Audi A6 รุ่นที่ 8 นำเทคโนโลยีระดับมาตรฐานมาไว้ในรถซีดานขนาดกลางสุดหรู กับราคาเฉียดสองล้านบาท
Digitalization
ภายในรถ ระบบสัมผัส MMI touch response® เข้ามาแทนปุ่มหมุนแบบเดิมในรุ่นที่แล้วด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ ความละเอียดสูงสองจอ จอบนขนาด 10.1 นิ้ว (8.8 นิ้วในรุ่น Premium) ควบคุมระบบ infotainment ให้ผู้ใช้จัดการตำแหน่งของฟังก์ชันส่วนกลางในรถด้วยการใช้เทคนิคลากแล้ววาง ทำให้ระบบดูเป็นธรรมชาติเหมือนสมาร์ทโฟน ทางลัดถูกจัดเก็บได้สูงสุด 32 แบบ, ทำให้คนขับปรับแต่งตามความชอบได้เช่น สถานีวิทยุ, สมุดโทรศัพท์ หรือแอพโปรด (ในอุปกรณ์ที่รองรับ) จอล่าง 8.6 นิ้วใช้สำหรับปรับอากาศ, ความสะดวกสบาย และการสั่งการจากลายมือด้วยการจดจำแบบทั้งคำ ผู้ใช้สำมารถเขียนคำจากซ้ายไปขวา หรือรวดเดียวจบ และระบบ MMI ถูกดีไซน์ให้ระบุทีละตัวอักษร แป้นพิมพ์ QWERTY เหมือนสมาร์ทโฟน สามารถใช้แทนกันได้ อีกคุณลักษณะใหม่ในรุ่นนี้คือระบบค้นหา MMI จากการป้อนข้อความโดยอิสระและการควบคุมด้วยเสียง A6 ประมวลผลคำถามกับคำสั่งต่างๆ ผ่านข้อมูลที่ถูกเก็บไว้บนระบบคลาวด์
จุดเด่นทางเทคโนโลยีเพิ่มเติมประกอบด้วย:
A6 มีระบบเสียงสองชุด รุ่น Premium Plus กับ Prestige ใช้ระบบเสียงพรีเมียม 3 มิติจาก Bang & Olufsen ส่วนรุ่น Prestige เป็นระบบเสียงขั้นสูง ซึ่งให้เสียงรอบทิศทางแทบเหมือนจริงผ่านลำโพง 19 ตัว ใช้กำลังจาก BeoCore amplifier 19 ช่อง และ ICE power amplifiers ด้วยกำลัง 1,820 วัตต์
การเชื่อมต่อ
ระบบนำทาง MMI เป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้วในรุ่น Premium ขณะที่รุ่น plus พร้อมข้อมูลการจราจรออนไลน์เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Premium Plus กับ Prestige ทั้งสองตัวเลือกระบบ infotainment ให้นวัตกรรมต่างๆ ประกอบด้วยระบบนำทางอัจฉริยะซึ่งให้เส้นทางแนะนำแก่คนขับจากเส้นทางที่เดินทางบ่อยๆ พิจารณาจากเวลาเดินทางและความหนาแน่นของจราจรด้วยข้อมูลที่เก็บได้ในเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์โดย HERE
บริการออนไลน์ Audi Connect PRIME และ PLUS ซึ่งรวมแอพพลิเคชันที่ช่วยเชื่อมต่อหารถด้วยอินเทอร์เน็ต, ผู้ใช้ และสาธารณูปโภครอบๆ มีให้บริการด้วยบัญชีการใช้งาน (ทดลองใช้ 6 เดือน) ฟังก์ชันต่างๆ เช่นการจอดรถ, รายงานสภาพอากาศ ถูกผสานเข้าไปในระบบ MMI แล้วและสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านไอคอนของมันเอง จุดเด่นในระบบ Infotainment เช่น สตรีมมิ่งวิทยุออนไลน์ และ Amazon Music สามารถเข้าใช้งานได้ผ่านระบบ MMI ผ่านแอพ Audi Connect ในมือถือ ส่วนแอพ myAudi ใหม่ที่จะเริ่มใช้งานภายในปีนี้ จะให้ผู้ใช้ A6 เข้าถึงบริการดิจิตอลมากขึ้นผ่านสมาร์ทโฟนที่รองรับ รวมทั้ง myAudi Navigation ฟังก์ชันประหยัดเวลานี้กลายเป็นผู้จัดการเคลื่อนที่ส่วนตัว ซึ่งเส้นทางสามารถเริ่มต้นได้บนสมาร์ทโฟน ใช้งานต่อในรถ แล้วกลับไปที่สมาร์ทโฟนเพื่อนำทางผู้ใช้ไปยังจุดหมายต่อไป ด้วยการเดินเท้าหรือขนส่งมวลชน
ดูเพิ่มเติม
>> Audi A8 L รถหรูกลุ่มพรีเมียม เปิดตัวในปักกิ่งแล้ว
>> บิล เกตส์ รวยสุดในโลกหลงใหลรถยนต์รุ่นไหน
Audi A6 2019
ดีไซน์
กระจังหน้า Singleframe ใน Audi A6 กว้างขึ้นและลดระดับลงจากรุ่นที่แล้ว ท่อรับอากาศด้านข้างขนาดใหญ่ตอกย้ำภาพลักษณ์สปอร์ตของรถ ซุ้มล้อเน้นความเป็น quattro DNA เส้นหลังคาซึ่งเรียวเข้าหาเสา C-pillars ที่เรียบสร้างลักษณะของโครงร่าง และฝากระโปรงสั้นบรรจบที่ขอบโค้งมนเพื่ออากาศพลศาสตร์ที่เหมาะสม
ไฮไลท์ดีไซน์ภายนอกเพิ่มเติมประกอบด้วย:
ระบบไฟหน้ามีให้เลือกสามแบบประกอบด้วย
ห้องโดยสารของ A6 ใหญ่ขึ้นด้วยพื้นที่ศีรษะกับบ่าที่กว้างขึ้นทั้งหน้าและท้ายรถ ระบบสัมผัส MMI แผงสีดำผสมผสานกับสถาปัตยกรรมภายในรถและหน้าจอสั่งการของผู้ใช้ในรูปแบบที่ทันสมัยกับช่ำชอง ห้องโดยสารถูกออกแบบในองศาสำหรับคนขับอย่างมาก ทำให้เกิดห้องคนขับที่เน้นคนขับจริงๆ
ไฮไลท์ดีไซน์ภายในเพิ่มเติมประกอบด้วย:
ระบบส่งกำลังและสมรรถนะ
A6 ใช้เครื่องยนต์ใหม่ 3.0 TFSI® V6 น้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นเดิม 30 ปอนด์ เครื่อง 3.0 ให้กำลัง 335 แรงม้ากับแรงบิด 369 ปอนด์-ฟุต มากขึ้น 44 ปอนด์-ฟุต รอบไมล์มีขอบเขตที่ 1,370-4,500 รอบ/นาที A6 จึงเหยียบจาก 0-60 ไมล์/ชม. ได้ที่ 5.1 วินาที เครื่องยนต์ V6 ใช้เทอร์โบชาร์จตัวเลื่อนคู่ฝังภายในตัว “V” แทนตัวซูเพอร์ชาร์จ ส่วนท่อดูดอากาศ ระบบแปรผัน Audi valvelift system (AVS) เปลี่ยนระยะเวลาการเปิดวาล์วที่ขึ้นอยู่กับคันเร่งกับความเร็วเครื่องยนต์
เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ S tronic® เจ็ดสปีดส่งกำลังไปที่ระบบ quattro® ด้วยเทคโนโลยี ultra® ทำให้เกิดการควบคุมแบบอัจฉริยะ, ที่คุมสถานการณ์ได้ของระบบขับเคลื่อน AWD เพื่อช่วยปรับการใช้แรงบิดตามที่คนขับต้องการหรือตามสภาพถนน
A6 2019 จะมีเทคโนโลยีพลังไฟฟ้าไฮบริดอ่อน (MHEV) ระบบความจุ 48V มีขนาดกะทัดรัดมาก เพียงพอที่จัดเก็บใต้ห้องสัมภาระได้ กำลังถูกส่งจากแบตเตอรี 10Ah ไปที่สตาร์เทอร์ปั่นไฟสลับแบบสายพาน (BAS) เพื่อเสริมความสบายของระบบหยุด/เดินรถ
แชสซีส์และช่วงล่าง
ตัวถังของ A6 ซีดานใช้การผสมผสานของอลูมิเนียมน้ำหนักเบากับเหล็กทนทานสูงเพื่อสร้างความทนต่อการบิดงอสูงกว่ารุ่นก่อน วัสดุที่หนักขึ้นที่สำคัญต่อความแข็งแกร่งในรถถูกขยับไปอยู่ใกล้ศูนย์กลางมากขึ้นเพื่อการควบคุมรถและการตอบสนองของแชสซีส์ที่ดีกว่า
ช่วงล่างห้าส่วนด้านหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมวัสดุน้ำหนักเบาให้ความพอดีในการเลี้ยวรถกว่าเดิมกับการควบคุมที่ยอดเยี่ยมผ่านการวางแท่งบังคับเลี้ยวไว้กลางล้ออย่างเหมาะสม ชุดช่วงล่างสปอร์ตลดความสูงรถลง 20 มม. ในอุปกรณ์มาตรฐานติดตั้งพวงมาลัย progressive steering อัตราเลี้ยวแบบสปอร์ตให้การตอบสนองโดยตรงมากขึ้นเมื่อมุมเลี้ยวเพิ่มขึ้น
ห้องโดยสารพร้อมระบบ Infotainment และเกียร์ S tronic® DCT 7AT
ระบบช่วยเหลือคนขับขั้นสูง
A6 ใหม่ให้ชุดระบบช่วยเหลือคนขับที่ครอบคลุม ทั้งหมดได้ประโยชน์จากตัวควบคุมระบบส่วนกลาง zFAS ซึ่งรับข้อมูลจากเซนเซอร์มากถึง 24 ตัวแล้วสร้างภาพดิจิตอลของสภาพแวดล้อมของ A6 เพื่อช่วยเปรียบเทียบ, ประเมิน และปรับปรุงกลยุทธ์สำหรับระบบช่วยคนขับ
ระบบช่วยเหลือคนขับประกอบด้วย:
ราคา Audi A6 2019 USA
รุ่น | ราคา | ราคาประมาณ |
---|---|---|
Audi A6 Premium | $58,900 | 1,930,000 บาท |
Audi A6 Premium Plus | $62,700 | 2,055,000 บาท |
Audi A6 Prestige | $67,100 | 2,199,000 บาท |
Source: AUDI AMERICA
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย
ดูเพิ่มเติม
>> เปิดประวัติ Audi ตำนานรถเยอรมัน
>> Hyundai ร่วมมือ Audi สร้างรถยนต์พลังไฮโดรเจน
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี