รถยนต์มือสอง เป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วหลายครั้ง สภาพรถอาจไม่ดีเท่ามือหนึ่ง จึงมีสิ่งที่ควรเปลี่ยน เมื่อซื้อรถมือสอง เพื่อให้รถยนต์ของคุณพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
รถยนต์มือสอง (Used car) คือ รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว และอาจเปลี่ยนเจ้าของมากกว่า 1 ครั้ง มีข้อดีที่ราคาถูก กู้ซื้อง่ายกว่า มีตัวเลือกหลากหลาย และมีค่าเสื่อมสภาพน้อยกว่ารถป้ายแดง แต่สภาพรถอาจจะไม่ดี 100% เมื่อเทียบเท่ากับรถใหม่ในโชว์รูม เมื่อได้รถยนต์มือสองมาครอบครองแล้ว จึงต้องบำรุงรักษา ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนบางจุดเพิ่มเติม เพื่อให้รถมีสภาพที่ดี พร้อมใช้งาน
1. เปลี่ยนถ่ายของเหลว
สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อได้รถมือสองมาใช้งาน คือการเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมดภายในรถ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเบรก, น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันคลัตช์, น้ำยาหล่อเย็น และของเหลวจุดอื่น ๆ ภายในรถ เพื่อให้สิ่งสกปรกที่อาจปะปนอยู่ในของเหลวถูกขับออกไป ทำให้รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
2. เปลี่ยนสายพาน
แนะนำให้เปลี่ยนสายพานใหม่ไปเลย ไม่ว่าจะเป็น สายพานไทม์มิ่ง สายพานหน้าเครื่อง เพราะอาจจะหมดอายุ หรือเสื่อมสภาพจากการใช้งาน
3. เปลี่ยนกรองอากาศ
กรองอากาศ มีหน้าที่คอยดักจับฝุ่นละออง และเศษต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปในระบบเครื่องยนต์ สำหรับรถยนต์ที่ใช้งานมานานแล้ว กรองอากาศอาจจะมีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน จนทำให้ดูดอากาศเข้าไปได้ไม่เต็มที่ หรือมีจุดที่ขาด ชำรุด ทำให้เชื้อโรคและฝุ่นละอองหลุดรอดเข้าไป ซึ่งอาจสร้างปัญหาตามมาได้ จึงควรเปลี่ยนใหม่ทันที
4. เปลี่ยนท่อยาง ท่อเชื่อม
ท่อต่าง ๆ ภายในห้องเครื่อง อาจจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน จึงควรเปลี่ยนใหม่ เพราะหากแตก หรือหลุดออกมากะทันหัน คุณอาจไม่ได้เสียเงินแค่ค่าเปลี่ยนท่อเท่านั้น
5. เปลี่ยนแบตเตอรี่
หากไม่แน่ใจว่าแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง ให้เปลี่ยนใหม่ไปเลย เพราะแบตเตอรี่ส่งผลต่อมอเตอร์สตาร์ต ระบบจุดระเบิดขณะสตาร์ต รวมถึงระบบต่าง ๆ ภายในรถ จึงไม่ควรรอให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปเอง เมื่ออยากใช้งานแล้วใช้ไม่ได้ จะยุ่งยากเสียเปล่า ๆ
1. เช็คระบบแอร์
ระบบแอร์ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะกับเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน หากระบบแอร์ใช้งานไม่ได้ขึ้นมา คงไม่ต้องบอกว่าในระหว่างขับรถจะทรมานขนาดไหน จึงควรเช็คให้แน่ใจว่า ระบบแอร์รถคุณไม่มีปัญหา และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2. เช็คระบบเบรก
ระบบเบรกส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ หากเช็คแล้วว่าระบบเบรกมีปัญหา หรือมีอาการผิดปกติ เช่น มีเสียงดัง เบรกจม เบรกสั่น ฯลฯ ควรเปลี่ยนสายเบรกใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
3. เช็คช่วงล่าง
ควรเช็คว่าช่วงล่างใช้งานได้ดีไหม ไม่ว่าจะเป็น ส่วนที่เป็นยาง เหล็ก สปริง หรือโช้ค หากพบความผิดปกติ ควรซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที ให้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย
นี่คือ จุดที่ควรเช็กและเปลี่ยน เมื่อซื้อรถมือสอง ฉบับเบื้องต้น เพื่อให้รถยนต์ของคุณพร้อมใช้งานอยู่เสมอ หากจุดใดจุดหนึ่งมีปัญหาขึ้นมา นอกจากจะส่งผลในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว ยังทำให้คุณต้องเสียเงิน (ที่อาจบานปลาย) และเสียเวลามากกว่าเดิมอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม >>