บิ๊ก “Mitsubishi” ชี้ปรับฐานยูโร 5 ส่อทำรถยนต์ต้องขึ้นราคา

คล้อยหลังไม่ทันไร ก็เกิดกระแสขึ้นมาทันทีในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์ของตลาดรถประเทศไทย เพราะหลังจากที่ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประกาศว่า จะเตรียม เร่งรัดให้การผลิตรถยนต์ใหม่ที่จะออกมาสู่ท้องตลาดให้กับผู้บริโภค จะต้องผ่านเกณฑ์ Euro 5 ภายใน 2 ปี พลันที่กระแสข่าวจากภาครัฐออกมา ภาคเอกชนในฐานค่ายผู้ลิตรถยนต์ก็ออกมาแอคชั่นกันแล้ว

เพราะการปรับเปลี่ยนเชิงบังคับจาก สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ที่จะปรับมาตรฐานไอเสีย หรือที่เรียกกันในวงการว่า ยูโร จากเดิมที่ใช้กันคือมาตรฐานยูโร 4 เป็นยูโร 5 เหตุผลก็เพราะว่าปัญหาฝุ่นพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ปกคลุมเมืองกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุน ให้ประชาชนหันมาใช้ "รถยนต์"ที่มีมาตรฐานมากขึ้นเพื่อสภาพแวดล้อมที่ดี

แต่การปรับเปลี่ยนก็ต้องมี “ค่าใช้จ่าย” ตามมาด้วย และสิ่งนี้เองที่ค่ายรถยนต์เริ่มหนาวๆ ร้อนๆ

Mitsubishi  นับเป็นเจ้าแรกที่ออกมาพูดหลังรัฐบาลเตรียมปรับมาตรฐานไเสียใหม่ 

อย่างพลันล่าสุดที่ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องมาตรฐานยูโร 5 จาก โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใกญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ก็ออกมาให้ความเห็นกับเรื่องนี้ว่า อยากให้รัฐบาลไทยพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนมาตรฐานไอเสียจากยูโร 4 เป็นยูโร 5 เพราะมันเกี่ยวข้องกับต้นทุนภาคการผลิต และประโยชน์ของผู้บริโภคที่เป็นสำคัญ เนื่องจากหากมีการปรับเปลี่ยนมาตรฐานใหม่ ก็จะมีต้นทุนในการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น

ดูเพิ่มเติม 
>> Five Fact : Mitsubishi Triton ไมเนอร์เชนจ์ 2019 กับ 5 จุดไฮไลท์ ใช้ทะลวงยอดขาย ชิงที่ 3 ตลาดกระบะ
>> เม้าท์มอยกันกับ Mitsubishi Triton 2019 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่! ช่วงล่างเจ๋งจริงหรือไม่ตามไปส่องกัน

สิ่งที่บิ๊ก มิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทย ทิ้งความเห็นลงมา มันหมายความว่า หากรัฐบาลเห็นชอบกับมาตรฐานใหม่นี้ อนาคตอันใกล้ใครจะซื้อรถยนต์ใหม่อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มจากปัจจุบันนั้นอง

โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใกญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) 

มาตรฐานยูโร 5 ของไอเสีย อาจทำให้ราคารถยนต์ในอนาคตสูงขึ้น 

“แต่ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีความชัดเจนว่าจะปรับเปลี่ยนมาตรฐานกันจริงๆ มิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทย ก็พร้อมจะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทย หากเล็งเห็นว่าเรื่องการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ เป็นแนวทางที่ถูกต้องในการสนับสนุนการเปลี่ยนมาตรฐานไอเสีย” นั่นคือคำพูดของ เบอร์หนึ่งรถยนต์มิตซูบิชิในบ้านเรา

สำหรับ Mitsubishi นั้น โมริคาซุ สะท้อนว่า ปัจจุบันฐานการผลิตรถยนต์ของค่ายในประเทศไทยจะเน้นเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ และแต่ละประเทศที่ส่งออกไปนั้น ก็มีมาตรฐานยูโรตามที่แต่ละประเทศกำกหนดเอาไว้อยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มประเทศทางทวีปยุโรป ซึ่งเป็นมาตรฐานยูโร 6 อีกด้วย

แต่อีกสิ่งที่ Mitsubishi ยอมรับคือ รถยนต์กระบะของค่าย ยังไม่รองรับดีเซล บี20 

แม้จะยังไม่พร้อมมากนักสำหรับมาตรฐานใหม่ แต่ Mitsubishi ก็พร้อมหนุนนโยบายรัฐบาลไทยเต็มที่ 

และในส่วนเครื่องยนต์ดีเซลนั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยก็ยอมรับว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังไม่สามารถรองรับน้ำมันดีเซล บี 20 อย่างที่รัฐบาลต้องการให้รถยนต์เติมกัน เพื่อลดปัญหาควันดำควันพิษ แต่การปรับเปลี่ยนการผลิตรถยนต์กระบะที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ก็ต้องจับตาดูไปที่นโยบายอีกครั้ง  และทางมิตซูบิชิเองก็เข้าใจว่า การสนับสนุนให้ใช้น้ำมันดีเซล บี 20 รัฐบาลต้องการสนับสนุนในรถบรรทุกเป็นอันดับแรก และการใช้น้ำมันดีเซล บี20 ในประเทศไทยก็ยังไม่แพร่หลายมากนัก

“ภาพรวมสำหรับปี 2562 คาดว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะทรงตัว โดยมียอดขายรวมกันที่ 1.04 ล้านคัน ขณะที่มิตซูบิชิเองสำหรับตลาดในประเทศไทย ก็ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากเดิม 8% เป็น 9% หรือราว 9 หมื่นคัน โดยแรงบวกจะมาจากการเปิดตัวรถยนต์ของค่าย 7 รุ่น ส่วนการส่งออกคาดว่าจะเท่ากับปี 2561 คืออยู่ที่จำนวนไม่ต่ำกว่า 3.47 แสนคัน” โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ทิ้งท้าย

>>> ดูเพิ่มเติม ราคารถยนต์ มิตซูบิชิ

เป้ายอดขายของ Mitsubishi ในประเทศไทย คือต้องไม่ต่ำกว่า 9 หมื่นคัน น่าสนใจว่าจะไปถึงได้หรือไม่ 

Mitsubishi ถือเป็นเจ้าแรกที่ออกมาพูดเกี่ยวกับมาตรฐานไอเสียใหม่ หรือยูโร 5 ของประเทศไทย โดยประเด็นสำคัญคือหากมีการปรับเปลี่ยนมาตรฐานนั้น อาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ต้องขยับขึ้นตาม และนั่นย่อมหมายถึงราคาสุดท้ายของรถยนต์ก่อนถึงมือผู้บริโภค ก็ต้องพุ่งขึ้นตามไปอีกด้วย

ดูเพิ่มเติม 
>> Mitsubishi ประเทศไทย เปลี่ยนโฉมศูนย์ให้บริการใหม่ทั่วประเทศ
>> ท้าชน! Suzuki Ertiga 2018 vs Mitsubishi Xpander 2018 คันไหนดี?

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้