MG S5 EV ปี 2025 เปิดตัวซีรีส์ PLUS อัพเกรดออปชั่น พร้อมราคาใหม่พิเศษเริ่ม 669,900 บาท

MG S5 EV PLUS ปี 2025

MG S5 EV ปี 2025 ซีรีส์ PLUS ย่อยใหม่ได้แก่ รุ่น D+ รุ่น X+ และ V+

• MG S5 รุ่น D+ 50 kWh ราคาพิเศษ 669,900 บาท (จากราคาปกติ 749,900 บาท)
• MG S5 รุ่น X+ 50 kWh ราคาพิเศษ 789,900 จาก (จากราคาปกติ 839,900 บาท)
• MG S5 รุ่น V+ 62.2 kWh ราคาพิเศษ 909,900 จาก (จากราคาคาดการณ์ 959,900 บาท)

MG S5 EV PLUS ปี 2025 มีสีตัวถังให้เลือก 4 สี ได้แก่

• สี CHAMPAGNE TITANIUM
• สีเทา ANDES GREY
• สีดำ BLACK KNIGHT
• สีขาว ARCTIC WHITE

MG S5 EV PLUS ปี 2025

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์–ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด รับฟังเสียงตอบรับจากผู้บริโภค ปรับกลยุทธ์ ชู 4 จุดเด่นสำคัญ “ใหญ่ – เย็น – ยาว – เยอะ” ให้  MG S5 EV ปี 2025 ซีรีส์ PLUS ย่อยใหม่ได้แก่ รุ่น D+ รุ่น X+ และ V+ อัพเกรดอินโฟเทนเมนต์หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น, เบาะที่นั่งระบบเป่าลมคู่หน้า  พร้อม LIFETIME WARRANTY

อ่านเพิ่มเติม - เอ็มจี เปิดตัวรุ่นย่อย MG S5 EV D+ ปี 2025 ชูความคุ้ม พร้อมราคาพิเศษ 699,900 บาท

MG S5 EV ปี 2025 พัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM  เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่สนุกด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive) และช่วงล่าง 5-Link Suspension พร้อมระบบ One Pedal ที่ช่วยควบคุมความเร็วได้อย่างง่ายดาย เสริมรุ่นย่อยใหม่ 3 รุ่นได้แก่

• รุ่น D+ ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่า พร้อมฟังก์ชันที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง
• รุ่น X+ กับฟังก์ชันที่เพิ่มมากขึ้นพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
• รุ่น V+ ที่เพิ่มสมรรถนะดีเยี่ยม พร้อมระยะทางที่วิ่งไกลสูงสุดถึง 550 กิโลเมตร 

Subtitle for this gallery box

MG S5 EV PLUS ปี 2025 ดีไซน์ภายนอก

• มิติตัวถัง 4,476 x 1,849 x 1,621 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
• ระยะช่วงล้อกว้าง 2,730 มิลลิเมตร
• ล้ออัลลอยด์ ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น D+ ที่ยกระดับความสปอร์ตด้วยสีดำ และล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น X+ และ รุ่น V+
• ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบควบคุมการ เปิด-ปิด อัตโนมัติ
• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
• กระจกมองข้างพับไฟฟ้าในรุ่น X+ และ รุ่น V+ และปรับไฟฟ้าในทุกรุ่นย่อย 
• ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติกระจกบานหน้า ในรุ่น X+ และ รุ่น V+
• กระจังหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Active grille)
• สปอยเลอร์หลังในทุกรุ่นย่อย
• ประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี เปิดอัตโนมัติ ในรุ่น X+ และ รุ่น V+
• หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ในรุ่น X+ และ รุ่น V+
• ราวหลังคาในทุกรุ่นย่อย

MG S5 EV PLUS ปี 2025

MG S5 EV PLUS ปี 2025 ดีไซน์ภายใน

• ตกแต่งด้วยสีทูโทน เทา-ดำ และวัสดุ Soft Touch ในทุกรุ่นย่อย 
• เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย และในรุ่น X+ และ รุ่น V+ มาพร้อมระบบเป่าลมในตำแหน่งคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้ารูระบายอากาศ (Cooling seat) ในตำแหน่งคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับได้ 4 ทิศทาง
• เกียร์แบบก้านหลังพวงมาลัย ในรุ่น X+ และ รุ่น V+
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ในทุกรุ่นย่อย
• เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ในรุ่น X+ และ รุ่น V+
• เบาะนั่งด้านหลัง พนักพิงพับได้ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย และในรุ่น X+ และ V+ มาพร้อมที่วางแขน และที่วางแก้ว
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว (Digital Multi-Function Display)
• กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down ในตำแหน่งคนขับ
• ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• ระบบ Intelligent Smart Access
• ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) ในรุ่น X+ และ รุ่น V+
• ที่เก็บสัมภาระท้ายขนาด 453 ลิตร และหลังพับเบาะ 1,441 ลิตร
• ลำโพง 4 จุด ในรุ่น D+ และ 6 จุด ในรุ่น X+ และ V+
• รุ่น D+ มาพร้อมหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ส่วนรุ่น X+ และ V+ มาพร้อมหน้าจอขนาดใหม่ 15.6 นิ้ว ใหญ่เต็มทุกมุมมอง
• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ และช่องเชื่อมต่อ USB
• รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สายในทุกรุ่นย่อย

MG S5 EV PLUS ปี 2025

MG S5 EV PLUS ปี 2025 ด้วยแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ซึ่งเป็นโครงสร้างเดียวกับโมเดลระดับโกลบอลอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยการขยายแพลตฟอร์มให้รองรับการขับขี่ในรูปแบบ SUV อย่างเต็มประสิทธิภาพ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension

• รุ่น D+ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า (125 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate Battery ขนาดความจุ 50 kWh (LFP) รองรับการชาร์จ DC 88 kW คลมวิ่งได้ระยะทาง 416 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
• รุ่น X+ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า (125 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate Battery ขนาดความจุ 50 kWh (LFP) รองรับการชาร์จ DC 88 kW เคลมวิ่งได้ระยะทาง 416 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
• รุ่น V+ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 245 แรงม้า (180 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.1 วินาที Lithium Iron Phosphate Battery ขนาดความจุ 62.2 kWh (LFP) รองรับการชาร์จ DC 150 kW เคลมวิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่
• ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อน
• โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ Comfort Normal Sport Snow และ Custom

รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6 kW จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย พร้อมสัญญาณเตือนระยะด้านหลัง 

MG S5 EV PLUS ปี 2025 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย ระดับ 5 ดาวจาก EURO NCAP ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และระบบช่วยเบรก AEB (Automatic Emergency Braking)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้ขับเคลื่อนอยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)
• ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตาที่ทำงานประสานกันทั้ง ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking) ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) และระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
• ระบบคันเร่งแบบ One Pedal ในทุกรุ่นย่อย
• ฟังก์ชันปลดล็อคเกียร์ว่างจากหน้าจอ
• กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) ในรุ่น X+ และ V+ และ กล้องมองหลัง (Rear View Camera) ในรุ่น D+

MG S5 EV ปี 2025 รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน), รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) และฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“สำหรับ ตลาด B-SUV ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง การพัฒนารถยนต์ต้องไม่หยุดอยู่แค่เรื่องสมรรถนะ แต่คือการมองให้ลึกถึงสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจริง ๆ ในวันนี้และในระยะยาว เราเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ดี ต้องเข้าถึงง่าย ใช้งานได้จริง และพร้อมมอบความมั่นใจในทุกด้าน การเพิ่มรุ่นย่อยใหม่อย่าง รุ่น D+ X+ และ V+ จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มทางเลือก แต่คือการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งในแง่ของสมรรถนะ เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่าที่จับต้องได้ เพื่อให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่า ได้สัมผัสกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและตรงจุด พร้อมการดูแลหลังการขายที่ครอบคลุม เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ในทุกการเดินทางกับแบรนด์ เอ็มจี”

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ