รีวิว ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024 รุ่นจำหน่ายไทย เตรียมขายเดือนสิงหาคมนี้ 

21 พ.ย 2567
แชร์ 0

17 กรกฎาคม 2567 เอ็มจี ประเทศไทย เตรียมเผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ของ MG3 ที่มาพร้อมขุมพลังไฮบริด อยู่ในกลุ่ม B-Segment กับ ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024 รุ่นจำหน่ายไทย ประกาศราคาอย่างเป็นทางการพร้อมจำหน่ายในเดือนสิงหาคมนี้

ปี 2024 เอ็มจีเปิดตัว MG3 HYBRID+ โกลบอลโมเดลรุ่นที่ 2 ที่มาพร้อมระบบไฮบริด HYBRID+ อันล้ำหน้า ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะวิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตรต่อถังน้ำมัน พร้อมอัตราเร่งที่แรงจัด 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 8 วินาที

ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024
ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024

สเปกเบื้องต้นก่อนเปิดตัวรถยนต์ MG3 HYBRID+ รุ่นปี 2024 ในประเทศไทย

  • เป็นรถยนต์แฮทช์แบ็คแบบไฮบริด มี 5 ประตู
  • ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ซึ่งให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร สามารถใช้ได้กับน้ำมัน E20
  • สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 8 วินาที
  • ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 1.83 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
  • สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Standard และโหมด Sport
  • นอกจากนี้ ยังมีระบบ KERS เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสามารถปรับการใช้งานได้ 3 ระดับ
  • มีระบบความปลอดภัย ADAS ที่เกี่ยวข้อง 8 ระบบ
  • มีระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System)
  • มีกล้องรอบคันแบบ 360 องศา ความละเอียดสูง (High Definition)

การออกแบบและอุปกรณ์ของ ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024 รุ่นที่จะจำหน่ายในประเทศไทย

  • ALL NEW MG3 HYBRID+ มีขนาดกว้างที่สุดในรถประเภท B-Segment ด้วยความกว้าง 1,797 มิลลิเมตร
  • ดีไซน์ไฟหน้า LED แบบใหม่ Hunter Eye Headlamp
  • ดีไซน์ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ
  • ตัวถังมีเส้นสายโค้งมนเป็นหลัก
  • ห้องโดยสารใช้แนวคิด Modular Concept โดยแผงคอนโซลออกแบบให้มีมิติที่เล่นระดับ
  • ห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับดำ
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว
  • สามารถเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
  • กุญแจรีโมทอัจฉริยะแบบ Smart Key
  • มีแอร์สำหรับที่นั่งแถวหลัง
  • ห้องสัมภาระท้ายสามารถจุสัมภาระได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะลงสามารถจุได้สูงสุดถึง 1,037 ลิตร

MG3 HYBRID+ โฉมใหม่ปี 2024 ทดสอบรวมระยะทางกว่า 14,000 กิโลเมตร ทดสอบบนถนนในยุโรปจริงนานกว่า 2 เดือนในช่วงฤดูร้อน และอีกกว่า 10,000 กิโลเมตรในช่วงฤดูหนาวอีก 2 เดือน ระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร

วิ่งทดสอบและปรับจูนในหลากหลายสถานการณ์ (การทดสอบและปรับจูนแบบหลายสถานการณ์บนถนน) โดยมีสภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ และพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน เช่น สนามทดสอบ Guangde (SAIC - GM Guangde Proving Ground) ในมณฑล Anhui สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสนามทดสอบรถยนต์ทุกรุ่นของ SAIC MOTOR CORPORATION ก่อนจำหน่าย

ตลอดจนทดสอบบนถนนหลวง (ถนนสาธารณะ) รวมถนนหลวงและถนนไฮเวย์ รวมถึงการทดสอบบนสนามที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นอย่าง Hailar Ultra-cold Proving Ground ในเมือง Hailar ประเทศมองโกเลีย ด้วยการทดสอบ Extreme Cold Test ที่อุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียส ทั้งยังผ่านการทดสอบใช้งานบนพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงจัด หรือ Extreme Hot Test ที่อุณหภูมิพื้นผิวสูงกว่า 70 องศา

MG3 HYBRID+ โฉมใหม่ปี 2024
MG3 HYBRID+ โฉมใหม่ปี 2024

สำหรับในประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทีมวิศวกรได้นำ MG3 HYBRID+ โฉมใหม่วิ่งทดสอบ รวมระยะทางกว่า 10,000 กิโลเมตร ทั่วทุกภาค

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“ALL NEW MG3 HYBRID+ เป็นรถยนต์ไฮบริดที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการเป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมในประเทศต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค และถือเป็นโกลบอลโมเดลรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี ที่ได้นำเทคโนโลยีอย่าง ระบบ HYBRID+ สู่การรังสรรค์รถยนต์พลังงานทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานรถของลูกค้า ทั้งยังเป็นยนตรกรรมที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ในการเดินหน้าสู่เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สีเขียว (Green Mobility) ให้กับตลาดยานยนต์โลก โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถูกวางให้เป็นหนึ่งในโมเดลยุทธศาสตร์ (Strategic Model) ประจำปีนี้ของ เอ็มจี ในการบุกและปลุกตลาด B-Segment ในเมืองไทยกับการเป็นยนตรกรรมที่จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาความสมดุลระหว่างความประหยัดและสมรรถนะที่ทรงประสิทธิภาพ ด้วยราคาที่เข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่าย ซึ่ง เอ็มจี มีแผนเปิดราคาจัดจำหน่ายของ ALL NEW MG3 HYBRID+ อย่างเป็นทางการภายในเดือนสิงหาคมนี้”

อ่านเพิ่มเติม