รถยนต์โดนน้ำท่วม ประกันภัยครอบคลุมแค่ไหน? แล้วต้องทำอย่างไรหากต้องการเคลมค่าสินไหม หาคำตอบที่นี่กับเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับประกันน้ำท่วมรถ แล้วจ่ายให้เท่าไหร่ ?
เกิดเหตุอุทกภัยร้ายแรงในหลายจังหวัดตรงพื้นที่ราบสูงของไทยเราในขณะนี้ อันนำมาซึ่งความสูญเสียและเสียหายมากมายแก่หลายครัวเรือน เป็นภัยพิบัติที่ไม่ทันได้ตั้งตัวรับมือ และไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่อาจจะเอาชนะธรรมชาติได้ในที่สุดอยู่ดี ก่อนอื่น Chobrod เองก็ขอเป็นกำลังให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ทุกท่าน ให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว
และในเหตุการณ์น้ำท่วมแต่ละครั้ง สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือความเสียหายที่เกิดแก่ข้าวของเครื่องใช้ ตั้งแต่ชิ้นเล็กอย่างทรัพย์สินภายในบ้าน ไปยังใหญ่ชิ้นใหญ่อย่างรถยนต์ ที่ก่อให้เกิดมูลค่าความเสียหายราคาสูง และนี่คือประเด็นที่เรากำลังพูดถึง นั่นคือกรณีที่รถยนต์ของเราเกิดความเสียหายจากน้ำท่วม สามารถเรียกเคลมจากประกันภัยรถยนต์ได้หรือไม่ อย่างไร?
หากรถของคุณประสบกับภาวะที่เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจากกรณีใด ๆ ก็ตาม การมีประกันรถยนต์จะยังความอุ่นใจให้แก่คุณได้เป็นอย่างดี แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่สร้างความไม่มั่นใจในข้อมูล ว่ากรณีนี้ประกันครอบคลุมหรือไม่? สิ่งแรกที่คุณควรทำเลย คือเปิดกรมธรรม์ประกันภัยที่คุณซื้อหรือต่ออายุเอาไว้และตรวจสอบให้แน่ใจว่าครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติหรือไม่?
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แทบทุกสถาบันประกันภัยจะคุ้มครองครอบคุลมเรื่องภัยพิบัติ
โดยทั่วไปแล้วประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จากทุกสถาบันประกันภัยจะมีการประกันเรื่องน้ำท่วมแน่นอนอยู่แล้ว นั่นทำให้คุณหมดความกังวลใจได้ไปเปราะหนึ่ง แล้วไปดูกันต่อถึงค่าสินไหมที่จะได้ชดเชยจากการประเมินสภาพของรถ แต่ถ้าหากเป็นประกันชั้นอื่นคุณต้องไปลุ้นกันดูอีกทีว่าเลือกซื้อเป็นแพ็คเกจแบบใดไว้ คุ้มครองเรื่องน้ำท่วมด้วยหรือเปล่า ? หากไม่แน่ใจให้ติดต่อกับทางบริษัทประกันของคุณเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
ดูเพิ่มเติม
>> ประกันรถยนต์ 2563
>> เลือกที่เดิม หรือ เริ่มที่ใหม่ ? ต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี
ในกรณีที่เกิดน้ำท่วมและสร้างความเสียหายให้แก่รถของคุณกะทันหัน สิ่งแรกที่ทุกคนจะทำอาจจะไม่ใช่การเข้าไปรื้อหาใบกรมธรรม์ในบ้านซะเดี๋ยวใจนั้น เพราะหลายคนอาจจะตกใจจนไม่ทันได้ทันคิดถึงเรื่องการรับค่าทดแทน ดังนั้นขอให้ทุกคนตั้งสติเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นให้ดำเนินการต่อไปนี้
เก็บบันทึกหลักฐานเอาไว้ให้ครบถ้วนเพื่อใช้ยืนยันกับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์
และถึงแม้จะยังไม่รู้หรือไม่ว่ารถมีประกันคุ้มครองเรื่องน้ำท่วมหรือเปล่า ก็ขอให้ทุกคนดำเนินการตามวิธีดังกล่าวไปก่อน เพราะถ้าหากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปอีก อาจจะทำให้รถของคุณเสียผลประโยชน์ หรือไม่สามารถได้รับการชดเชยเท่าที่ควรได้ตามจริงก็ได้ ถ้าไม่สามารถยืนยันถึงสาเหตุความเสียหายได้ชัดเจน
จากการแนะนำให้เก็บหลักฐานและดำเนินการตามวิธีดังกล่าวเบื้องต้นไปนั้น เพื่อที่จะใช้ชี้แจงกับทางบริษัทประกันภัยได้ว่า รถของคุณได้รับความเสียหายที่อยู่ภายใต้การเงื่อนไขการคุ้มครองจริง ๆ ไม่ได้เกิดจากการที่คุณขับรถไปเสี่ยงรับความเสียหายด้วยตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่ประกันจะเข้ามาดูที่เกิดเหตุและพิจารณาข้อมูลตามหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง
ขับรถไปลุยน้ำท่วมถือว่าเจ้าของรถเลือกรับความเสี่ยงอย่างตั้งใจ
โดยจุดที่ทางบริษัทประกันภัยจะพิจารณาเป็นพิเศษคือความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงแต่เราเลือกที่จะเพิกเฉยและเข้าไปเจอกับความเสียหายนั้นหรือเปล่า? อย่างเช่นขับรถไปลุยน้ำแล้วดับกลางทาง ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณจะไม่ได้รับค่าซ่อมแซมจากบริษัทประกัน อาจจะได้ แต่ได้ไม่เท่ากับรถที่เสียหายด้วยความไม่ตั้งใจจริง ๆ ถึงแม้จะเป็นประกันชั้น 1 ก็ตาม เพราะถือว่าเจ้าของรถมีเจตนาเลือกที่จะพารถมารับความเสี่ยงด้วยตัวเอง ดังนั้นการเก็บหลักฐานเอาไว้ยืนยันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าสินไหมทดแทนจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นจริง ถูกแบ่งออกเป็นสองกรณีดังนี้
ถ้ารถเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ ส่วนใหญ่จะได้เงินทุนประกันคืน ที่คิดเป็น 70-80% จากราคารถ
เห็นหรือไม่ว่าการมีประกันภัยกรณีรถน้ำท่วมนั้นช่วยลดภาระและสร้างความอุ่นใจให้แก่คุณมากขนาดไหน ดังนั้นอย่าคิดเสียดายเงินส่วนนี้ แม้ตอนที่จ่ายคุณอาจจะมองว่าเป็นจำนวนที่ดูมากมาย แต่ก็ดีกว่ามานั่งเสี่ยงนั่งลุ้น หากเกิดกรณีใด ๆ ที่ไม่คาดคิด ที่อาจทำให้คุณต้องจ่ายหนักมากกว่าค่างวดประกันประจำปีด้วยซ้ำ ดังนั้นทำประกันภัยเอาไว้ดีกว่าเพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ
ดูเพิ่มเติม
>> รถชน คนขับไม่ใช่เจ้าของรถ ประกันรับเคลมหรือเปล่า ?
>> หมากัดรถ ประกันจ่ายไหม ถามหาความรับผิดชอบจากใคร ?
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆ ได้ที่นี่
เข้าดู รถยนต์มือสองได้ที่นี่