ดูแลรถหน้าฝน 6 อุปกรณ์ต้องเช็กก่อนเดินทาง

ช่วงหน้าฝนเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นอุปสรรคในการโดยสารรถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเจอปัญหาเรื่องของสภาพแวดล้อมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ระหว่างการเดินทางแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่รถของคุณจะต้องเจอปัญหาขณะขับขี่อีกด้วย ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดฝันจากการใช้รถใช้ถนน มาเช็กกันกับ 6ของต้องเช็กในการขับขี่รถหน้าฝนนี้

ที่ปัดน้ำฝน

เชื่อว่าเป็นสิ่งแรกแน่นอนที่ทุกคนจะต้องคิดถึงกับอุปกรณ์ประจำรถที่จำเป็นมากในหน้าฝนนี้ เพราะเมื่อไหร่ที่ฝนได้ตกขึ้นมาระหว่างทาง ที่ปัดน้ำฝนจะต้องได้เริ่มทำงานขึ้นมาในทันที

ดูแลรถหน้าฝน ที่ปัดน้ำฝนสำคัญมาก

ซึ่งมันไม่ได้ทำหน้าที่แค่ปัดน้ำฝนเท่านั้น เพราะครอบคลุมไปยังการดูแลป้องกันทุกอย่างที่เข้ามารบกวนทัศนวิสัยในการเดินทาง ยิ่งในหน้าฝนนี้สิ่งที่มาแปะติดกระจกอาจจะมีทั้งฝุ่น โคลน หรือเศษใบไม้ ดังนั้นทั้งที่ปัดน้ำฝนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเช่น ใบพัด ขอบยาง หรือน้ำยาฉีดกระจกจึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษในหน้าฝนนี้

หากปัดกระจกแล้วขึ้นคราบหรือเป็นรอย แสดงว่ายางเสื่อมให้ทำการเปลี่ยนใหม่

สำหรับยางปัดน้ำฝนควรเปลี่ยนทุก 1 ปี ซึ่งในระหว่างการใช้งานช่วงหน้าฝนนี้ ให้เช็กดูว่าเมื่อเปิดให้ทำงาน จะขึ้นคราบน้ำเป็นเส้น ๆ ปัดแล้วไม่สะอาดหรือไม่ หรือเกิดเสียงดังในขณะใช้งาน นั่นหมายความว่ายางเสื่อมสภาพและควรได้รับการเปลี่ยนโดยทันที และหลังจากที่ใช้งานเสร็จต้องทำความสะอาดด้วย เพราะหากปล่อยให้แห้งไปเองจะทำให้เมื่อกลับมาใช้งานอีกครั้งสิ่งสกปรกที่ติดอยู่เดิมก่อนหน้าจะขูดขีดให้กระจกรถเป็นรอยได้นั่นเอง

ยางขอบประตู

ยางขอบประตูรถมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไม่ให้น้ำ เสียง และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เล็ดลอดเข้ามาระหว่างช่องว่างช่วงรอยต่อขอบบริเวณต่าง ๆ ของรถ ซึ่งนอกจากยางขอบประตูสามารถเกิดอาการเสื่อมได้ในสภาวะแดดร้อนจัด ก็สามารถเกิดการเสื่อมสภาพได้ในช่วงหน้าฝนนี้ด้วยเช่นกันด้วยความชื้นที่เกิดจากการสะสมน้ำ

เช็กขอบยางให้ชัวร์ ป้องกันว่าน้ำรั่วซึมหรือไม่

หลังผ่านการเดินทางไกลที่หนักหน่วง ลองตรวจสอบยางขอบประตูทุกบานว่ามีคราบฝุ่น คราบน้ำแอบฝังอยู่หรือไม่ ด้วยการฉีดน้ำใส่และหากพบว่ามีน้ำซึมเข้ามายังบริเวณห้องโดยสาร หรือทดสอบระหว่างขับรถ ถ้ามีเสียงหวีดเล็ดลอดเข้ามามากขึ้นในขณะที่เพิ่มความเร็วมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ในสันนิษฐานว่ายางเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ให้ทำการเปลี่ยนก่อนออกเดินทางโดยด่วน ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้วยางขอบประตูจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปีขึ้นไป

ยางรถยนต์

ในช่วงหน้าฝนนี้ ยางรถยนต์จะทำงานหนักมากกว่าปกติ เพราะต้องเผชิญกับสภาวะถนนที่ไม่คงที่ ทั้งน้ำขัง เป็นหลุมบ่อ ซึ่งอาจเสี่ยงให้เกิดการเสื่อมสภาพของยางได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นหมั่นเช็กสภาพยางเพื่อให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพการใช้งาน เพราะหากเกิดการสึก หรือในสภาพที่เสื่อมอาจก่อให้เกิดอันตรายในขณะขับขี่ได้

ในช่วงหน้าฝน ยางรถยนต์จะถูกใช้งานหนักมากขึ้น

ตรวจสอบได้ด้วยการเช็กหน้ายางว่าดอกยางอยู่ในสภาพที่ยังใช้งานไหม มีรอยสึกหรือไม่ ซึ่งหน้ายางควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 3-4 มิลลิเมตรเป็นอย่างต่ำ และลมยางเองก็มีความสำคัญ ในช่วงหน้าฝนนี้ควรเติมลมเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และอย่าลืมติดอะไหล่สำรองเอาไว้พร้อมอุปกรณ์เผื่อเหตุฉุกเฉินระหว่างทางจะได้มีของไว้เปลี่ยนให้สามารถเดินทางไปต่อได้

ขับรถหน้าฝน ให้ใช้ความเร็วต่ำ

แต่หากจำเป็นที่จะต้องขับรถในช่วงหน้าฝนโดยที่สภาพยางไม่พร้อม ให้ปรับลดความเร็วลงต่ำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง แต่หลังการขับขี่แล้วควรรีบนำยางเข้าไปซ่อมแซมและบำรุงโดยด่วนทันที ไม่ใช่เพียงเพราะจำเป็นต้องใช้รถในหน้าฝนนี้ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตามยางรถควรเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ เพียงแต่หน้าฝนเป็นระยะที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษนั่นเอง

อุปกรณ์ให้ความสว่าง

ระบบไฟรถทุกจุดสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก แม้กระทั่งไฟในห้องโดยสาร ยิ่งถ้าในช่วงที่ฝนกำลังตก ไฟจำเป็นมากเพราะเป็นตัวให้สัญญาณทางทั้งแก่เราและรถที่วิ่งสวนมาหรือตามมา ในช่วงที่การมองเห็นระยะไกลลดลง

ในหน้าฝนนี้ ไฟส่องสว่างต้องพร้อมใช้งาน

ดังนั้นก่อนการออกเดินทางควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ระบบสัญญาณไฟทั้งหลายในรถ ยังคงให้ความสว่างได้อย่างดีหรือเปล่า มีส่วนไหนแตกหักหรือไม่ หมั่นทำความสะอาดโคมไฟ เพื่อให้การส่องแสงทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้การเดินทางเต็มไปด้วยความราบรื่นและมีความปลอดภัยมากขึ้น

ระบบแอร์

หลายคนอาจไม่ทันนึกถึงว่าในช่วงหน้าฝนนี้ แอร์รถยนต์มีความสำคัญไม่แพ้หน้าร้อน นั่นเพราะในหน้าฝนนี้จะทำให้เกิดฝ้าที่กระจกได้มากขึ้น และนั่นอาจก่อนให้เกิดการบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น ทำให้เกิดการขับขี่ลำบากขึ้น

ในช่วงหน้าฝน รถยนต์จะเกิดฝ้าได้มากกว่าปกติ

ซึ่งการเกิดฝ้ากระจกมีทั้งแบบภายในและภายนอกตัวรถเราจึงต้องพึ่งแอร์รถยนต์เพื่อไล่ฝ้าโดยการปรับอุณหภูมิให้มีความใกล้เคียงกันระหว่างข้างในและข้างนอก ถ้าอากาศภายในเย็นกว่าข้างนอก ก็จะเกิดฝ้าที่กระจกข้างนอก ให้ทำการลดแอร์ลงอีกทั้งสามารถใช้ที่ปัดน้ำฝนทำการฉีดน้ำเพื่อไล่ผ้าก็ได้ด้วยเช่นกัน

เปิดแอร์ไล่ฝ้า ดูแลรถหน้าฝน

และถ้าหากอากาศภายนอกเย็นกว่าภายใน ฝ้าก็จะขึ้นที่กระจกข้างในห้องโดยสาร ให้ทำการเร่งแอร์เพื่อให้เกิดความเท่ากันของอุณหภูมิและทำให้ฝ้าหายไป หรืออีกวิธีก็คือปรับช่องแอร์ให้เป็นโหมดอากาศเข้า แต่แนะนำให้เป็นวิธีสุดท้ายที่จะเลือกทำ เพราะจะทำให้มีเศษขยะหรือฝุ่นเล็ดลอดเข้ามาได้ ทำให้เกิดการอุดตันของช่องแอร์และเกิดความเสียหายในที่สุด ดังนั้นจึงควรดูแลและทำความสะอาดแอร์เป็นพิเศษในช่วงนี้ เพื่อให้ยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ระบบเบรก

เพราะอย่างที่กล่าวไว้ เราไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจนเลยว่าระบบจะต้องขับรถไปเจอถนนรูปแบบไหน แต่ที่ต้องเตรียมตัวเอาไว้นั่นก็คือหน้าฝนนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเจอกับเส้นทางที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าช่วงอื่น ดังนั้นระบบเบรกจึงสำคัญมากที่ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานในการเดินทางทุกครั้งเพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เบรกจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญที่จะช่วยให้รถหยุดลื่นไถลได้

ระบบเบรกสำคัญที่สุด ต้องมีสภาพสมบูรณ์

โดยเริ่มจากการตรวจสอบน้ำมันเบรก ถ้ามีสีดำเข้มกว่าปกติให้ทำการเปลี่ยนถ่ายทันที และในช่วงขับรถสังเกตขณะเหยียบเบรกว่าเกิดเสียงดังผิดปกติไหม หรือเบรกได้ไม่แน่น เบรกแล้วเกินระยะหยุดรถตามที่กำหนดหรือเปล่า? ถ้าพบปัญหาเหล่านี้ให้เข้าตรวจเช็กกับทางอู่หรือศูนย์บริการทันที ไม่ควรชะล่าใจเป็นเด็ดขาด เพราะนี่คืออุปกรณ์ที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการขับขี่มากที่สุด

และทั้งหมดนี้ก็คือ 6 อุปกรณ์สำคัญที่ต้องเช็ก และวิธีการดูแลรถหน้าฝนที่ควรให้ความใส่ใจ อีกทั้งนอกจากนี้ผู้ขับขี่เองก็อย่าลืมพกพาอุปกรณ์สำคัญต่าง ๆ ที่ควรมีติดตัวเอาไว้ เช่น ร่ม ชุดกันฝน หรือผ้าขนหนู เพื่อรองรับสถานการณ์ในหน้าฝนนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ดูเพิ่มเติม
>> ย้อนดู 5 อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งแรกของโลก
>> ประกันน้ำท่วมรถ เคลมยังไง ? จ่ายให้เท่าไหร่

เข้าดู ราคารถยนต์มือสอง ได้ที่นี่