พร้อมจองไหม? Ford เตรียมเปิดราคากระบะตัวโหด Ranger Raptor ภายในงาน Motor Show 2018

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 15 มี.ค 2561

หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ทั่วโลกได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยไปแล้ว สำหรับ Ford Ranger Raptor กระเกรด Hi-Performance ที่มาในรูปลักษณ์ดุ ดิบ เถื่อน ตรงตามกระบะสายพันธุ์ Raptor อันเลื่องชื่อ แต่การเปิดตัวในครั้งนั้นทาง Ford ยังไม่ได้เผยตัวเลขราคาออกมาอย่างเป็นทางการ ทิ้งให้แฟนๆ คาดเดาราคากันไปตามสเปคอุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้มากับรถ

จนล่าสุดกับงาน Bangkok Motor Show 2018 ที่กำลังจะเริ่มขึ้นช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ Ford ประเทศไทยเตรียมที่จะประกาศตัวเลขราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Ford Ranger Raptor ภายในงาน ซึ่งสิ่งที่ Ford Ranger Raptor คันนี้ให้มานั้นเมื่อเทียบกับกระบะรุ่นทั่วไปที่ขายอยู่ในไทยตอนนี้เรียกได้ว่าทิ้งห่างอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ที่ให้มากับรถ ภายใต้รูปลักษณ์ตัวถังแบบ 4 ประตู Double Cab ที่แตกต่างจาก Ford Ranger ทั่วไปทั้งในเรื่องขนาดมิติตัวถัง และการดีไซน์ ที่ถูกถ่ายทอดไอเดียจากทีมพัฒนาของ Ford Perfromance ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากกระบะรุ่นใหญ่พันธุ์ดุที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามมาแล้วอย่างรุ่น F-150 โดยตรง และ Ranger Raptor ดึงจุดเด่นออกมาถ่ายทอดผ่านขนาดไซส์รถที่เล็กลงตามแบบฉบับ Compact Pick Up

ภายนอกแม้จะคล้าย แต่ Ranger รุ่นทั่วไปทำได้ไม่เหมือนแน่นอน

ภายนอกชัดเจนกับคำว่า “Ford” ตัวใหญ่ถูกฝังอยู่ในกระจัง ถูกนำมาแทนโลโก้สีน้ำเงิน กันชนหน้าหลังดีไซน์ใหม่หมด พร้อมทั้งแก้มข้างทั้งหน้า-หลังที่ถูกขยายขนาดเพื่อให้ตัวรถดูกว้างขึ้น ช่วยเพิ่มความดุดัน น่าเกรงขาม มีบันไดข้างติดมาพร้อมจากโรงงาน ผลิตจากอะลูมิเนียมอัลลอย ยางจากโรงงานให้มาแบบพร้อมลุยได้ทันทีที่ขับออกจากศูนย์เป็นยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17 โดยรวมแล้วของ Ford Ranger Raptor คันนี้ชี้ชัดถึงอารมณ์ของกระบะที่แตกต่างจากกระบะทั่วไปที่เคยมีมา สื่อให้เห็นว่า Ford ไม่ได้จะมาเล่นๆ กับตลาดกระบะสมรรถนะสูงอย่างแน่นอน

ภายในที่น่าสนใจที่สุดคือเบาะคู่หน้าที่มากับดีไซน์สปอร์ต ผสมกับวัสดุสุดเลอค่า อาคันทาร่า พร้อมโลโก้ปักคำว่า “Raptor” ถูกออกแบบมาให้หุ้มตัวผู้ขับขี่ และคนนั่งข้างได้ดีขึ้นในเมื่อยามที่ขับลุยบนเส้นทางแสนหฤโหด แม้คอนโซลหน้าจะไม่แตกต่างกับเวอร์ชั่นปกติ แต่เสริมความพิเศษด้วยการเดินด้ายสีน้ำเงิน และเลือกใช้วัสดุหนังผสม พร้อมกับโลโก้ Raptor ที่หน้าปัดโดดเด่นสะดุดตา

เบาะนั่งในแบบ Raptor มีอาคันทาร่า คือจุดเด่นสำคัญภายใน

จุดไฮไลท์สำคัญของความพิเศษใน Raptor คันนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องเครื่องยนต์ ที่เป็นเครื่องยนต์ลูกใหม่ภายใต้เทคโนโลยี EcoBlue เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ Bi-Turbo ขนาด 2.0L พร้อมฝูงม้ามากที่สุดในกระบะเมืองไทยตอนนี้อยู่ที่ 213 ตัว รวมถึงแรงบิดมหาศาลที่ 500 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 Speed พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Terrain Management System (TMS) ปรับได้ 6 แบบตามลักษณะสภาพเส้นทาง เท่านั้นยังไม่พออีกหนึ่งความน่าสนใจของ Raptor คือเรื่องของช่วงล่าง Watt-Link บวกการทำงานร่วมกับช้คอัพที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษตรงรุ่นโดย Fox Racing Shox ทั้งคู่หน้าและหลัง เล่นทำเอาขาลุยสายออฟโรดตาวาวทันทีที่ได้เห็นช่วงล่างของ Raptor คันนี้

เครื่องยนต์ และระบบช่วงล่างจาก Fox Racing คือไฮไลท์ของ Raptor

ระบบความปลอดภัยมีมาให้ตามมาตรฐานของรถระดับ Performance สูง มีมาให้ครบไม่ว่าจะเป็น

ถุงลมนิรภัย พร้อมม่านถุงลม
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
บบควบคุมพวงมาลัยแบบไฟฟ้า EPS (Electronic Steering Program)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP (Electronic Stability Program) พร้อมฟังก์ชั่นลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ
ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง TSC (Trailer Sway Control)
ระบบช่วยออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HDC (Hill Descent Control)
ระบบควบคุมการบรรทุก LDC (Load Adaptive Control)

ก่อนหน้ามีเสียงคาดเดามากมายถึงเรื่องราคาเทียบกับออฟชั่นที่มากับรถ เมื่อตอนที่รุ่นนี้เปิดตัวเผยสเปคออกมาว่าราคาตัวรถน่าจะแพงกว่ารุ่นท็อปของกระบะทั่วไปในเมืองไทยหลายบาท อาจแตะไปถึง 1.8 ล้านบาทเลยก็ได้ ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้มีแค่เมืองไทยเท่านั้นที่รอฟังเสียงประกาศราคาของรถรุ่นนี้อยู่ คนทั่วโลกที่กำลังจ้องจับจองรอเป็นเจ้าของเจ้า Raptor ตัวนี้ก็คงกำลังรอฟังอยู่ราคาด้วยเช่นกัน ยังไงก็เตรียมลุ้นกันได้เลยอีกไม่นานเกินรอ เพราะ Ford Ranger Raptor จะถูกเปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็ทางการครั้งแรกในงาน Motor Show 2018 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายนนี้ 2018 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เช่นเดิม ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 ถึง 3