ตำรวจตามจับ 2 สาวแสบตระเวนหาเหยื่ออยากขายรถยนต์ติดไฟแนนซ์ หลอกไม่ต้องเปลี่ยนสัญญาแต่จะผ่อนต่อให้หมด ก่อนได้รถส่งนายทุนไปขายต่อตามเพจ-เว็บไซต์ เสียหาย 30 ล้านบาท
ข่าวใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถยนต์ แต่มันเป็นการซื้อขายกันแบบ "ผิดกฎหมาย" ในตลาดรถบ้านเรา จนสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น และนำไปสู่การจับกุมของตำรวจ
เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ได้แถลงการจับกุม สองผู้ต้องหาที่เป็นหญิงชาวไทย คือ น.ส.ชมพูนุท พงศธรพิพัฒน์ อายุ 32 ปี และ น.ส.ปวริศา หรือ ภัทธนันท์ นาครอด สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 260/2562 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2562 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง" โดยสามารถจับกุมตัว น.ส.ชมพูนุท ที่บริเวณหน้าห้องพักคนงานบริษัทก่อสร้าง ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ส่วน น.ส.ปวริศา จับกุมตัวได้ที่ จ.ชุมพร
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง กำลังอธิบายถึงขบวนการหลอกซื้อรถยนต์ที่จับกุมได้
ทั้งนี้ ตำรวจเปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังชุดสืบสวนของตำรวจตรวจคนเข้เมืองจังหวัดจันทบุรี ได้รับการประสานมาจากตำรวจสภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ว่ามีคนร้ายเป็นผู้หญิง ไปหลอกลวงผู้เสียหายถึง 87 ราย โดยมีพฤติกรรมก่อเหตุด้วยการออกตระเวนไป "ซื้อดาวน์รถยนต์" กับประชาชนที่ยังผ่อนค่างวดกับไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงินต่างๆ ไม่ครบ แต่ก็ต้องการขายรถแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียหายเหล่านี้ได้โพสต์ขายรถยนต์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ และคนร้ายเมื่อทราบแหล่งที่อยู่ของผู้เสียหาย ก็จะตระเวนไปทำทีและอ้างว่าจะรับซื้อเอง
จากนั้น จะอ้างกับผู้เสียหายว่า "ไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนสัญญา" หรือ "ไม่ต้องทำสัญญา" และรับปากกับผู้เสียหายว่าจะผ่อนค่างวดรถยนต์ต่อกับไฟแนนซ์ให้หมด จึงจะติดต่อเพื่อให้ทำการเปลี่ยนสัญญาให้ แต่เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและให้รถยนต์กับคนร้ายไปแล้ว ก็หนีหายไปในทันที
ดูเพิ่มเติม
>> 5 เอกสารสำคัญที่ “คนขายต้องรู้” หากจะขาย “รถบ้านมือสอง”
>> 7 คำถามยอดฮิตกับ "รถบ้านเจ้าของขายเอง" ที่ก่อนซื้อก่อนขายก็ต้องรู้
แผนผังของคนร้ายที่จับกุมได้ ซึ่งตำรวจจะขยายผลต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า คนร้ายทั้งสองจะตระเวนไปซื้อดาวน์รถยนต์ หรือรถยนต์ติดไฟแนนซ์ โดยเน้นผู้เสียหายที่ต้องการขายรถ แต่เมื่อได้รถมาก็จะเอารถไปส่งต่อให้กับนายทุนที่ต้องการรถยนต์ไปขายต่อ ซึ่งนายทุนเหล่านี้ทราบว่าอยู่ในพื้นที่จ.กาญจนบุรี และบางส่วนก็เอาไปขายต่อยังต่างประเทศในแถบเพื่อนบ้านเราด้วย และคนร้ายทั้งสองรายจะได้รับค่าจ้างโดยคิดเป็นคันๆ ละ 3,000-10,000 บาท ก่อนที่จะมาถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
"นายทุนจะนำรถดังกล่าวไปขายในเพจรถ หลุดจำนำ หรือ ชำแหละขายเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ ส่งขายให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย" พล.ต.ท.สมพงษ์ อธิบายถึงพฤติกรรมคนร้าย และย้ำด้วยว่าจะมีการสืบสวนขยายผลไปถึงนายทุนและผู้ร่วมก่อเหตุอีกต่อไป เพราะเชื่อว่ายังมีเพื่อนร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีอยู่ด้วย
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบและสอบปากคำสองผู้ต้องหา ก็รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุหลอกผู้เสียหายไป 87 ราย มูลค่าความเสียหาย กว่า 30 ล้านบาท นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยังพบว่ามีหมายจับติดตัวอยู่หลายหมาย
ใครจะขายรถยนต์ต้องระวังให้ดี และต้องเลือกกับแหล่งขายรถที่ไว้ใจได้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อได้
ท้ายสุดตำรวจฝากเตือนมายังเจ้าของรถยนต์ที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่และต้องการขายรถ จะต้องทำสัญญาการซื้อขายให้ครอบคลุมและรอบคอบ อีกทั้งเมื่อได้เงินจากการขายรถยนต์แล้วหากรถยนต์ยังติดค่างวดรถอยู่จะต้องนำไปปิดบัญชีค่างวดในทันที แต่หากพบเห็นพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว หรือพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 ได้ทันที
ดูเพิ่มเติม
>> เช็คให้ชัวร์! ก่อนจะซื้อรถยนต์ 5 ข้อควรระวังเมื่อทำสัญญาซื้อขายรถยนต์
>> พาณิชย์ออกประกาศ “รถยนต์ใช้แล้ว” ห้ามนำเข้า เว้นแต่ได้รับอนุญาต
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้