เสี่ยงรถพัง! ถ้าสตาร์ทรถผิดวิธี
ประสบการณ์ใช้รถ |
11 ก.ค 2560
การสตาร์ทรถ ในปัจจุบันนั้น พัฒนาไปถึงการสตาร์ทเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสด้วยปุ่ม Push Start กันแล้ว แต่ก็ยังมีรถยนต์อีกมาก ที่ยังใช้วิธีสตาร์ทด้วยกุญแจอยู่ และแน่นอนว่าหลายคนมองว่าการสตาร์ทรถ เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่เห็นต้องมีวิธีอะไรมากมาย แต่ถ้าหากคุณทำผิดวิธีบ่อยครั้งเข้า มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ที่เสี่ยงรถพังได้เลย
สตาร์ทรถถูกวิธี ไม่เสี่ยงรถพัง
1. เสียบกุญแจ เพื่อสตาร์ทรถ
อันดับแรก เสียบกุญแจเข้าไปที่ตำแหน่งแรก คือตำแหน่ง Lock จากนั้นบิดไปทางขวาที่ตำแหน่ง ACC ตำแหน่งสำคัญ ที่เป็นการเปิดระบบไฟฟ้าในรถให้ทำงาน ตอนนี้ คุณสามารถเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องเสียงได้ในตำแหน่งนี้ บิดไปทางขวาอีกครั้งเพื่อ Start เครื่องยนต์ให้ทำงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องจำให้มั่น คือ ขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ไม่ควรกดกุญแจลงไปอีก เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
2. อุ่นเครื่องยนต์สักพัก ประมาณ5 -10 นาที
หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า หลังจากสตาร์ทรถ ไม่ควรขับออกไปทันที นั่นเพราะ ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำมันเครื่อง และระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ การขับรถออกไปทันที สร้างการเสียหายต่อรถหลายอย่าง เช่น ลูกสูบอาจติด หัก หรืองอได้ และไม่ควรเหยียบคันเร่งขณะสตาร์ทรถ เพราะจะทำให้เครื่องยนต์กระตุกและอาจสำลักน้ำมันได้ ฉะนั้นเราควรวอร์มเครื่องยนต์ก่อน ประมาณ 5 -10 นาที หรือจนสัญญาณไฟรูปเทอร์โมมิเตอร์บนหน้าปัทหายไป หมายถึง อุณหภูมิเครื่องยนต์วอร์มเต็มที่แล้ว จึงสามารถขับรถออกไปได้
สตาร์ทรถถูกวิธี ไม่เสี่ยงรถพัง
การดับเครืองทันที เมื่อทำการจอดรถเสร็จ เป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์อย่างมาก เปรียบเสมือนคนเราที่ออกกำลังกายเสร็จ แล้วนอนเลยนั่นแหละครับ ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก ดังนั้น สิ่งที่ควรทำ คือ จอดรถไว้สักครู่ เพื่อให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์ลดลงหลังจากขับมาเป็นเวลานาน แล้วค่อยดับเครื่อง
การสตาร์ทรถ ก็เป็นสิ่งเล็กๆ ที่สำคัญ ที่เราไม่ควรมองข้าม เพียงแค่หมั่นดูเเลใส่ใจกับสตาร์ทสักนิด เท่านี้รถของคุณ ก็จะสามารถใช้งานไปได้อีกนานเลยล่ะครับ
>> ดูเพิ่มเติม:
ติดแก๊สดีไหม? กับ 5 ข้อเสียที่คุณควรทราบ ก่อนติดแก๊ส
ถ้าอยู่ๆรถเกิดดับกลางทาง จะแก้ปัญหาอย่างไร มาดู!!
เรื่องเบรค เรื่องใหญ่!! อาการบอกเหตุ เมื่อเบรคมีปัญหา
