Honda Civic 2021 เจเนอเรชั่น 11 ให้เครื่องเทอร์โบ 1.5 ลิตร และ Honda Sensing เปิด 3 รุ่นย่อย เริ่ม 964,900-1,199,900 บาท
การออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความสปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวรอบคัน หรูหราในทุกมุมมองด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED สไตล์เอกลักษณ์เฉพาะตัว เสาอากาศแบบครีบฉลาม ท่อไอเสียแบบคู่ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่
อ่านเพิ่มเติม
- ฟอร์ดเปิดตัวผู้ช่วยซ่อม แว่นตา RealWear ให้วิศวกรส่วนกลางช่วยดู
- เมอร์เซเดส-เบนซ์ เลิกรถยนต์สันดาป มุ่งสู่ EV 100%
Honda Civic 2021 รุ่น RS
ในรุ่น RS ด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้า ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต และสะกดทุกสายตาด้วย สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS
สำหรับรุ่น RSใหม่ ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ล็อกและปลดล็อกรถได้อย่างสะดวกสบายเพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา และ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
*** ดูเพิ่มเติมราคา ซีวิคมือสอง ที่มีขายในประเทศไทย
สำหรับรุ่น EL+ และ EL อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการ ด้วยเสียง Siri ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจ กับการออกแบบพัฒนาลดเสียงจากเครื่องยนต์ เพิ่มจุดยึดยางแท่นเครื่อง เพิ่มฉนวนกันเสียงที่ผนังห้องเครื่องและฉนวนใต้คอนโซล การลดเสียงจากถนนปรับฉนวน ปรับจุดยึดชช่วงล่าง trailing arm ปรับบังโคคนและฝากปิดด้านล่าง รวมถึงฉีดโฟมจุดเชื่อมต่อและเป็นฉนวน
ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
เทคโนโลยีเความปลอดภัย อื่น ๆ อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
ขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ 4 สูบ 16 วาล์ว พัฒานาลูกสูบ ก้านสูบให้แข็งแรงมากขึ้น ดีไซน์วาล์วฝาสูบใหม่เพิ่มระยะเวลาเปิดปิดวาล์ว ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที (เพิ่มจากเดิม 5 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT เคลมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร รองรับ E85
ปรับโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่
*** ดูเพิ่มเติมราคา ฮอนด้าซีวิค
สีภายใน สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสีภายนอก
นายมาซายูคิ อิงาราชิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ งานปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า
“ฮอนด้า ซีวิค เป็นยนตรกรรมที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 ตลอดเวลาเกือบ 50 ปี ได้รับการพัฒนาและสร้างมาตรฐานใหม่มาอย่างต่อเนื่องในทุกเจเนอเรชัน โดยได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดขายมากกว่า 27 ล้านคัน ในมากกว่า 170 ประเทศ และวันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกนอกทวีปอเมริกาเหนือที่จะเปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ซีดาน ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ในฐานะตลาดที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียอีกด้วย”
นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ฮอนด้า ซีวิค ถือเป็นไอคอนของรถซีดานที่เติบโตคู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ซึ่งตลอด 37 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมทั้งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด พิสูจน์ได้จากการเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ ด้วยยอดขายสะสมเกือบ 600,000 คัน ด้วยดีเอ็นเอความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะการขับขี่ อีกทั้งครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์
ส่งผลให้ล่าสุด ฮอนด้า ซีวิค สามารถครองอันดับ 1 ในเซกเมนต์ถึง 5 ปีซ้อน และในวันนี้ ผมเชื่อมั่นว่า ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 จะเข้ามายกระดับคอมแพคท์ซีดานให้เหนือกว่าทุกรุ่นที่เคยมีมาอีกครั้ง ด้วยดีไซน์ที่สปอร์ตพรีเมียม ผสานสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมันด้วยขุมพลัง VTEC TURBO พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ที่จะมาสร้างตำนานบทใหม่ ให้สมกับเป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานที่ทุกคนรอคอย”
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ