เปิดตัวจำหน่ายในประเทศไทย Range Rover Sport 2023 รุ่น Dynamic SE Plug-In Hybrid 510PS กับราคา 8,599,000 บาท ที่จัดจำหน่ายโดย บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้ทำการเปิดรถยนต์รุ่นใหม่จากแบรนด์ Land Rover กับรุ่น Range Rover Sport เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ มาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด
Range Rover Sport - 3.0 Dynamic SE Plug-In Hybrid 510PS กับราคาจำหน่าย 8,599,000 บาท
มีประกันพร้อม Range Rover Care นาน 5 ปี ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง
Range Rover Sport โฉมใหม่ มาพร้อมกับการออกแบบที่ล้ำสมัยและความสะดวกสบายที่เชื่อมต่อถึงกัน ให้สมรรถนะการทำงานแบบไดนามิกขั้นสูงสุด ด้วยชุดระบบส่งกำลังที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ P510e Plug-In Hybrid รูปแบบใหม่ ออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในการขับขี่ที่มีสมรรถนะสูง
อ่านเพิ่มเติม - ชมคลิป! Range Rover Sport SVR ไม่ถึง 10 นาที พิชิต 99 โค้ง ภูเขาเทียนเหมิน
เครื่องยนต์เบนซิน Ingenium 6 สูบ 3.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง 105kW กำลังขับทั้งระบบอยู่ที่ 510 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลาเพียง 5.4 วินาที ขนาดแบตเตอรี่ 38.2kWh เคลมระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าสูงสุด 113 กม. และสามารถทำระยะวิ่งสูงสุดเมื่อน้ำมันและแบตเตอรี่เต็มที่ 740 กม.
รูปลักษณ์ภายนอก Range Rover Sport รูปทรงที่โดดเด่น และคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ใครก็สามารถจดจำได้ทันที ด้วยระยะยื่นจากล้อที่สั้น บริเวณด้านหน้าดูโฉบเฉี่ยว และกระจกมีระดับความลาดเอียงเหมาะสมของทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของรถ กระจังหน้าและชุดไฟ Digital LED ดีไซน์ใหม่ที่เฉียบคม
องค์ประกอบสีตัวถังแบบแบ่งครึ่งตามแนวนอนที่ทำให้ตัวรถดูกว้างยิ่งขึ้น เสริมด้วยการใช้สีดำในการเพิ่มรายละเอียด ด้านหลังของรถสลักลายที่ประตูท้ายช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ กราฟิกไฟ LED ที่ไม่ขาดตอนสะท้อนให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยี LED เผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่มีความร่วมสมัยได้อย่างชัดเจนแม้ในเวลากลางคืน
ลายเส้นที่ดูสะอาดตาภายนอกตัวรถได้รับการเสริมรายละเอียดด้วยการเคลือบเงาเพื่อความสง่างาม มือจับประตูได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูซ่อนไปกับตัวถัง หลังคาที่เชื่อมด้วยเลเซอร์ที่แม่นยำผสมผสานรายละเอียดที่ซับซ้อนได้อย่างลงตัว การออกแบบประสิทธิภาพของระบบแอโรไดนามิกมีความยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น อยู่ที่ 0.29 Cd
การตกแต่งภายในเทคโนโลยี Range Rover Command Driving Position เพื่อความสมดุลของความสง่างาม ห้องโดยสารเสมือนห้องนักบินออกแบบให้ทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม คอนโซลกลางที่ลาดเอียงในแนวสูง ระบบอินโฟเทนเมนท์ Pivi Pro หน้าจอสัมผัสแบบโค้ง และมีความละเอียดสูงขนาด 13.1 นิ้ว
ระบบ Cabin Air Purification Pro สามารถกรองฝุ่น PM2.5 และเทคโนโลยี nanoeTM X เพื่อลดกลิ่นอับ แบคทีเรีย และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ รวมไปถึงไวรัส SARS-CoV-23 อุปกรณ์ nanoeTM X ตัวที่สองได้รับการติดตั้งไว้ในบริเวณแถวที่สองเพื่อให้คุณภาพอากาศที่สม่ำเสมอทั่วทั้งห้องโดยสาร
ฟังก์ชันการจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ภายในห้องโดยสารก่อนการเดินทางหรือแม้ขณะขับรถ ทำให้มั่นใจได้ถึงการตื่นตัวที่เพิ่มมากขึ้นในทุกการขับขี่ และสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารทุกคน
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) ที่เน้นไปที่ความปลอดภัยในการขับขี่ ระบบเบรกฉุกเฉิน กล้อง 3D รอบทิศทาง เซ็นเซอร์จอดรถด้านหน้าและด้านหลัง ระบบ Wade Sensing ระบบ ClearSight Ground View4 และไฟเลี้ยวที่มีระบบควบคุมการขับขี่อัตโนมัติ ระบบตรวจสอบสภาพคนขับ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในเลน และระบบจดจำป้ายจราจร
เทคโนโลยีของแชสซีโลหะผสมที่มีความยืดหยุ่น MLA-Flex ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการบิดได้สูงกว่า Range Rover Sport รุ่นก่อนหน้านี้ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ระบบ Dynamic Response Pro ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Air Suspension เจเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวสปริงลมแบบปรับระดับได้เป็นครั้งแรก และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบกันสะเทือน ปรับแรงดันของกระบอกโช้คให้สอดคล้องกับพื้นผิวถนน และความลาดชัน
ระบบตรวจสอบทิศทางของถนนข้างหน้า เรียกว่า eHorizon เพื่อทำงานให้สอดคล้องกับระบบช่วงล่าง ที่ต้องปรับสภาพให้เป็นไปตามข้อมูลล่วงหน้าที่ได้รับจากระบบ หรือเมื่อต้องเข้าโค้งในระยะที่ใกล้เข้ามา เทคโนโลยี Adaptive Dynamics ช่วยเพิ่มความสามารถแบบไดนามิกด้วยการควบคุมอย่างต่อเนื่องของระบบ Active Twin Valve Dampers เพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นของร่างกายผู้ขับขี่ ระบบนี้ตรวจสอบปัจจัยภายนอกได้สูงถึง 500 ครั้งต่อวินาที ที่ทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ ของช่วงล่าง
ระบบ All-Wheel Steering ระบบ Torque Vectoring by Braking และ ระบบ Electronic Active Differential ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวขั้นสูง ระบบ All-Wheel Steering ช่วยให้การบังคับเลี้ยวของล้อหลังทำมุมตรงกันข้ามกับล้อหน้า ได้สูงสุดถึง 7.3 องศา เพื่อลดวงเลี้ยวให้แคบลงในความเร็วต่ำและทำมุมขนานกับล้อหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งในช่วงเวลาที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบนี้ทำให้ Range Rover Sport โฉมใหม่สามารถสร้างวงเลี้ยวได้เสมือนกับรถประเภทแฮทช์แบค และมีความคล่องตัวบนท้องถนนเสมือนรถยนต์ขนาดเล็ก
ระบบแชสซียานยนต์ Dynamic Response Pro ระบบ All-Wheel Steering ระบบ Electronic Active Differential และระบบ Torque Vectoring by Braking สร้างความประทับใจในการขับขี่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนท้องถนนที่มีสภาพพื้นผิวปกติหรือบนเส้นทางแบบออฟโรดที่ยากลำบาก ระบบ Terrain Response 2 ล่าสุดของ Land Rover ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่แบบออฟโรดโดยใช้วิธีการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดเพื่อการขับขี่ในสภาพภูมิประเทศที่มีความแตกต่าง
ระบบ New Adaptive Off-Road Cruise Control ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกกับ Range Rover Sport โฉมใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ท่องไปในสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยความยากลำบากได้อย่างราบรื่น และยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบแม้สภาพพื้นผิวถนนจะมีความแตกต่าง
นายชาญชัย มหันตคุณ
นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
"Range Rover Sport โฉมใหม่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษนี้สร้างมาตรฐานใหม่ในฐานะสุดยอดรถ SUV แนวสปอร์ตหรูหรา โดยต่อยอดความสำเร็จในการดึงดูดใจลูกค้าที่ไม่เหมือนใครมาเป็นเวลากว่า 17 ปี นี่คือรูปโฉมล่าสุดที่ได้รับการคิดค้นมาจากวิสัยทัศน์ในการสร้างรถยนต์ที่มีความหรูหราทันสมัยและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก โดยผสมผสานมิติใหม่ของความยั่งยืนเข้ากับคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ทำให้ Range Rover Sport ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก”
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ