HERE Technologies จัดงาน HERE Directions Bangkok 2025 ชูนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบนำทางแห่งอนาคตในเอเชียแปซิฟิก

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 8 ก.ย 2568
แชร์ 1

HERE Technologies จัดงาน HERE Directions Bangkok 2025 ชูนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบนำทางแห่งอนาคตในเอเชียแปซิฟิก

HERE Technologies ผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลตำแหน่งและแพลตฟอร์มเทคโนโลยี จัดงานใหญ่ประจำภูมิภาค HERE Directions Bangkok 2025 ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ พร้อมผนึกผู้นำอุตสาหกรรม พันธมิตร และนวัตกรจากทั่วเอเชียแปซิฟิก ร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อนอนาคตนวัตกรรมการเดินทาง แผนที่ และการขนส่งอัจฉริยะ รวมถึงจัดแสดงนวัตกรรมแบบ in-vehicle experience โดยมีเป้าหมายตอกย้ำความมุ่งมั่นของ HERE ในการส่งมอบโซลูชันคุณภาพขั้นสูงให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์และองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 

เปิดประสบการณ์นำทางสุดพิเศษด้วย Lotus Emeya x HERE 

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญในงาน HERE Directions Bangkok 2025 ที่ผู้ร่วมงานได้สัมผัสการเปิดตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ Lotus Emeya รถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับ Hyper-GT ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีระบบนำทางอัจฉริยะจาก HERE ที่มอบประสบการณ์นำทางอันล้ำสมัยแบบไร้รอยต่อ ความแม่นยำสูง และใช้ง่ายไม่ซับซ้อน พร้อมยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับพรีเมียม

นายอาบิจิต เซนกุปตา ผู้อำนวยการอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย บริษัท HERE Technologies กล่าวว่า “ประสบการณ์ร่วมกับ Lotus Emeya ในครั้งนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดและมีนัยสำคัญที่บ่งบอกได้ว่า HERE ได้เข้ามาพลิกโฉมระบบนำทางในอุตสาหกรรมยานยนต์แบบเดิมๆ เพราะแพลตฟอร์มของเราให้ความสำคัญกับความแม่นยำในการนำทาง ประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน รวมไปถึงความปลอดภัยขั้นสุด ซึ่งสอดคล้องกับคุณสมบัติที่ Lotus และ พันธมิตรของเรามองหา ซึ่งจะกลายเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ (Next-gen vehicles) ทั่วโลกอย่างแน่นอน”

3 เทรนด์ พลิกโฉมการเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภายในงาน HERE Directions Bangkok 2025 นอกจากจะมีการนำเสนอข้อมูลสาระสำคัญต่างๆ ผ่านเวทีเสวนา และสาธิตเทคโนโลยีสุดล้ำ ยังมีการเผย 3 เทรนด์สำคัญที่มีแนวโน้มขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านการเดินทางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างชัดเจน ได้แก่:

1. การเร่งผลักดันอัตราการใช้งาน EV อย่างต่อเนื่อง

อัตราการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภูมิภาคมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนของนโยบายระดับชาติ อาทิ เป้าหมายของประเทศไทยที่มีการตั้งเป้าเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ถึง 30% ภายในปี 2030 ซึ่งรวมไปถึงรถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนบุคคล ไปจนถึงระบบขนส่งสาธารณะไฟฟ้า เช่น รถประจำทาง เป็นต้น

2. การยกระดับความชัดเจนด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างจริงจัง

แผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทยที่ตั้งเป้าลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือไม่เกิน 12 คนต่อประชากรแสนคนภายในปี 2027 ซึ่งจำเป็นต้องมีการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานที่รอบคอบมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี เช่น ระบบยานยนต์ที่เชื่อมต่อกัน (Connected Vehicle Systems) เพื่อยกระดับความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ถนนทุกคน

3. การขยายศักยภาพ AI และข้อมูล สู่พลังการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

การเดินทางในเมืองกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยแนวคิด Mobility-as-a-Service (MaaS) หรือ บริการระบบคมนาคมขนส่งแบบครบวงจร กำลังกลายเป็นรูปแบบหลักของการเดินทางในอนาคต และเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านนี้ HERE Technologies ได้พัฒนา HERE AI Assistant ที่ออกแบบมาเพื่อความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่งยุคใหม่ให้ตอบโจทย์ผู้โดยสารและผู้ใช้งานยานพาหนะเชิงพาณิชย์ โดยใช้เทคโนโลยี Generative AI Large Language Models (LLMs) โมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ที่เชี่ยวชาญทางด้านภาษา ที่สามารถช่วยให้คำแนะนำตำแหน่งหมุดหมาย การวางแผนการเดินทางแบบเฉพาะบุคคล เพิ่มความแม่นยำด้านการวางเส้นทาง เวลาถึงที่หมาย (ETA) รวมถึงการบริหารจัดการงานขนส่งด้วยความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การตอบโจทย์การใช้งานระดับองค์กรและอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย HERE Technologies

HERE Technologies นำเสนอแพลตฟอร์มและโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยยกระดับการทำงานในระดับองค์กรและอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้:
  • โซลูชันยานยนต์แบบครบวงจร (Comprehensive Automotive Solution) ที่มีการรองรับระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) การขับขี่อัตโนมัติ การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และประสบการณ์ดิจิทัลในห้องโดยสารอันล้ำสมัย
  • ระบบการคำนวณเส้นทางและระบุพิกัดขั้นสูง (Advanced Routing and Geocoding) ออกแบบมาสำหรับงานด้านโลจิสติกส์และโมบิลิตี้โดยเฉพาะ
  • API ที่ให้ความสำคัญแก่นักพัฒนา (Developer-focused APIs) สำหรับการสร้างแอปพลิเคชันที่มีฟังก์ชันระบุตำแหน่งตามความต้องการ
  • รองรับการใช้งานครอบคลุมทั่วโลก (Global Coverage) รองรับการนำทางอย่างไร้รอยต่อในกว่า 200 ประเทศ
โดยแพลตฟอร์มของ HERE สามารถช่วยให้องค์กร ควบคุมข้อมูลของตนเองได้อย่างเต็มที่ ปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้งานได้ตามต้องการ และ ขยายการดำเนินงานทั่วโลกได้อย่างแม่นยำในระดับท้องถิ่น

เสริมแกร่งอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยด้วยเทคโนโลยีระดับโลก

ขณะนี้ HERE Technologies กำลังขยายการลงทุนและความร่วมมือในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งผนึกกำลังร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่:
  • SKOOTAR บริษัทที่ให้บริการเรียกแมสเซนเจอร์ออนไลน์ในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยี Geocoding และ Routing API จาก HERE เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าแบบ on-demand ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในเวลาที่ต้องการมากยิ่งขึ้น
  • Bedrock Analytics ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการข้อมูล ที่ให้บริการแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ และข้อมูลเชิงพื้นที่ ในประเทศไทย ร่วมกับ HERE พัฒนาเทคโนโลยี Digital Twin เพื่อสนับสนุนโครงการสมาร์ทซิตี้ในจังหวัดยะลา เพื่อการวางผังเมืองและระบบตอบสนองเหตุฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพสูง
นอกจากนี้ ผลสำรวจจาก HERE ยังพบว่า คนไทยกว่า 90% เชื่อว่าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง หรือ Advanced Driver-Assistance Systems (ADAS) จะสามารถเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนได้ พร้อมทั้งอยากสนับสนุนให้ภาครัฐนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงนโยบายอีกด้วย

เป้าหมายในอนาคตของ HERE Technologie

HERE Directions Bangkok 2025 ในครั้งนี้ได้ตอกย้ำบทบาทของ HERE Technologies ในการเป็นเสมือนแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบการเดินทางและขนส่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยให้ความสำคัญกับความเปิดกว้าง ความแม่นยำ และการสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นจริงอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจทั่วโลกสู่โอกาสและความสำเร็จแห่งอนาคต