โตโยต้าแถลงยอดขายรถยนต์ครึ่งแรกปี 2021 โดยรวมดีขึ้น

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 5 ส.ค 2564
แชร์ 0

ยอดขายรถครึ่งปี 2021 เป็นบวก 13.6 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โตโยต้าเองก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 24.4% แต่จากผลกระทบทุกอย่างที่เกิดขึ้น คาดการณ์ ทั้งปีปรับเพิ่ม 1% จากปีที่แล้ว ยอดขายรวมทั้งตลาดที่ 800,000 คัน

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2564 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2564 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564

มร.ยามาชิตะ กล่าวว่า "จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพร่ระบาดในระลอกล่าสุดที่มีความรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม และส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุ่งหวังว่าสถานการณ์ต่างๆจะฟื้นตัวดีขึ้น จากความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา ควบคู่ไปกับแผนการฉีดวัคซีนสำหรับคนไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม"

มร.ยามาชิตะ กล่าวต่อไปว่า “แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะยังคงได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 แต่บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย ก็ได้มีความพยายามในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆในเชิงรุก เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ที่ผ่านมา ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้มีส่วนช่วยคลายความวิตกกังวลของผู้บริโภคและกระตุ้นให้เกิดใช้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายตลาดรวมในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 373,191 คัน เพิ่มขึ้น 13.6% จากยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว"

สถิติการขายรถยนต์ในประเทศ .. - มิ.. 2564

ยอดขายปี 2564

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563

ปริมาณการขายรวม

373,191 คัน

+13.6 %

รถยนต์นั่ง

120,351 คัน

+ 0.5 %

รถเพื่อการพาณิชย์

252,840 คัน

+ 21.0 %

รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)

196,934 คัน

+ 18.3 %

รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)

168,993 คัน

+ 13.1%

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 2021
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 2021

“สำหรับผลการดำเนินงานของโตโยต้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 24.4% หรือ คิดเป็นจำนวน 117,185 คัน ซึ่งถือได้ว่าดีกว่าอัตราการฟื้นตัวของตลาด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะเผชิญกับความยากลำบากมากมายในปีที่ผ่านมา แต่ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 31.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลข 28.7% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สืบเนื่องจากกลยุทธ์การขายแบบใหม่ของเรา ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการเสริมความเข้มแข็งในส่วนกลยุทธ์การขายบนช่องทางออนไลน์และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความพยายามในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆของเราในช่วงแรกของปีนี้

อ่านเพิ่มเติม
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เลิกรถยนต์สันดาป ผลิตรถ EV 100%
ฟอร์ดเคลม เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร อึดถึกทน ผ่านทดสอบกว่า 5.5 ล้านกิโลเมตร

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า .. - มิ.. 2564

ยอดขายปี 2564

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563

ส่วนแบ่งตลาด

ปริมาณการขายรวม

117,185 คัน

+ 24.4 %

31.4 %

รถยนต์นั่ง

29,703 คัน

- 0.7 %

24.7 %

รถเพื่อการพาณิชย์

87,482 คัน

+ 36.1 %

34.6 %

รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)

74,141 คัน

+ 31.8 %

37.6 %

รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)

61,833 คัน

+ 24.6 %

36.6 %

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2564 มร.ยามาชิตะคาดการณ์ว่า “มีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อทิศทางของตลาดรถยนต์ในปีนี้ อาทิ สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุด การเข้าถึงวัคซีนของประชาชน รวมถึงแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ตลอดจนการสนับสนุน จากองค์กรเอกชนทุกภาคส่วนที่ผนึกกำลังในการร่วมคลี่คลายสถานการณ์ เรามีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะสามารถฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2564 จะอยู่ที่ 800,000 คัน เพิ่มขึ้น  1 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา"

ฮอนด้า ซิตี้ 5 ประตู

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564

ยอดขายประมาณการปี 2564

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563

ปริมาณการขายรวม

800,000 คัน

+  1 %

รถยนต์นั่ง

271,000 คัน

- 1.4 %

รถเพื่อการพาณิชย์

529,000 คัน

+ 2.3 %

มร.ยามาชิตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับโตโยต้า เรามีเป้าหมายการขายในปี 2564 อยู่ที่ 260,000 คัน หรือคิดเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น 6.4 % จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 32.5% แม้ว่าเราจะเผชิญปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19  แต่เรายังคงเชื่อมั่นว่า จากความพยายามของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขายบนช่องทางออนไลน์ แพ็คเกจการให้บริการที่ทำให้ลูกค้าสามารถ “เป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น”   และมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าในเรื่องการดูแลสุขอนามัย ทั้งในโชว์รูมและศูนย์บริการ รวมทั้งการให้บริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถยนต์ ตลอดจนความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จะมีส่วนช่วยให้เราได้รับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากลูกค้าเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายของเราได้เป็นผลสำเร็จ"

ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2564

ยอดขายประมาณการปี 2564

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563

ส่วนแบ่งตลาด

ปริมาณการขายรวม

260,000 คัน

+ 6.4 %

32.5 %

รถยนต์นั่ง

67,000 คัน

-1.7% %

24.7 %

รถเพื่อการพาณิชย์

193,000 คัน

+ 9.6 %

36.5 %

รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)

166,800 คัน

+ 11.5 %

40.2 %

รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)

142,000 คัน

+ 9.3 %

39.6 %

สำหรับปริมาณการส่งออกของโตโยต้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทฯได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 141,909 คัน เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา  โดยมียอดการผลิตสำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 258,365 คัน เพิ่มขึ้น 50% จากปีที่แล้ว

ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้า .. - มิ.ปี 2564

ปริมาณปี 2564

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563

ปริมาณการส่งออก

141,909 คัน

+ 46%

ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ

258,365 คัน

+ 50%

ทั้งนี้สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ คาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 322,000 คัน เพิ่มขึ้น 50 % จากปีที่แล้ว จากสัญญาณการฟื้นตัวในตลาดต่างประเทศ ด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ เช่น อัตราการลดลงของผู้ป่วยโควิด-19 ความคืบหน้าของแผนการฉีดวัคซีน และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในประเทศต่างๆ

ส่วนในด้านการผลิตนั้น มองว่ามีแนวโน้มดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จากความต้องการของลูกค้าในตลาดต่างประเทศซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น ดังนั้นปริมาณการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 580,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 31 % จากปีที่แล้ว ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายการขายของทั้งในประเทศและส่งออก

เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าปี 2564

ปริมาณปี 2564

เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2563

ปริมาณการส่งออก

322,000 คัน

+ 50 %

ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ

580,000 คัน

+ 31 %

มร.ยามาชิตะ ยังได้กล่าวอีกด้วยว่า " ภายใต้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย  โตโยต้ายังคงเดินหน้าสนับสนุนและเคียงข้างสังคมไทยให้ก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ผ่านโครงการ 'Toyota Stay with You' ซึ่งเราได้ส่งมอบรถยนต์โตโยต้าให้กับกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้ในการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ระหว่างการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  นอกจากนี้ จากการที่บริษัทฯได้ร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ เราได้ให้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในรถยนต์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ให้แก่ลูกค้ารถยนต์ทุกยี่ห้อไปแล้วกว่า1,300,000 คัน จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ เรายังมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการ และกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความใส่ใจสูงสุดในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของพนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด อีกทั้งเราได้มีการว่าจ้างพนักงานในส่วนของสายงานการผลิตเพิ่มมากกว่า 400 อัตรา เพื่อกระตุ้นการจ้างงานในตลาดแรงงานไทยในปัจจุบัน รวมทั้งยังมีแผนที่จะจ้างงานเพิ่มในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราที่จะมีส่วนช่วยบรรเทาสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และเรายังคาดหวังว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคต”

มร.ยามาชิตะ กล่าวปิดท้ายว่า “เราขอแสดงความขอบคุณต่อภาครัฐ และลูกค้าทุกท่านตลอดจนผู้มีส่วนร่วมทุกท่าน สำหรับการสนับสนุนที่ท่านได้กรุณามอบให้กับพวกเรามาโดยตลอด แม้ในช่วงเวลาอันยากลำบากเช่นนี้ก็ตาม เรายังคงยืนหยัดเดินหน้าตามแนวทางสากลของโตโยต้าในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของการผลิตและส่งออกรถยนต์ในระดับภูมิภาค ตลอดจนเดินหน้าสร้างความเจริญเติบโตให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อคนไทย"

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2564

ยาริส เอทีฟ

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,974 คัน เพิ่มขึ้น 11.9%

อันดับที่โตโยต้า

22,337 คัน

เพิ่มขึ้น 67.1%

ส่วนแบ่งตลาด 34.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ

14,098 คัน

ลดลง 15.4%

ส่วนแบ่งตลาด 21.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า

7,339 คัน

เพิ่มขึ้น 26.1%

ส่วนแบ่งตลาด 11.3%

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,538 คัน เพิ่มขึ้น 8.3% 

อันดับที่ 1 ฮอนด้า

6,422 คัน

เพิ่มขึ้น 33.3%

ส่วนแบ่งตลาด 28.5%

อันดับที่โตโยต้า

5,414 คัน

ลดลง 12.7%

ส่วนแบ่งตลาด 24.0%

อันดับที่มาสด้า

1,821 คัน

เพิ่มขึ้น 30.1%

ส่วนแบ่งตลาด 8.1%

กระบะ

3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 42,436 คัน เพิ่มขึ้น 13.8%

อันดับที่โตโยต้า

16,923 คัน

เพิ่มขึ้น 97.6%

ส่วนแบ่งตลาด 39.9%

อันดับที่อีซูซุ

14,098 คัน

ลดลง 15.4%

ส่วนแบ่งตลาด 33.2%

อันดับที่ฟอร์ด

2,721 คัน

เพิ่มขึ้น 57.6%

ส่วนแบ่งตลาด 6.4%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 33,169 คัน เพิ่มขึ้น 12.1% 

อันดับที่โตโยต้า

14,472 คัน

เพิ่มขึ้น 96.2%

ส่วนแบ่งตลาด 43.6%

อันดับที่อีซูซุ

12,564 คัน

ลดลง 18.2%

ส่วนแบ่งตลาด 37.9%

อันดับที่ฟอร์ด

2,721 คัน

เพิ่มขึ้น 57.6%

ส่วนแบ่งตลาด 8.2%

ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 3,811 คัน

  • โตโยต้า 1,768 คัน
  • อีซูซุ 1,142 คัน
  • มิตซูบิชิ 453 คัน
  • ฟอร์ด 391 คัน
  • นิสสัน 57 คัน

5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,358 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%

อันดับที่โตโยต้า

12,704 คัน

เพิ่มขึ้น 107.8%

ส่วนแบ่งตลาด 43.3%

อันดับที่อีซูซุ

11,422 คัน

ลดลง 23.2%

ส่วนแบ่งตลาด 38.9%

อันดับที่ฟอร์ด

2,330 คัน

เพิ่มขึ้น 64.8%

ส่วนแบ่งตลาด 7.9%

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ

ningkung