Audi e-tron EV 100% คันแรกจากค่าย “โฟร์ ริง” อีกตัวเด่นในงาน Motor Show 2019

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 19 มี.ค 2562
แชร์ 0

Audi Thailand ภายใต้การดูแลของ บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ได้เปิดตัวรถยนตกรรมแห่งอนาคตในรูปแบบรถอเนกประสงค์ EV เต็มรูปแบบรุ่นใหม่จาก Audi ที่จะถูกนำเข้ามาขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกกับ Audi e-tron 55 quattro (EV) สงวนราคาอยู่ที่ “ห้าล้านนิด ๆ” พร้อมที่จะให้คนไทยได้เป็นเจ้าของแล้ว เตรียมขึ้นแท่นเป็นอีกรุ่นรถเด่นของบูธ Audi และงาน Motor Show 2019 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้

Audi e-tron EV 100% คันแรกจากค่าย “โฟร์ ริง” อีกตัวเด่นในงาน Motor Show 2019

Audi e-tron EV 100% คันแรกจากค่าย “โฟร์ ริง” อีกตัวเด่นในงาน Motor Show 2019

งวดเข้ามาแล้วสำหรับงานแสดงและขายรถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตลาดรถประเทศไทย Bangkok Motor Show 2019 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2562 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 - 3 อิมแพค เมืองทองธานี งานที่รวมรถใหม่ไว้มากสุด พร้อมกับโปรโมชั่นราคารถสุดพิเศษแบบที่หาที่ไหนไม่ได้ จึงเป็นธรรมดาที่ช่วงก่อนวันงาน ค่ายรถทั้งหลายต่างเร่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่เผาหัวแล้วให้คนที่ไปเดินในงานนี้ได้ไปเจอตัวจริง เช่นเดียวกับทาง Audi Thailand ที่ล่าสุดได้เผยโฉมรถไฟฟ้าแบบอเนกประสงค์รุ่นใหม่เป็นครั้งแรก Audi e-tron 55 quattro (EV) พร้อมราคาขายอยู่ที่ 5,099,000 บาท ภายใต้รูปแบบการนำเข้าแบบ CBU มาให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกหลังจากที่เผยโฉมในตลาดโลกมาตั้งแต่ปีที่แล้วที่อเมริกา

แฝงไว้ด้วยความล้ำตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้เห็นความแตกต่างว่ารถคันนี่เป็นรถ EV

แฝงไว้ด้วยความล้ำตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้เห็นความแตกต่างว่ารถคันนี่เป็นรถ EV

แฝงไว้ด้วยความล้ำตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้เห็นความแตกต่างว่ารถคันนี่เป็นรถ EV

แฝงไว้ด้วยความล้ำตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้เห็นความแตกต่างว่ารถคันนี่เป็นรถ EV

Audi e-tron ถือเป็นรถไฟฟ้า EV 100% คันแรกจาก Audi ที่มากับรูปแบบรถอเนกประสงค์ SUV พร้อมขุมกำลังผ่านการทำงานร่วมของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่สามารถเลือกปรับโหมดได้ตามการใช้งานของผู้ขับขี่ ดังต่อไปนี้

Normal Mode

ที่สามารถสร้างพละกำลังสูงสุดได้อยู่ที่ 360 แรงม้า แบ่งเป็นกำลังจากมอเตอร์หน้า 170 แรงม้า และมอเตอร์ตัวหลังอยุ่ที่ 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 561 Nm

Boost Mode

“แรงยิ่งกว่า !” ด้วยกำลังสูงสุดที่ 408 แรงม้า ผ่านมอเตอร์หน้า 184 แรงม้า, มอเตอร์หลัง 224 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุดอีกกว่า 664 Nm

โดยจะส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนเป็นเกียร์อัตโนมัติ “อัตราทดเดียว” Single Gear พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ “quattro” แบบไฟฟ้า (electric quattro) อันเลื่องชื่อของค่าย ที่ช่วยสร้างกำลังให้ในการออกตัวตอนเร่งแซงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่ต่างกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ พร้อมระบบกระจายแรงบิดที่เรียกว่า “wheel-selective torque control” ทำให้ Audi e-tron 55 quattro (EV) คันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีอัตราเร่งแรงจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาอยู่ที่ 5.7 วินาทีเท่านั้น (ภายใต้รูปแบบการขับขี่ Boost Mode)

ดูเพิ่มเติม
>> 
ไฮบริด, PHEV, EV ทำไมจึงแตกต่าง???
>> 3 ค่ายยักษ์ญี่ปุ่นชะลอ “อีโคอีวี” ในไทย

ทำคามเร็วได้ไม่ธรรมดาระดับ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกับรถที่หนักเกือบ 2.5 ตัน

ซึ่งตัวมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 396 โวลต์ ที่ขนาดความจุ 95 kWh ช่วยให้รถคันนี้เดินทางได้ไกลกว่า 417 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ภายใต้มาตรฐาน WLTP ที่มาพร้อมประสิทธิภาพในการชาร์จไฟกลับไปให้ตัวแบตเตอรี่ผ่านช่วงที่ตัวรถชะรอความเร็ว, การเบรก ไปจนถึงในขณะที่ความเร็วของรถลอยตัวแล้ว โดยตัวแบตเตอรี่จะถูกติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถแบบ 36 Modules ที่สามารถถอดแยกเปลี่ยนซ่อมได้เฉพาะส่วนของ Modules ที่มีปัญหา ถ้าเสียก็ไม่ต้องเปลี่ยนแบตฯ กันยกลูก

แบตเตอรี่ถูกวางไว้ใต้ท้องรถ พร้อมพลังขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ quattro

ในส่วนของมิติตัวรถของ Audi e-tron 55 quattro (EV) ที่มาในรูปแบบรถ SUV ใหม่คันนี้ ความยาวตัวถังจะอยู่ที่ 4.9 เมตร, ความกว้าง 1.94 เมตร, ความสูง 1.62 เมตร และระยะฐานล้อ 2.93 เมตร การออกแบบสื่อได้ถึง “ความล้ำ” ไปอีกระดับของรถจาก Audi ซึ่งอารมณ์ในเรื่อง Perfomance เป็นที่รู้สึกได้ทันทีที่ได้เห็นโลโก้สี่ห่วงด้านหน้าอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ร่วมกับดีไซน์แบบ EV ที่ตัวกระจังหน้าแบบปิดเกือบมิดสีเงิน ไฟหน้าสไตล์ล้ำดุดันเรียวบาง ล้อลายใบพัดก้านใหญ่ และไฟท้ายแนวยาวจากฝั่งถึงอีกฝั่ง ยิ่งทำให้ Audi e-tron 55 quattro (EV) คันนี้เพิ่มความพิเศษได้มากกว่ารถ SUV ทั่วไปที่วิ่งอยู่ตามท้องถนนได้อย่างเนียนตา อีกทั้งในเรื่องค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานแอโร่ไดนามิกของ Audi e-tron ยังวัดได้ต่ำที่สุดในบรรดารถ SUV ที่เคยมีมาอีกด้วย อยู่ที่ 0.28 ซึ่งนั่นก็ช่วยให้ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าของรถคันนี้ สามารถทะยานพาตัวรถที่น้ำหนักกว่า 2,490 กิโลกรัม วิ่งไปได้ไกลกว่า 400 กิโลเมตรได้แบบสบาย ๆ  

ที่ส่วนของภายในห้องโดยสารจะได้รับอิทธิพลจากดีไซน์ของรถรุ่นใหม่ ๆ ร่วมค่ายทั้งรุ่น A7, A8 มาพอสมควร ที่เน้นในเรื่องความล้ำเป็นสำคัญในการออกแบบ เพิ่มความหรูได้ด้วยวัสดุตกแต่งชั้นเลิศ ฟีเจอร์ต่าง ๆ ประดุจดั่งนั่งอยู่บนยานอวกาศในจินตนาการ หน้าปัดสุดไฮเทคให้มาเป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด พร้อมกับหน้าจอความบันเทิงขนาดใหญ่และหน้าจอควบคุมสั่งการฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น ทั้งปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศหรือปรับเบาะก็ให้เป็นแบบสัมผัสทั้งหมด พวงมาลัย “ทรงล้ำ” แบบสี่ก้านถูกยกมาจาก Audi A8 ดูคล้ายคันบังคับยาน เช่นเดียวกับคันเกียร์ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งยังให้มากับระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Bang & Olufsen อีกด้วย

ภายในล้ำสุด ๆ ดุจขึ้นยานอวกาศ รูปแบบไม่ห่างจากเรือธงของค่ายมากนัก

ภายในล้ำสุด ๆ ดุจขึ้นยานอวกาศ รูปแบบไม่ห่างจากเรือธงของค่ายมากนัก

ภายในล้ำสุด ๆ ดุจขึ้นยานอวกาศ รูปแบบไม่ห่างจากเรือธงของค่ายมากนัก

ภายในล้ำสุด ๆ ดุจขึ้นยานอวกาศ รูปแบบไม่ห่างจากเรือธงของค่ายมากนัก

หนึ่งไฮไลท์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือ นวัตกรรมใหม่ของรถยุคหน้าอย่างแท้จริงกับการใช้กล้องแสดงภาพ ไม่มีอีกแล้วสำหรับกระจกมองข้างแบบเดิม ๆ ที่รถยุคนี้ใช้ มองได้ไม่ทั่วเห็นไม่ชัดเจน กับสภาวะเส้นทางที่อาจเป็นอุปสรรค เพราะ Audi e-tron 55 quattro (EV) คันนี้ให้มาพร้อมกับกล้อแสดงภาพด้านข้างที่เรียกว่า “Virtual exterior mirrors” ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ผ่านการแสดงภาพผ่านทางหน้าจอ OLED ขนาด 7 นิ้วซึ่งถูกติดตั้งไว้บริเวณแผงประตูทั้งสองข้างพร้อมฟีเจอร์ระบบสัมผัส แม้ต้องขับขี่ออยู่ในสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ก็ยังมองเห็นที่ด้านข้างตัวรถได้อย่างชัดเจนไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือในการขับขี่อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการขับขี่ในเมือง, ระบบช่วยจอด,  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นต้น

กล้องที่มาแทนกระจกมองข้าง ฟังก์ชั่นต้องจ่ายเพิ่มเพื่อความแตกต่าง

กล้องที่มาแทนกระจกมองข้าง ฟังก์ชั่นต้องจ่ายเพิ่มเพื่อความแตกต่าง

คนผู้ชมในตลาดรถไม่ต้องให้รอนานกับสุดยอดยนตกรรมระดับโลกคันนี้ Audi e-tron ที่หลังจากเปิดตัวทำตลาดครั้งแรกที่อเมริกาไปเมื่อปีที่แล้ว ต่อเนื่องต้นปี 2019 ก็ทำตลาดที่ยุโรปและตอนนี้ก็ถึงเมืองไทยแล้วเรียบร้อย ๆ พร้อมราคาขายแบบนำเข้า CBU อยู่ที่ห้าล้านนิด ๆ 5,099,000 บาท อีกนึ่งตัวเด่นของบูธ Audi ในงาน Motor Show 2019 ที่คุณไม่ควรพลาดไปชม

แต่ถ้ายนตกรรมไฟฟ้า EV 100% ยังไม่ใช่คำตอบที่คุณต้องการ(ในตอนนี้) ลองมามองหา SUV น่าใช้ในแบบรถมือสองอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Chobrod.com ตลาดรถมือสองที่มีรถให้เลือกมากที่สุด ครบทุกประเภท แถมถ้าใครจะอยากลงขายรถก็ทำได้ฟรีอีกด้วย คลิกไปเลยที่ Chobrod.com

ดูเพิ่มเติม
>> 
5 รถพลังงานไฟฟ้าที่จะได้เห็นบนถนนไทยในปี 2019
>> ไทยรอลุ้น ปี 62 หลายค่ายจ่อลงทุนผลิตรถยนต์ "อีโคอีวี"

เลือกซื้อรถมือสอง มากมายที่นี่