เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 13 พ.ค 2567
แชร์ 3

13 พฤษภาคม 2024 เอสเอไอซี มอเตอร์ - ซีพี หรือ MG เผยความพร้อมด้านการผลิต มีพื้นที่โรงงานกว่า 437.5 ไร่ มีกำลังผลิตสูง 100,000 คันต่อปี ลงทุนไปแล้ว 30,000 ล้านบาท บุคลากรในการทำงานมากกว่า 1,000 คน โดยเป็นบุคลากรคนไทยกว่า 98%

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) เผยความพร้อมในทศวรรษที่สอง การเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปในภูมิภาคอาเซียน

ไลน์การผลิตที่ครบทุกรูปแบบการขับเคลื่อน กำลังการผลิตสูงสุด 100,000 คันต่อปี ด้วยงบลงทุนแล้วกว่า 30,000 ล้านบาท โดยสามารถผลิตได้ทั้งรถยนต์สันดาปภายใน รถยนต์พลังงานทางเลือก และล่าสุดด้วยการเพิ่มไลน์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV นำร่องด้วย MG4 ELECTRIC รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมโรงงานแบตเตอรี่อีวี รองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้รถอีวีในประเทศและแถบภูมิภาคอาเซียน

อ่านเพิ่มเติม - MG ZS 2024 และ MG VS HEV 2024 หั่นราคาลงแบบจุก ๆ 160,000 บาท

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

ความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK โดยพื้นที่ทั้งหมดได้เปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบแล้ว และมีพาร์ตเนอร์บริษัทชั้นนำร่วมเข้ามาอยู่ในพื้นที่สำหรับพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ เอ็มจี สามารถกระจายรายได้สู่ภาคประชาชนด้วยการจ้างงานคนไทยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 98%

ประเทศไทย ถือเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่ เอ็มจี มุ่งมั่นเข้ามาดำเนินธุรกิจและทำการตลาดในระยะยาวด้วยความมั่นใจในศักยภาพของประเทศไทย ทั้งในแง่ของอัตราการเติบโตและการใช้งานรถภายในประเทศ ผนวกกับทำเลที่ตั้งที่มีโอกาสและความเป็นไปได้ในการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน เอ็มจี จึงได้สร้างโรงงานผลิตรถยนต์แบบครบวงจร ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 437.5 ไร่

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

โดยพื้นที่กว่า 300 ไร่ ใช้เป็นส่วนของโรงประกอบตัวถัง (Body Shop) โรงพ่นสีรถยนต์ (Paint Shop) โรงประกอบรถ (General Assembly Shop) อีกทั้งยังครอบคลุมในส่วนของคลังจัดเก็บอะไหล่เพื่อรองรับรถยนต์ของเอ็มจีทุกรุ่น

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เอ็มจีเผย โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย กำลังผลิต 100,000 คันต่อปี

เมื่อปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา เอ็มจี ได้ลงทุนครั้งใหญ่ในการพัฒนาพื้นที่ในส่วนที่เหลืออีกกว่า 137.5 ไร่ ให้เป็นส่วนของ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK เพื่อรองรับการเติบโตของรถอีวี และเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ซึ่งในส่วนที่พัฒนาใหม่นี้ ประกอบด้วย โรงประกอบแบตเตอรี่อีวี และส่วนของพื้นที่สำหรับพัฒนาชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์เอ็มจีร่วมกับพาร์ตเนอร์บริษัทชั้นนำ จึงทำให้แบรนด์ เอ็มจี เป็นแบรนด์ที่สามารถผลิตและประกอบรถยนต์ได้ครบทุกรูปแบบการขับเคลื่อนจากฐานการผลิตภายในประเทศ กับกำลังการผลิตสูงสุด 100,000 คันต่อปี

นายสุโรจน์ แสงสนิท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด กล่าวว่า

“โรงงานการผลิตและประกอบรถยนต์ เอ็มจี เป็นโรงงานที่มีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี อาทิ นวัตกรรมระบบอัตโนมัติ (Automations) หุ่นยนต์อัจฉริยะ (Intelligent Robotics) เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มประสิทธิภาพ และความแม่นยำในไลน์การผลิต ผนวกกับทักษะความเชี่ยวชาญและความชำนาญของบุคลากรในกระบวนการผลิต ซึ่งทำให้มีข้อได้เปรียบในกระบวนการการผลิตที่สามารถรองรับการผลิตรถยนต์ ทุกรูปแบบการขับเคลื่อน

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาเอ็มจี ได้ลงทุนเพิ่มและเริ่มเดินสายการผลิตรถอีวีภายในประเทศ โดยเป็นไปตามแผนงานการลงทุนของบริษัทแม่อย่าง SAIC Motor Corporation และสอดรับกับนโยบายอีวีของภาครัฐ ประเดิมการผลิตรถอีวีรุ่นแรกด้วย NEW MG4 ELECTRIC ซึ่งเป็นโกลบอลอีวีรุ่นยอดนิยมที่มียอดขายสะสมทั่วโลก ณ ปัจจุบัน มากกว่า 180,000 คัน โดยในสายการผลิตที่ประเทศไทยจะประกอบด้วย NEW MG4 ELECTRIC รุ่น STANDARD RANGE และ รุ่น LONG RANGE ซึ่งได้เริ่มเดินสายการผลิตตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้ส่งมอบสู่ลูกค้าในช่วงเมษายนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในฐานะแบรนด์ ผู้บุกเบิกตลาดอีวี เอ็มจี ไม่ได้ให้ความสำคัญแต่เพียงตัวรถอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่เรายังขยายความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับการใช้งานรถอีวีในทุกมิติ เราจึงได้ลงทุนในส่วนของโรงงานแบตเตอรี่อีวี ภายใต้ชื่อ HASCO-CP BATTERY SHOP ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่

ส่วนการประกอบแบตเตอรี่ ประกอบด้วยสายการผลิตอัตโนมัติที่ทันสมัยอย่างการนำหุ่นยนต์ (Robotic) เข้ามาช่วยในการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานที่แม่นยำ เทคโนโลยี AGV (Automated Guided Vehicle) ที่ใช้ในการกำหนดการเคลื่อนที่ของชิ้นงานตามเส้นทางรวมถึงระยะเวลาการทำงานและคุณภาพการผลิตที่แม่นยำ การเชื่อมโดยเลเซอร์ (Laser Welding) เพื่อให้ได้คุณภาพของการเชื่อมที่ดี การตรวจสอบด้วย CCD (Charge Coupled Device) เพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบเทียบกับต้นแบบในทุกขั้นตอนก่อนนำไปประกอบใส่ในตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%

ส่วนที่สองคือ ส่วนการทดสอบมาตรฐานของแบตเตอรี่กว่า 60 ขั้นตอน ซึ่งได้รับรองคุณภาพและการตรวจสอบภายใต้มาตรฐานยุโรป และเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับสายการผลิตระดับโลก โดยโรงงานแห่งนี้ สามารถประกอบแบตเตอรี่ Cell-To-Pack ได้สูงสุดมากกว่า 50,000 แพ็คต่อปี และนำแบตเตอรี่มาใช้ในการประกอบรถ NEW MG4 ELECTRIC เป็นที่เรียบร้อย

เอ็มจี มีส่วนสำคัญในการพัฒนาบุคลากรเชิงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการจ้างงานภายในประเทศ มีอัตราการจ้างงานบุคลากรในหลายๆ ส่วน คิดเป็นสัดส่วนบุคลากรคนไทยในบริษัทฯ มากกว่า 98% โดยมีบุคลากรทั้งสิ้นมากกว่า 1,000 คน ทั้งนี้

การพัฒนาพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ซึ่ง เอ็มจี ได้พัฒนาโครงการดังกล่าวขึ้นมาเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย โดยเฉพาะการเติบโตของรถอีวีในอนาคต ภายในพื้นที่แห่งนี้ ยังมีส่วนของพื้นที่สำหรับพัฒนาชิ้นส่วนในการประกอบรถยนต์เอ็มจีร่วมกับพาร์ตเนอร์บริษัทชั้นนำ เพื่อจะเติมเต็มความครบวงจรและความสมบูรณ์แบบของกระบวนการผลิต ซึ่งล่าสุดได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดใช้พื้นที่ทั้งหมดอย่างเต็มรูปแบบแล้ว

ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และความตั้งใจอย่างแท้จริงของ เอ็มจี ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยด้วยเป้าหมายใหญ่เชิงมหภาคในการลงทุนระยะยาว เพื่อร่วมเดินหน้าผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และบรรลุเป้าหมายของการเป็น “ศูนย์กลาง” การผลิตรถยนต์และรถอีวีพวงมาลัยขวา เพื่อจัดจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียนและประเทศชั้นนำทั่วโลก

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ