"อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนไทย"หายใจโล่งขึ้น สหรัฐฯชี้ไม่อยู่ในข่ายถูกกดดัน

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 29 พ.ค 2562
แชร์ 1

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยสหรัฐฯ ไม่จัดไทยอยู่ในกลุ่มประเทศต้องเจรจาส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์เข้าเมืองลุงแซม เหตุมีผลกระทบน้อย ส่วนภาคเอกชนไทยโล่งอกดำเนินธุรกิจส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ต่อไปได้

"อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนไทย"หายใจโล่งขึ้น สหรัฐฯชี้ไม่อยู่ในข่ายถูกกดดัน 

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานับได้ว่า กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนในบ้านเราต้องเกิดข้อกังวลอยู่ไม่น้อยทีเดียว เพราะท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่แอคชั่นล่าสุดเกี่ยวกับวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลก ก็อาจจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยด้วย

เพราะประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่ง ดีให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ดำเนินการเจรจาทำความตกลงกับประเทศที่ส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนมายังตลาดสหรัฐฯ โดยเฉพาะกับสหภาพยุโรป (อียู) ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ และป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยให้รายงานผลภายใน 180 วัน

หนาวๆ ร้อนๆ กันไป แต่สุดท้ายก็มีข่าวดีกับวงการอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของบ้านเรา

หนาวๆ ร้อนๆ กันไป แต่สุดท้ายก็มีข่าวดีกับวงการอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของบ้านเรา 

คำสั่งนี้ย่อมหมายถึงว่า สหรัฐฯ ต้องการบีบรัดประเทศอื่นๆ ที่ส่งชิ้นส่วนต่างๆ ของรถยนต์เข้ามาภายในประเทศในเชิงการค้า เพื่อต้องการสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนในสหรัฐฯ ให้เข้มแข็งขึ้นนั่นเอง และแน่นอนว่าประเทศไทยเองก็มีอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนที่ส่งไปดินแดนลุงแซมเหมือนกัน

แต่ล่าสุดกับความคืบหน้าเรื่องนี้ที่อาจมีผลกระทบกับตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ของบ้านเรา ก็ได้รับคำตอบของความคืบหน้าที่อาจจะมีท่าทีผ่อนคลายความกังวลออกไปบ้าง เพราะ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ก็ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน

การกดดันที่เกิดขึ้นจากฝั่งสหรัฐฯ เพราะมองว่ามีการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศอื่นมากเกินไป จึงขอให้มีการเจรจากันใหม่

การกดดันที่เกิดขึ้นจากฝั่งสหรัฐฯ เพราะมองว่ามีการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศอื่นมากเกินไป จึงขอให้มีการเจรจากันใหม่ 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ออกมาเปิดเผยถึงคำสั่งของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ที่อาจมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของบ้านเราว่า ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ให้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ไปเจรจาจัดทำความตกลงกับอียู และญี่ปุ่น รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่เห็นว่าจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ในเรื่องยานยนต์และชิ้นส่วน โดยให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เท่าที่ตรวจสอบดูนับเป็นข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของไทย เพราะไม่มีรายชื่ออยู่ในประเทศที่สหรัฐฯ ระบุไว้ในเป้าหมาย และคาดว่าไม่น่าจะอยู่ในเป้าหมาย แม้ตรงประเทศอื่นๆ สหรัฐฯ สามารถที่จะพูดคุยกับใครก็ได้ แต่ไทยไม่น่าจะอยู่ในนั้น เพราะไม่ได้มีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ มาก

ดูเพิ่มเติม
>> 
จีนคือเหตุผลหลัก ปี 62 กำไรตลาดรถยนต์โลกส่อหดตัว
>> การคลังเตรียมรื้อภาษีรถยนต์ใหม่ พร้อมตั้งทีมเอกชนดันรถยนต์ EV

"ในส่วนรายการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งสหรัฐฯ มองว่ามีการนำเข้าเพิ่มมากขึ้น คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุกขนาดเล็ก ชิ้นส่วนยานยนต์ประเภทเครื่องยนต์และชิ้นส่วนระบบส่งกำลังและชิ้นส่วนไฟฟ้า เป็นต้น และทั้งหมดไทยเองอยู่ในสัดส่วนที่ส่งออกไปน้อย จึงไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่ต้องเจรจากับสหรัฐฯ" ข่าวดีที่ยืนยันโดย อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ออกมาจากหน่วยงานของรัฐแล้ว นางอรมน ก็สะท้อนอีกว่า จากการพูดคุยกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ส่วนใหญ่ไม่ได้มีข้อกังวลมากนัก แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด แต่กับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสหรัฐฯ และไทยเอง ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบกับเรื่องชิ้นส่วนยานยนต์มากนัก เพราะส่วนหนึ่งเราก็ส่งออกไปสหรัฐฯ น้อยอยู่แล้วด้วย

"สำหรับผลการตรวจสอบส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ของสินค้าไทย พบว่าในปี 2561 ไทยส่งออกยานยนต์ไปสหรัฐฯ มูลค่า 230.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับที่สหรัฐฯ นำเข้าจากทั่วโลกมีมูลค่า 2.08 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 0.1% และชิ้นส่วนยานยนต์ (ไม่รวมยางล้อ) ส่งออกมูลค่า 1,296.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับที่สหรัฐฯ นำเข้าจากทั่วโลกมูลค่า 138,991.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 0.9% ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการนำเข้ารวมของสหรัฐฯ" นางอรมน กล่าว 

การกดดันต่อวงการชิ้นส่วนยานยนต์ เพราะสหรัฐฯ เองต้องการให้อุตสาหกรรมนี้เข้มแข็งขึ้นได้ในประเทศตัวเอง

การกดดันต่อวงการชิ้นส่วนยานยนต์ เพราะสหรัฐฯ เองต้องการให้อุตสาหกรรมนี้เข้มแข็งขึ้นได้ในประเทศตัวเอง

นับเป็นข่าวที่ดีต่อวงการอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทยอยู่ไม่น้อย เพราะเราเองก็ไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่สหรัฐฯ จับตามองเรื่องชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อส่งออก และยังทำให้ตลาดรถของสหรัฐฯ ที่ต้องการชิ้นส่วนการผลิตจากบ้านเราก็ยังคงเดินหน้าส่งออกได้ต่อไป และแม้มันจะมีสัดส่วนที่น้อยดั่งที่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลมา แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ส่งอะไรไปเลย

ดูเพิ่มเติม
>> 
3 ค่ายยักษ์ญี่ปุ่นชะลอ “อีโคอีวี” ในตลาดรถเมืองไทย
>> วิเคราะห์ตลาดรถไทย โตดี 2 เดือนแรก แต่ส่งออกต้องจับตา 

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

JAIBOON