อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ The New Audi A8 L ปี 2023 พรีเมียมซีดานหรู ระดับ First Class Lounge มีตัวเลือก 2 รุ่นย่อย Audi A8 L 55 TFSI quattro Premium และ Audi A8 L 55 TFSI quattro Prestige S line ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของ BMW Series 7 และ Mercedes Benz S-Class
Audi A8 L รถผู้บริหารขนาดใหญ่ที่สุด มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุด ความโดนเด่นที่นอกเหนือจากดีไซน์ภายในสุดหรูระดับ First Class Lounge ในปีนี้ The New Audi A8 L ปี 2023 ได้ถูกปรับปรุงดีไซน์ใหม่ โดยเฉพาะด้านหน้าและด้านท้าย ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมใหม่ที่นำมาใช้ในรถรุ่นแฟลกชิปนี้
อ่านเพิ่มเติม - Audi ปล่อยโปรฯ Motor Expo Campaign ถึง 30 ธันวาคม 2565 ให้ดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี
ตำนานความสำเร็จของ Audi A8 เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1994 โดย A8 ถูกพัฒนาต่อมาจาก Audi รุ่น V8 ซึ่งเป็นรถรุ่นที่มีความก้าวหน้าทางนวัตกรรมมากที่สุดในตลาดรถยนต์กลุ่มลักซ์ชัวรีซีดานในขณะนั้น
ต่อมา Audi A8 ก็ยังคงเป็นผู้บุกเบิกทางด้านนวัตกรรมใหม่ให้กับแบรนด์มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เจเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นล่าสุด ได้ถูกเปิดตัวในปี 2017 ซึ่งเป็นการเผยโฉม New design language เป็นครั้งแรก และได้ถูกนำไปใช้ในการพัฒนารุ่น Audi A8 L โฉมปัจจุบัน สำหรับในการปรับโฉมล่าสุดได้ถูกปรับปรุงให้มีความสวยงามทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เป็นที่ยอมรับในอุสาหกรรมรถยนต์ ความสะดวกสบายโดยเฉพาะพื้นที่เบาะนั่งด้านหลังที่เรียบหรูนั่งสบายดั่ง First class lounge ทำให้ Audi A8 L มีความสะดวกสบายที่เป็นเอกลักษณ์ตามคอนเซ็ปความพรีเมียมของรถยนต์ Audi และยังคงให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจเมื่อต้องการขับขี่แบบสปอร์ต
Audi A8 L ปี 2023 มีดีไซน์ที่ถูกออกแบบให้แตกต่าง เต็มเปี่ยมไปด้วยนิยามแห่งความมุ่งมั่น แสดงให้เห็นถึงความภูมิฐาน และความเป็นผู้นำ ในรุ่นปรับโฉมถูกดีไซน์ใหม่ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าแบบ singleframe ที่ถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับการตกแต่งที่โดดเด่นด้วยชุด Chromium ที่ดูหรูหรา
ดีไซน์ใหม่ของช่องดักอากาศที่มีความเด่นชัดมากขึ้น รวมถึงไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่ทำให้รถมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่นกว่าที่เคยเป็นมา รายละเอียดต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบใหม่ทำให้ Audi A8 L ปี 2023 มีความเรียบหรูเป็นสง่า สมกับเป็นรุ่นแฟลกชิป ของแบรนด์ Audi และมุมมองจากด้างข้างของตัวรถ มีดีไซน์ที่สวยสะดุดตา ด้วยหลังคาที่ลาดยาว และเส้นสายด้านข้างตัวรถทำให้เห็นถึงความยาวที่โดดเด่น ด้านท้ายของตัวรถมีเส้นสายที่ชัดเจนด้วยการตกแต่งด้วย Chromium คาดยาวตั้งแต่ฝั่งซ้ายจรดฝั่งขวาของตัวรถ
Audi A8 L ปี 2023 ไฟท้ายแบบ OLED พร้อมเอฟเฟกต์ไฟด้านหลัง A8 L signature ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามโหมดการขับขี่ เป็นการผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ตอย่างลงตัวด้วย S line exterior package ที่สามารถเพิ่มใน The New Audi A8 L ได้เป็นครั้งแรก โดยออกแบบให้มีความสปอร์ตมากขึ้น ด้วยช่องดักลม และ diffuser ดีไซน์ใหม่ที่มีความสปอร์ตมากขึ้นเช่นเดียวกับ รุ่น performance อย่าง Audi S8
โครงสร้างแบบ Audi Space Frame ซึ่งใช้ชิ้นส่วนอลูมิเนียมมากถึง 58 เปอร์เซ็นต์ และในส่วนของห้องโดยสารนั้น ผลิตด้วยเหล็ก Ultra-high strength steel (เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงแบบพิเศษ) ภายใต้คอนเซ็ปของโครงสร้างแบบ lightweight
ด้วยโครงสร้างของตัวรถที่มีการออกแบบมาอย่างลงตัว ทำให้โครงสร้างตัวรถของ Audi A8 L ปี 2023 มีความแข็งแรงสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ยังช่วยเสริมการควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่าย เพิ่มความสบายในการขับขี่ และเพิ่มความเงียบสงบของห้องโดยสาร
ไฟหน้าแบบ HD matrix LED และไฟเลี้ยวแบบ dynamic ที่เป็นจุดเด่นของการออกแบบของ Audi การดีไซน์ของไฟแบบใหม่นี้ สวยสะดุดตาไม่ว่าจะพบเห็นในช่วงกลางวันหรือกลางคืน ซึ่งไฟแบบ HD matrix LED ให้ความคมชัดมากขึ้น และสามารถส่องสว่างได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้นกว่าไฟแบบ matrix LED แบบธรรมดา อีกทั้ง HD matrix LED สามารถลดการแยงตาจากการส่องสว่างของไฟจากรถที่วิ่งสวนมา ด้วยการตรวจจับของกล้องบริเวณหน้ารถ โดยรถจะดับไฟเฉพาะจุดที่ส่องไปยังรถคันอื่น แต่ยังคงส่องสว่างไปยังจุดที่ไม่มีรถ
อีกหนึ่งอุปกรณ์ใหม่ของ The New Audi A8 L คือ digital OLED rear light พร้อมเอฟเฟกต์ไฟด้านหลัง A8 L signature เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งรูปแบบไฟท้ายสามารถปรับได้ 2 แบบ หากปรับโหมดการขับขี่เป็นแบบ Dynamic เมื่อมีวัตถุอื่นเข้ามาใกล้ในระยะ 2 เมตร ขณะที่รถจอดอยู่ ไฟ OLED ทั้งแผงจะติดขึ้นมาโดยอัตโนมัติอย่างชัดเจน เพื่อเตือนผู้ที่เข้ามาใกล้ ไฟเลี้ยวที่เป็นแบบ Dynamic ด้วย รวมไปถึงฟังก์ชัน Coming home หรือ leaving home ขณะดับเครื่อง และเปิด/ปิดล็อครถ
ภายในของ Audi A8 L ปี 2023 ถูกออกแบบมาให้กว้างขวาง ที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังสำหรับรุ่น Prestige S line จะเป็นเบาะแยกอิสระประดุจดั่ง First class lounge ที่ยังคงความเรียบหรูไว้ และมาพร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟังก์ชันที่ช่วยการผ่อนคลาย สำหรับผู้โดยสารตอนหลังด้านซ้าย ไม่ว่าจะเป็นที่พักเท้าแบบปรับไฟฟ้าเพื่อขยายพื้นที่พักเท้า ที่มาพร้อมระบบนวดเท้า และระบบอุ่นร้อน เบาะหลังปรับเอนได้ มาพร้อมระบบนวด 18 จุด pneumatic cushions และระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง มอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมีจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง Full HD แบบแยกอิสระ ที่ผู้โดยสารจะเพลิดเพลินกับระบบ streaming ต่างๆ โดยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต นอกจากนั้นแอร์หลังยังเป็นแบบ 4 โซน ซึ่งสามารถควบคุมผ่านจอ Tablet แบบ OLED ขนาด 5.7 นิ้ว
เพิ่มความนุ่มสบายด้วยวัสดุคุณภาพสูง โดยเฉพาะหนัง แบบ Valetta ในรุ่น Premium และหนัง Valcona ในรุ่น Prestige S line ซึ่งในรุ่น The New Audi A8 L นี้ มีสีภายในสีใหม่เข้ามา คือ สี Cognac brown ที่เพิ่มความพรีเมียมให้กับตัวรถมากขึ้น
จอแสดงผล Virtual cockpit ที่ทันสมัย แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญให้กับผู้ขับขี่ และยังสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงข้อมูลต่างๆ ตามความเหมาะสมได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง MMI Navigation plus หรือ Multi-media และ MMI touch response สามารถควบคุมได้ผ่านจอกลางขนาด 10.1 นิ้ว และขนาด 8.6 นิ้ว และยังสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องเสียง Bang&Olufsen Premium Sound System with 3D sound 17 ลำโพง 16-channel amplifier 730 watts ที่มีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Prestige S line โดยเครื่องเสียงให้เนื้อเสียงที่สมจริง เสมือนอยู่ใน concert hall
ระบบขับเคลื่อน mild hybrid หรือไฮบริดขนาดเล็กที่ใช้เสริมสมรรถนะในช่วงออกตัว ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro มอบความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ และเกียร์ Tiptronic 8 จังหวะ สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว และนุ่มนวล แล้วยังสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้แม้เครื่องยนต์ดับอยู่ด้วยการทำงานของ electric oil pump
สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 7.2-11.0 L/100 กิโลเมตร และอัตราปล่อย CO2 เพียง 197 กรัม/กิโลเมตร
ระบบช่วงล่าง ของ Audi A8 L ปี 2023 เป็นแบบ Adaptive air suspension ที่ทำให้รถมีเสถียรภาพในการขับขี่สูง และยังสามารถผสมผสานกับโหมดการขับขี่แบบสปอร์ตที่ยังคงความนุ่มนวลในการขับขี่ได้อย่างลงตัว ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ใน Audi drive select ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบผ่อนคลายหรือขับขี่แบบสปอร์ตก็สามารถเลือกได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
Audi A8 L 55 TFSI quattro Premium เป็นรุ่นเริ่มต้นแต่เน้นถึงความเรียบหรูด้วยกระจังหน้า ขอบคิ้วต่าง ๆ เป็นสี Chromium พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่มีมาให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ล้อขนาด 20 นิ้ว แบบ 10 spoke, หลังคาตกแต่งด้วย Dinamica microfiber, หลังคา Panoramic, ไฟหน้า LED พร้อมระบบ high beam assist, ไฟท้ายแบบ OLED พร้อมฟังก์ชัน Light staging แบบ A8 L signature, ระบบช่วยผ่อนแรงเมื่อปิดประตู, ภายในตกแต่งด้วย Gray Brown Natural Fine Grin Ash, เบาะหนังแบบ Valetta พร้อมระบบอุ่น, ระบบแอร์แยก 4 โซน, จอ Virtual cockpit 12.3 นิ้ว, จอ MMI Navigation plus 10.1 นิ้ว, จอ Multi-function ขนาด 8.6 นิ้ว, จอรีโมทแบบมัลติฟังก์ชัน สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอ OLED แบบสัมผัสขนาด 5.7 นิ้ว และ Head-up display
มีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ Glacier white metallic, Mythos black metallic และ Vesuvius grey metallic จับคู่กับภายในสีดำ และสีภายนอก Terra grey metallic จับคู่กับภายในสี Sard Brown
Audi A8 L 55 TFSI quattro Prestige S line เป็นรุ่นท็อปมาพร้อมกับ ชุดแต่งพิเศษ S line ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ Audi ได้บรรจงสรรสร้างชุดแต่งแบบสปอร์ต S line ให้กับรถรุ่น A8 พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ล้อขนาด 20 นิ้ว แบบ 20 spoke, หลังคาตกแต่งด้วย Dinamica microfiber, หลังคา Panoramic, ไฟหน้า HD Matrix LED พร้อมฟังก์ชัน Light staging แบบ Coming home/Leaving home, ระบบ high beam assist, ไฟท้ายแบบ OLED พร้อมฟังก์ชัน Light staging แบบ A8 L signature, ระบบช่วยผ่อนแรงเมื่อปิดประตู
ภายในตกแต่งด้วย Piano Black, เบาะหนังแบบ Valcona ระบบนวดเพื่อการผ่อนคลาย และระบบอุ่นร้อนสำหรับเบาะนั่งคู่หน้า ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังเป็นเบาะหลังแบบแยกอิสระ สามารถปรับเอนได้, ที่พักเท้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลังซ้ายแบบปรับไฟฟ้าเพื่อขยายพื้นที่พักเท้า พร้อมฟังก์ชันนวดเท้าเพื่อการผ่อนคลาย และระบบอุ่นร้อน, คอนโซลกลางแบบ First class พร้อมไฟอ่านหนังสือแบบ Matrix LED, ระบบแอร์แยก 4 โซน, ระบบเครื่องเสียง 3 มิติ Bang&Olufsen, จอ Virtual cockpit 12.3 นิ้ว, จอ MMI Navagation plus 10.1 นิ้ว, จอ Multi-function ขนาด 8.6 นิ้ว, Head-up display, จอรีโมทแบบมัลติฟังก์ชัน สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอ OLED แบบสัมผัสขนาด 5.7 นิ้ว, ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง Full HD ขนาด 10.1 นิ้ว แบบแยกอิสระ และรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ Glacier white metallic และ Mythos black metallic สามารถเลือกจับคู่กับสีภายในได้ถึง 3 สี คือ Pearl, Black และ Cognac Brown ส่วนสีภายนอก Vesuvius grey metallic สามารถเลือกจับคู่กับภายในได้ 2 สี คือ Pearl และ Black
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ อาวดี้ ประเทศไทยกล่าวว่า
“ตลอดปีที่ผ่านมา อาวดี้ ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่กว่า 6 รุ่น ครอบคลุมหลากหลายเซกเมนต์และโค้งสุดท้ายของปีก่อนจะเข้าสู่งาน Thailand International Motor Expo 2022 อาวดี้ ประเทศไทย ถือโอกาสในการเปิดรถรุ่นแฟลกชิป คือ The New Audi A8 L ซึ่งถือเป็นรถในกลุ่มลักซ์ชัวรีที่สะท้อนวิสัยทัศน์แห่งความเป็นผู้นำยุคใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ”
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ