หมวกกันน็อก มีส่วนช่วยอย่างมากในเรื่องความปลอดภัย ลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้อย่างดี แต่ผู้ขับขี่ต้องรู้เทคนิคการเลือกหมวกกันน็อกด้วย เลือกใช้แบบไหนจะปลอดภัย ?
หมวกกันน็อก เป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญมากสำหรับผู้ขับขี่ โดยเฉพาะผู้ใช้รถจักรยานยนต์และบิ๊กไบค์ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา หมวกกันน็อกจะกลายตัวช่วยสำคัญในการลดความรุนแรงของการบาดเจ็บศีรษะและสมอง ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของผู้ขับขี่และคนซ้อนท้ายได้อีกด้วย
จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ระบุไว้ว่า หมวกกันน็อก ช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บศีรษะและสมองได้มากถึง 69% และอีก 39% ช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตของคนขับและคนซ้อน
หากไม่สวมหมวกกันน็อกขณะขับขี่ อาจได้เสียค่ารักษาพยาบาลมากกว่าผู้สวมหมวกกันน็อกถึง 3 เท่า โดยคนขับมีโอกาสเสียชีวิตถึง 92.8% คนซ้อนท้ายเสี่ยงต่อการเสียชีวิต มากถึง 96.8% และมีโอกาสบาดเจ็บทางศีรษะ อีก 65%
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงควรใส่หมวกกันน็อกขณะขับขี่ และควรเลือกหมวกกันน็อกให้เหมาะสมพร้อมสวมใส่อย่างถูกต้อง โดยมีคำแนะนำ ดังนี้
1. ควรเลือกหมวกแบบปิดเต็มหน้า ซึ่งจะช่วยป้องกันศีรษะทั้งด้านหน้าและด้านหลังไม่ให้กระแทกกับพื้น ช่วยลดการบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและคางได้
2. ส่วนเปลือกนอกของหมวกต้องมีความแข็ง และมีน้ำหนักเบา เพื่อป้องกันศีรษะขณะเกิดอุบัติเหตุ
3. แผ่นกันลมที่จะช่วยปกป้องใบหน้าจากฝุ่น ฝน แมลง และแสงขณะขับขี่ ต้องสามารถถอดเปลี่ยนได้
4. ตัวรองใน ต้องมีความยืดหยุ่น หนาแน่น และอ่อนนุ่มเพื่อรองรับผิวหน้าผู้ขับขี่ และช่วยกระจายแรงกระแทก
5. ต้องมีสายรัดใต้คาง ผู้ขับขี่ควรใส่ให้กระชับ รัดให้พอดีกับใบหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้หมวกจะกระเด็นออกจากศีรษะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
6. ต้องมีเครื่องหมายการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
7. หากหมวกกันน็อกได้รับแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เนื่องจากแผ่นรองรับแรงกระแทกได้ถูกใช้งานไปแล้ว ไม่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ซ้ำอีก
8. ควรเปลี่ยนทุก 3 ปี นับจากวันผลิต เพราะเนื้อโฟมจะเสื่อมสภาพลงจากการใช้งาน อาจรองรับแรงกระแทกได้ไม่ดี หรือเมื่อกระแทกแล้วอาจยุบตัวผิดรูป
9. การเลือกหมวกกันน็อกให้เด็ก ควรเลือกหมวกที่มีสายรัดคาง รูระบายอากาศ ช่องฟังเสียง ที่บังลมโปร่งแสง มีซับด้านในหนาแน่น มีขนาดพอดีกับศีรษะเด็ก ใส่แล้วกระชับ ไม่หลวมจนเกินไป และมีสีสันสดใส มองเห็นได้ชัดเจนในตอนกลางคืน
อ่านเพิ่มเติม >>
จากการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา หากมีผู้ใดฝ่าฝืนกฎจราจร ขับขี่รถโดยไม่สวมใส่หมวกกันน็อก จะต้องถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท และถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ 1 คะแนน
อย่าลืมสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งก่อนขับขี่ เพราะนอกจากจะเป็นการรักษากฎจราจร ไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่ปรับแล้ว ยังช่วยในเรื่องความปลอดภัยได้อย่างดี ลดอาการบาดเจ็บทางศีรษะและสมอง ไปจนถึงลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตของทั้งผู้ขับขี่และคนซ้อนได้
ข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก
หากสนใจรถมือสอง ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chobrod.com
แหล่งซื้อขายรถยนต์ มือสอง ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ