อยากขับรถข้ามแดนไปเที่ยวลาว ควรรู้อะไรบ้าง?

เดี๋ยวนี้ หากต้องไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “ประเทศลาว” ก็สามารถขับรถไปเองได้แล้ว โดยไม่ต้องผ่านบริษัททัวร์ หรือนายหน้าใด ๆ แต่ต้องเตรียมเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งจะมีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไร หรือมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ดูคำแนะนำได้ที่นี่เลย ! 

ขั้นตอนและเอกสารการนำรถข้ามไปยังประเทศลาว 

1. เตรียมคู่มือจดทะเบียน เล่มสีฟ้า โดยรถจะต้องไม่ติดไฟแนนซ์ ว่าง่าย ๆ ก็คือไม่มีหนี้ เพราะเล่มนี้จะถูกเก็บไว้ที่ไฟแนนซ์ หากจะขอจากไฟแนนซ์ก็อาจจะยากหน่อย 

2. ไปที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกที่ใกล้บ้าน 

3. ติดต่อฝ่ายทะเบียนรถยนต์ จากนั้นทำการเขียนใบคำร้องขอนำยานพาหนะออกนอกราชอาณาจักร

4. รอฝ่ายทะเบียนเรียกเพื่อนำรถยนต์ไปตรวจสภาพภายในขนส่งฯ

5. เมื่อตรวจสภาพรถยนต์เรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารการตรวจสภาพรถยนต์มาไปยื่นที่ฝ่ายทะเบียนอีกครั้ง

6. รอเจ้าหน้าที่ทะเบียนเรียกรับ

• พาสปอร์ตรถ
• สติกเกอร์ ตัว T
• ใบรับรองการตรวจสภาพรถ
• ทะเบียนรถที่แปลเป็นทะเบียนสากลเป็นกระดาษ A4 

หากต้องการป้ายทะเบียนรถยนต์ตัวจริง จะต้องจ่ายค่าคำขอ 5 บาท ค่ามัดจำป้ายอีก 200 บาท โดยจะใช้เวลารอราว ๆ 4 เดือน ค่อยมาติดต่อขอรับป้าย เมื่อรวมค่าใช้จ่ายในการขอทะเบียนตัวจริง 205 บาท และค่าขอพาสสปอร์ตรถอีกราว ๆ 200 บาทแล้ว (ไม่น่าเกินนี้) จะอยู่ที่ 400 บาท โดยประมาณ 

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กเพจ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย

ขั้นตอนการนำรถยนต์ข้ามด่านพรมแดนหนองคาย

1. เตรียมเอกสาร ได้แก่

• พาสปอร์ตบุคคล (Passport)
• พาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วง) กรณีข้ามครั้งแรกให้ทำบาร์โค้ดที่เคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ก่อน
• เล่มทะเบียนรถตัวจริง
• สำเนาทะเบียนรถระบุรายละเอียดรถและผู้ครอบครอง พร้อมสำเนาหน้า 16 และ 18 / สำเนาพาสปอร์ตรถ / สำเนาพาสสปอร์ตบุคคล อย่างละ 2 ชุด

2. เมื่อมาถึงหน้าด่านฝั่งไทย (ด่านหนองคาย) ให้กรอกเอกสาร ตม.2, ตม.3 และ ตม.4 พร้อมเอกสารทั้งหมดที่ช่อง 4D รอเจ้าหน้าที่ประทับตรา

3. ดำเนินการต่อที่ช่องศุลกากร (ช่อง 6D) เพื่อแจ้งรถออก โดยขั้นตอนนี้จะใช้คู่มือรถเล่มจริง และพาสปอตรถ  (เล่มสีม่วง) ด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำใบคุมรถให้ 2 แผ่น เมื่อเซ็นแล้วเจ้าหน้าที่จะให้มายื่นที่ช่อง 3 

3. ขับรถมาที่ข้างช่อง 3 เพื่อตรวจความเรียบร้อยเกี่ยวกับรายละเอียดรถ คืนใบคุมให้เจ้าหน้าที่ 1 ใบ และเก็บไว้เอง 1 ใบ จากนั้นข้ามสะพานได้เลย โดยจะต้องจ่ายค่าข้าม 20 บาท

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กเพจ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย

4.เมื่อขับรถมาถึงฝั่งลาว ให้เลี้ยวขวาไปตามลูกศร (รถต่างประเทศ) แล้วอ้อมไปด้านหลังตัวอาคารสองชั้นเพื่อนำรถเข้าตรวจตรา ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้นั้น ได้แก่ 

• พาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วง) 
• พาสปอร์ตบุคคล 
• กรอกใบขาเข้า (รวมถึงใบผ่านแดน) สำหรับถ้าใบผ่านแดนให้ไปถ่ายเอกสารก่อน พร้อมซื้อประกันภัยด้วย

5. กลับมาที่ ตม. ฝั่งสปป.ลาว ให้ซื้อใบนำรถเข้า 40 บาท (คล้ายใบ ตม.3 ของไทย) จากนั้นให้ไปยื่นแจ้งคนเข้า แล้วเข้าห้องอัตโนมัติเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียม (มีเจ้าหน้าที่ช่วยกดอยู่) โดยจะได้เอกสารมาสองใบ ใบแรกจะมีคิวอาร์โค้ดใช้สำหรับแสกนออกด่าน ส่วนใบสองเป็นรายละเอียดรถ  ให้เก็บไว้กับตัว

6. เมื่อจ่ายเงินเสร็จแล้ว ให้กลับมายังช่องที่มีไม้กัน เพื่อให้ ตม. เซ็นเอกสารอีกครั้ง จากนั้นแสกนคิวอาร์โค้ดข้ามแดนได้เลย

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กเพจ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย

ขั้นตอนขากลับเข้าด่านไทย

1. นำใบนำรถเข้าที่ซื้อไว้ตอนแรกในราคา 40 บาท, พาสปอร์ตบุคคล (หรือใบผ่านแดน) และพาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วง) ยื่นให้เจ้าหน้าที่ พร้อมเสียค่าธรรมเนียมที่ตู้อัตโนมัติเพื่อนำคิวอาร์โค้ดมาสแกนออกด่าน (จ่ายด้วยเงินไทยได้)

2.เมื่อเจ้าหน้าที่เซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว สามารถสแกนออกด่าน และขับรถข้ามสะพานมาด่านหนองคายได้เลย

3. เมื่อกลับถึงฝั่งไทย ให้ยื่นเอกสาร ได้แก่ ใบคุมรถที่ได้มาตอนขาออก และใบ ตม.2 แจ้งรถเข้า ยื่นตรวจที่ช่องคน ตามด้วยช่องศุลกากร จากนั้นนำรถให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ถือว่าเสร็จเรียบร้อย

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊กเพจ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย

หากสนใจรถยนต์ในตลาดรถ มือสอง ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chobrod.com
แหล่งซื้อขายรถยนต์มือสองราคาถูก ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ