เรื่องของการรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการรถยนต์อีกแล้ว และเชื่อว่าไม่นาน มันจะกลายเป็นมาตรฐานสำคัญในการผลิตรถยนต์ในอนาคตนี้ หลายแบรนด์ต่างส่งรถยนต์ปราศจากมลพิศลงตลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการรักษาสิ่งแวดล้อของผู้ซื้อ
วันนี้ทีมงาน Chobrod จึงขอนำเสนอ 3 อันดับรถยนต์ไฮบริดที่ “น่าซื้อ” ที่สุดในปี 2018 เพื่อช่วยคนที่อยากได้รถไฮบริดตัดสินใจกัน
1.Hyundai Ioniq
นี่คือรถในอุดมคติของรถยนต์ไฮบริด ที่มีข้อดีทั้งเรื่องของความประหยัดน้ำมันในการขับขี่ และราคาที่ถูก (สำหรับตลาดรถยนต์ไฮบริด) โดย Hyundai Ioniq คือรถยนต์รุ่นแรกที่มาพร้อมกับสามระบบขับเคลื่อน ทั้ง ไฮบริด, ปลั๊กอิน ไฮบริด และอีวี ออกแบบมาในสไตล์เรียบง่าย ล้ำสมัย โดยตัวรถเป็นทรงแฮตช์แบกที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ตลอดทั้งคัน ตลอดจนเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างอลูมิเนียมที่ฝากระโปงหน้าและหลัง นอกจากนั้น การออกแบบที่ทำให้รถคันนี้ดูล้ำสมัยจากรถคันอื่นๆ คือกระจังหน้าที่ปิดทึบ เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า กระจังหน้าแบบโปร่งจึงไม่มีความจำเป็นเพราะไม่ต้องการอากาศไประบายความร้อนของเครื่องยนต์อีกแล้ว โดยเฉลี่ยแล้ว Hyundai Ioniq สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 165 กิโลเมตร / ชั่วโมง แบตเตอรี่ใช้เวลาชาร์จหนึ่งครั้งนาน 4 ชั่วโมง 25 นาที วิ่งได้ 280 กิโลเมตร
Hyundai Ioniq
ภายในมาพร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อครบครัน
สนนราคาของ Hyundai Ioniq อยู่ที่ 1,749,000 บาท
2. Audi Q7 E-tron
นี่คือ 1 ในรถ SUV ที่หรูหราที่สุดคันหนึ่ง Audi Q7 E-tron คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 6 สูบขนาดใหญ่ ผสมเข้ากับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งทำให้รถคันนี้ใช้น้ำมันเพียง 15.1 ลิตรต่อการขับ 100 กิโลเมตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 48กรัม/กิโลเมตรเท่านั้น โดยจุดเด่นของ Audi Q7 E-tron นี้นอกจากการออกแบบที่หรูหราปราณีตทั้งภายในและภายนอกแล้ว ยังมาพร้อมกับความเงียบในการขับขี่อีกด้วย ทั้งเสียงเครื่องยนต์และการสั่นสะเทือนนั้นลดลงอย่างมาก
Audi Q7 E-tron
ภายในสุดเนี้ยบ
สนนราคาของ Audi Q7 E-tron อยู่ที่ 3,248,573 บาท
>> Audi Q8 น้องใหม่ตระกูล Q [Fresh from World Premiere]
3. BMW i3 2018
ว่ากันด้วยความจริง นี่คือรถที่มีการออกแบบได้ล้ำสมัยและโดดเด่นที่สุดคันนึงแล้ว ด้วยแถบสีดำตกแต่งตลอดทั้งคัน ตลอดจนการตกแต่งภายในห้องโดยสารที่แหวกมาใช้สีโทนสว่าง และใช้ลายไม้ในการตกแต่ง เบาะที่เน้นวัสดุผ้าตัดเย็บอย่างดี เน้นสีน้ำตาลสว่าง เรียกได้ว่าสลัดลุครถยนต์ไฟฟ้าเดิมๆ มาแนวรถรักธรรมชาติ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ เพราะเชื่อสิว่าใครเห็นก็ต้องติดตากับรถคันนี้ โดย BMW i3 2018 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 170 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 170กิโลเมตร/ชั่วโมง และวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 300กม/การชาร์จ 1 ครั้ง
BMW i3
การตกแต่งภายในเน้นลายไม้
สนนราคาของ BMW i3 2018 อยู่ที่ประมาณ 1,600,000 บาท
>> ส่องครึ่งปีแรก 2018 SUV ในไทย แบรนด์ใหนขายดีที่สุดนะ ?
>> รวบรวมภาพบรรยากาศงานเปิดตัว “New Mazda CX-3” ที่ Emquartier
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ค้นหาข้อมูลรายละเอียดสามารถเข้าดูวีวิวรถ เชิญที่นี่