MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025 ขุมพลัง 1.6 ไฮบริด เคลมวิ่ง 24.4 กม./ลิตร มี 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 21 มี.ค 2568
แชร์ 3

20 มีนาคม 2025 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) รถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ราคา 899,000-1,089,000 บาท เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว MIVEC เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรก พร้อมกับระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle เคลม 24.4 กิโลเมตร/ลิตร

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย

  • MITSUBISHI XFORCE HEV 1.6 Ignite ราคา 899,000 บาท
  • MITSUBISHI XFORCE HEV 1.6 Ultimate ราคา 1,039,000 บาท
  • MITSUBISHI XFORCE HEV 1.6 Ultimate X ราคา 1,089,000 บาท

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) มีให้เลือก 5 สีตัวถัง แบ่งตัวเลือกตามรุ่นย่อย

  • MITSUBISHI XFORCE HEV 1.6 Ignite มี 3 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond  สีเงิน Blade Silver และ สีเทา Graphite Grey
  • MITSUBISHI XFORCE HEV 1.6 Ultimate มี 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond หลังคาดำ สีเงิน Blade Silver สีเทา Graphite Gray  และสีดำ Jet Black Mica
  • MITSUBISHI XFORCE HEV 1.6 Ultimate X มี 5 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond หลังคาดำ สีเทา Graphite Gray หลังคาดำ สีเหลือง Energetic Yellow หลังคาดำ สีแดง Spirit Red  หลังคาดำ และสีดำ Jet Black Mica

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) 

เป็นรถในกลุ่ม B-SUV อีกขั้นของการพัฒนา MITSUBISHI e:MOTION มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนาจากระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ของมิตซูบิชิ โดดเด่นด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอัตราเร่งที่ทรงพลัง พร้อมโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ผสานการทำงานระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control – AYC) แบบ All-Wheel Control  ที่จะช่วยคำนวณการส่งกำลังจากระบบขับเคลื่อนและแรงเบรกลงสู่แต่ละล้อ เพื่อให้ล้อทั้งคู่หน้า-คู่หลัง ทำงานอย่างสัมพันธ์กัน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาสมดุลของตัวรถขณะเข้าโค้ง

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) กับดีไซน์

รูปลักษณ์ภายนอก ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Silky and Solid แนวคิดการออกแบบใหม่จากมิตซูบิชิ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED สี Smoked จัดเรียงเป็นรูปตัวที เสริมให้เห็นถึงความกว้างและความรู้สึกมั่นคงของตัวรถ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ดีไซน์สวยงามที่คำนึงถึงแอโรไดนามิค เสริมด้วยซุ้มล้อที่เลือกใช้วัสดุ และสีที่ตัดกับสีรถ

รูปลักษณ์ภายใน ออกแบบโดยใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ประณีตในทุกรายละเอียด คอนเซปต์ตามแนวคิด “Horizontal Axis” มอบทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ภายในห้องโดยสารสีทูโทน พร้อมการตกแต่งด้วยผ้าแบบพิเศษกันน้ำ และคราบสิ่งสกปรก มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

ห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน พื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่หัวไหล่ และพื้นที่วางขาที่กว้าง ทำให้สามารถเดินทางได้พร้อมกันถึง 5 คน โดยไม่รู้สึกอึดอัด เบาะนั่งตอนหลังสามารถพับปรับแบบ 40:20:40 และปรับเอนได้ถึง 8 ระดับ พร้อมด้วยวัสดุหุ้มเบาะ “Heat Guard” ที่ช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดด

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) กับห้องโดยสาร

ไดนามิค ซาวด์ ยามาฮ่า พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System) เครื่องเสียงและระบบเสียงคุณภาพ พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับ ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น

ระบบฟอกอากาศ nanoe-X  ที่จะช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดอากาศเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่นให้คุณตลอดการเดินทาง

ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) บริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านหน้า

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) กับขุมกำลัง

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16  วาล์ว MIVEC เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรก พร้อมกับระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle ใหม่ ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตามการขับขี่และสภาพถนน ให้อัตราเร่งที่ดี และนุ่มนวล อีกทั้งยังเพิ่มกลไกตัดการเชื่อมต่อของมอเตอร์ ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน ส่งผลให้รถมีอัตราประหยัดน้ำมันขั้นสูงสุด 24.4 กิโลเมตร/ลิตร

โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ไม่ว่าเส้นทางแบบไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคด้วยโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Normal (ถนนทั่วไป) Wet (ถนนเปียก) Gravel (ถนนลูกรัง) Tarmac (ถนนลาดยาง) Mud (ถนนโคลน) และอีก 2 ทางเลือกพลังงานทั้ง Charge (โหมดการชาร์จ) และ EV Priority (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%) โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ด้วยตนเองตามสภาพถนน สภาพภูมิอากาศ หรือรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ

ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง หรือ AYC (Active Yaw Control)  เทคโนโลยีจากรถแข่งแรลลี่คาร์ของมิตซูบิชิ ทำงานโดยคำนวณการส่งกำลังลงที่ล้อซ้าย-ล้อขวา ให้หมุนสัมพันธ์กัน ขณะที่รถเข้าโค้ง เพื่อสร้างสมดุลให้กับตัวรถ ทำให้สามารถขับผ่านทางโค้งได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และมั่นใจในทุกสถานการณ์

ช่วงล่าง ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) กับระบบความปลอดภัย

ความปลอดภัย Diamond Sense ด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา ทำงานอย่างแม่นยำผ่านการทำงานของกล้อง เรดาห์ และเซนเซอร์

  • กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นกะระยะ และระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (MAM with MOD)
  • ระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าออกตัวหรือเคลื่อนที่ไปด้านหน้า (LCDN)
  • ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSW with LCA)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM)
  • ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติถึงจุดหยุดนิ่ง (ACC)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
  • ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)
  • ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025) รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) ฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)

มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV ปี 2025)  จผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และจัดจำหน่ายผ่านทางเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการกว่า 190 แห่งทั่วประเทศ เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศอินโดนีเซียในเดือนสิงหาคม 2566 ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน และขยายตลาดสู่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ละตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่น ๆ ในปี 2567 มีความสำคัญในฐานะรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส

มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

“นี่เป็นครั้งแรกที่ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุดของเรา และเราภาคภูมิใจ ที่รถยนต์รุ่นนี้ ผลิตที่ประเทศไทย ณ โรงงานแหลมฉบังของเรา เราใช้เวลาหลายเดือน ในการทดสอบรถยนต์รุ่นนี้ รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 100,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อประเมินความทนทาน และสมรรถนะในการขับขี่ ทีมทดสอบของเราได้รวบรวมข้อมูล และความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ซึ่งวิศวกรฝ่ายวิจัยและพัฒนาของเรา ได้นำไปใช้ในการปรับแต่ง และพัฒนารถรุ่นนี้ ให้ดียิ่งขึ้น ขั้นตอนสุดท้าย คือการทดสอบความทนทานของรถ และปรับแต่งระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทย ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เราให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพ และประสบการณ์การขับขี่เสมอมา และเราไม่เคยลดทอนมาตรฐานเหล่านี้เลยครับ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะเป็นโมเดลที่สร้างความตื่นเต้น และน่าประทับใจ พร้อมกับได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย” 

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ