เคาะแล้ว.. ลดราคารถยนต์ไฟฟ้า BEV ราคาถูกลง 70,000-150,000 บาทต่อคัน

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 17 ก.พ 2565
แชร์ 0

ผ่าน ครม. เรียบร้อยกับมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เริ่มเลยในปี 2565 ให้งบ 3,000 ล้านบาท ให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ดำเนินการ และเตรียมงบ 40,000 ล้านบาทสำหรับ 3 ปีข้างหน้า อุดหนุนรถยนต์ BEV

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 คณะรัฐมนตรีได้ประชุมเรื่อง "มติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 และครั้งที่ 1/2565" ได้ผ่านวาระเป็นที่เรียบร้อยพร้อม อนุมัติงบ 3,000 ล้านบาท ให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังในงบปี 2565 พร้อมวงเงิน 40,000 ล้านบาทสำหรับเรื่องนี้ในช่วงงบปี 2566 - 2568

อ่านเพิ่ม - ประเทศไทยเอาด้วย ? เตรียมจะเลิกรถที่ใช้เครื่องยนต์ในปี 2035

ลดราคารถยนต์ไฟฟ้า BEV ราคาถูกลง 70,000-150,000 บาทต่อคัน

เป้าหมายคือผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า BEV ให้เกิดขึ้น ภายในปี ค.ศ. 2030

เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030 หรือ พ.ศ. 2573 โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า EV ประเภทรถยนต์นั่งและรถกระบะ 725,000 คัน
  • รถจักรยานยนต์ 675,000 คัน
  • รถบัสและรถบรรทุก 34,000 คัน

นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมการผลิตรถสามล้อ เรือโดยสาร และรถไฟระบบรางอีกด้วย

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต แถลงข่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าปีแรก จะมีผู้มาใช้สิทธิรวมกันเป็นวงเงิน 3,000 ล้านบาท แต่หากมีการขอมาเกินวงเงินดังกล่าว ก็พร้อมขยายวงเงินให้ เพราะไม่ได้มีการจำกัดวงเงินไว้

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต

เริ่มมีนาคม ราคารถยนต์ไฟฟ้า BEV ถูกลง 70,000-150,000 บาทต่อคัน 

นายลวรณ แสงสนิท ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า การอุดหนุนครั้งนี้ไม่เหมือนกับโครงการรถคันแรกที่ให้เงินส่วนลดโดยตรงกับผู้ซื้อรถยนต์ แต่การลดราคารถยนต์ EV ตามนโยบายรัฐบาลครั้งนี้จะให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งต้องมาทำสัญญากับกรมสรรพสามิต โดยต้องมีการสำแดงราคาต้นทุนที่แท้จริง ว่ารถยนต์ที่ขายในกรณีที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนอยู่ที่ราคาเท่าไร เพื่อที่กรมสรรพสามิตจะได้ตรวจสอบได้ว่าส่วนลดที่ให้ไปผู้ประกอบการมีการนำไปลดราคาขายปลีกให้กับผู้ซื้อรถยนต์อย่างแท้จริง

"การจ่ายเงินส่วนลดให้ผู้ประกอบการนั้น ผู้ประกอบการจะต้องขายรถยนต์ EV ออกไปก่อน หลังจากนั้นผู้ประกอบการจะต้องรายงานมายังกรมสรรพสามิตทุกไตรมาส ว่าได้ทำการขายรถยนต์ EV ไปจำนวนเท่าไร เพื่อที่กรมฯ จะได้จ่ายเงินอุดหนุนให้ผู้ประกอบการเป็นรายไตรมาส โดยเบื้องต้นคาดว่ากรมฯ น่าจะเริ่มทำสัญญากับผู้ประกอบการได้ในเดือน มี.ค.65” นายลวรณ กล่าว

ดราคารถยนต์ไฟฟ้า

แพคเกจลดราคารถยนต์ไฟฟ้า BEV ใน 2 ปีแรก 2565-2566

เป็นช่วงกระตุ้นให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นเลยทันที สามารถนำเข้าได้และมีส่วนลดทันทีทั้งการนำเข้ารถยนต์ทั้งคัน CBU หรือนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบ CKD 

รถยนต์ไฟฟ้า BEV ราคาจำหน่ายไม่เกิน 2 ล้านบาท ลดภาษีอากร 40% และภาษีสรรพสามิตเหลือ 2% 

  • รถยนต์ BEV ที่แบตเล็กกว่า 30 kWh ได้ส่วนลด 70,000 บาท
  • รถยนต์ BEV ที่แบตใหญ่กว่า 30 kWh ได้ส่วนลด 150,000 บาท

รถยนต์ไฟฟ้า EV ราคาจำหน่าย 2-7 ล้านบาท ลดภาษีอากร 20%

รถกระบะ EV ต้องผลิตในประเทศไทยหรือ CKD ราคาจำหน่ายไม่เกิน 2 ล้านบาท ภาษีสรรพสามิต 0% 

  • กระบะ EV ที่แบตใหญ่กว่า 30 kWh ได้ส่วนลด 150,000 บาท

ซึ่งการที่รัฐให้ส่วนลดภาษีอากร และภาษีสรรพสามิต จะทำให้แบรนด์รถยนต์เลือกหารถยนต์ไฟฟ้ามาจัดจำหน่ายได้ง่าย รวมถึงหากนำเข้าก็มองไปที่แบต 30 kWh ก็ได้ลดราคาขายถึง 150,000 ซึ่งการจำกัดความว่า BEV นั้นก็หมายถึงรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าจะเป็นรถยนต์ ไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด หรือ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ก็ได้

ตัวอย่างแบรนด์ Audi เพิ่งนำเข้า เปิดตัว Audi Q7 และ Audi Q8 ปลั๊กอินไฮบริด เพราะได้แพคเกจลดราคารถยนต์ไฟฟ้า

ดราคารถยนต์ไฟฟ้า

ผลักดันต่อให้ผลิตในประเทศปี 2567-2568

ทุกมาตรการยังคงเดิมเฉพาะกับรถยนต์ประกอบในประเทศ CKD เท่านั้น และพ่วงสำหรับผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าทั้งคัน CBU ต้องผลิตรถในประเทศคืน 1.5 คันต่อจำนวน 1 คันที่ขายไป ทั้งหมดนี้ก็กันการนำเข้ารถยนต์มาขายโดยไม่ได้วางรากฐานอะไรในไทย

และหลังจากมาตรการเคาะเสร็จสิ้นแล้ว เราก็จะเริ่มหลายแบรนด์เริ่มปล่อยแผนเตรียมจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อผู้ซื้อเยอะขึ้นต่อไประบบโครงสร้างพื้นฐานก็จะมารองรับพอกับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นอย่างแน่นอน

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ