้ ต้องบอกว่าช่างริบหรี่เหลือเกิน Chevrolet ประเทศไทยน่าจะเข็ดแล้วกับการนำโมเดลนิยมจากอเมริกามาจำหน่าย คงไปได้แค่กับรถกระบะหรือกระบะดัดแปลงเป็น PPV เท่านั้นในตอนนี้
แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเอามาแบ่งให้ดูกัน แล้วช่วยบอกกับเรา Chobrod หน่อยว่าอะไรใน All-New Chevrolet Blazer คันนี้ที่คุณอยากให้มีบ้างในรถ PPV หรือ SUV บ้านเรา ที่คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย

ดูเพิ่มเติม
>> 
เล็ง! 5 จุดเด่น Mitsubishi Xpander 2018 ที่หลายคนรอคอย
>> ติเก่ง...! รวม 4 ออพชั่นน่าผิดหวังของ MG3 ไมเนอร์เชนจ์ 2018