รถยนต์ลงลุยน้ำได้สูงเท่าไหร่ มีคำตอบให้อ่านแล้ว แบ่งตามประเภทรถ และความสูง พร้อมคำแนะนำ ที่มีประโยชน์สำหรับการนำรถไปลุยจริง
น้ำท่วมถนน คือสิ่งที่เกิดขึ้นง่ายในช่วงหน้าฝนนี้ เป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้เราเดินทางลำบาก เพราะปิดกั้นทางเดินรถจนหมด ซึ่งบางคันก็กล้าลุยลงไปได้เพราะรถมันสูง แต่รถบางคันอย่างเก๋ง หรือรถบ้านทั่วไป ที่มีความสูงใต้ท้องไม่เท่ารถอเนกประสงค์ทั้งหลาย แต่อยากลุยน้ำไปถึงจุดหมาย จะทำได้หรือไม่ มาดูระดับน้ำที่ปลอดภัยสำหรับรถแต่ละประเภทกันเลยครับ
ระดับน้ำท่วมที่รถยนต์ลุยได้ เก๋ง กระบะ น้ำลึกแค่ไหนที่ปลอดภัย?!
เป็นน้ำท่วมขังทั่วไปที่รถยนต์ทุกประเภทสามารถลุยได้อย่างสบายๆ เพราะรถยนต์ส่วนใหญ่ทั้งเก๋งและกระบะถูกออกแบบมารองรับการขับขี่ผ่านน้ำขังระดับนี้ได้สบายๆ เพียงแค่ระวังเรื่องการเหินน้ำหากขับมาเร็วๆ และระวังน้ำกระเซ็นใส่สิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเท่านั้น เช่น คนเดินเท้า มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ
ระดับน้ำ 5-10 ซม. แค่นี้ รถอะไรก็วิ่งผ่านไปได้ง่ายๆ
เป็นปริมาณน้ำท่วมขังปานกลาง รถเก๋งยังสามารถลุยไปได้ตามปกติ ควรใช้ความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. และอาจจะมีน้ำกระเซ็นใส่ตัวรถบ้าง และถ้ามีคลื่นสูงอาจจะซัดกระแทกใต้ท้องรถยนต์ แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะยังไม่มีผลอะไรกับรถและเครื่องยนต์ เพราะรถเก๋งปกติทั่วไปถูกติดตั้งกรองอากาศและระบบไฟฟ้าไว้สูงจากระดับนี้อยู่แล้ว ทำให้ทั้งรถเก๋งและรถกระบะยังสามารถขับต่อได้เลยครับ
ระดับน้ำ 10-20 ซม. เริ่มลึกแล้ว รถเก๋งควรขับด้วยความระมัดระวัง
เป็นปริมาณน้ำท่วมสูงสำหรับประเภทรถเก๋งแล้ว เพราะถึงในระดับครึ่งล้อรถ จนถึงขอบประตูรถเก๋งและท่อไอเสีย ซึ่งมีระยะใต้ท้องรถไม่สูงมาก หากลงไปลุยก็ยังวิ่งได้โดยต้องเร่งเครื่องเดินหน้าตลอดเวลา เพื่อป้องกันน้ำย้อนเข้าท่อไอเสีย และถ้าหากมีรถอื่นวิ่งสวนมา ทำให้เกิดคลื่นสูงกระทบขอบประตู อาจส่งผลให้น้ำเริ่มซึมเข้ามาในพรมด้านใน ความสูงของน้ำระดับนี้เป็นปัญหาสำหรับรถยนต์เล็กแน่นอน ส่วนรถกระบะยังลุยได้ อาจจะมีคลื่นซัดใต้ท้องรถบ้างเป้นเรื่องปกติ
ระดับน้ำ 20-40 ซม.
ดูเพิ่มเติม
>> ท่วมสูงแค่ไหนก็ไม่กลัว ตามหารถมือสองลุยน้ำท่วม !!
>> 10 อันดับถนนน้ำท่วมบ่อยในกรุงเทพ
ความสูงของน้ำระดับนี้ถือว่าเป็นอันตรายต่อรถเก๋งทุกประเภท สังเกตง่ายๆคือ น้ำท่วมเลยระดับฟุตบาทไปแล้วนั่นเอง เพราะถ้าลุยลงไปเฉยๆ อาจจะพอขับได้แบบต้องปิดแอร์และเร่งเครื่องตลอดเวลา เพื่อไม่ให้น้ำท่วมย้อนกลับเข้าท่อไอเสีย แล้วเมื่อมีคลื่นน้ำกระเซ็นขึ้นมาจากรถสวนทาง อาจจะเข้าสู่เครื่องจนทำให้ดับได้ เพราะกรองกาอาศและแผงฟิวสืของรถเก๋งบางรุ่นอยู่สูงระดับนี้ ทำให้รถเก๋งเสี่ยงจะดับได้ ส่วนรถใต้ท้องสูงแบบอื่นๆ ทั้งรถกระบะและ รถ PPV ยังลุยได้สบาย
ระดับน้ำ 40-60 ซม. รถทรงสูงลุยได้ราบรื่น
ระดับน้ำ 60-80 ซม. รถทรงสูงควรขับด้วยความระมัดระวัง
รถเก๋งควรงดขับขี่ เพราะเป็นอันตรายมาก เพราะน้ำมีสิทธิ์ที่จะไหลเข้ากรองอากาศ สายพาน รวมถึงแผงฟิวส์ได้ง่าย แถมน้ำยังรั่วเข้าห้องโดยสารจนทำความเสียหายต่อระบบอื่นๆได้โดยตรง เช่น เบาะไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ส่วนรถกระบะและรถทรงสูงทั้งหลาย ควรปิดแอร์และใช้ความเร็วต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการปะทะคลื่นใหญ่หากมีรถลุยน้ำสวนมา จะทำคลื่นน้ำสูงถึง 1 เมตรมากระทบรถเราจนดับได้ หรืออาจจะทำให้มีน้ำเข้ามาในห้องโดยสารบ้างแล้ว
เป็นน้ำท่วมลึกระดับเกือบ 1 เมตรหรือสังเกตง่ายๆในระดับเกินเอวของผู้ใหญ่ทั่วไป นับเป็นปริมาณน้ำที่มีระดับสูงเกินกว่าที่รถทั่วไปทุกชนิดจะขับไปได้ เพราะเครื่องยนต์และภายในห้องโดยสาร จะโดนน้ำรั่วเข้าไปทำความเสียหายอย่างหนักจนเครื่องดับ อีกทั้งน้ำสูงแบบนี้จะยกรถเกิดการลอยตัว ทำให้รถไม่ยึดเกาะกับพื้นถนน อาจถูกกระแสน้ำพัดพาได้ง่าย ต้องใช้รถแบบยกสูงแต่งพิเศษโดยเฉพาะ หรือรถบรรทุกขึ้นไป ถึงจะรอดน้ำท่วมระดับนี้ครับ
รถลุยน้ำได้แค่ไหน ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 ซม.
รถอีโคคาร์ต้องระวัง ระดับน้ำ 20-40 ซม. เพราะส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มีความสูงจากระดับพื้น 15-17 ซม. อาจทำให้เกิดปัญหาท่อไอเสียจม แต่ยังสามารถขับลุยน้ำผ่านได้ ส่วนรถกระบะยังผ่านไปได้
รถเก๋งลุยน้ำได้แค่ไหน ระดับน้ำ 40-60 เซ็นติเมตร รถเก๋ง รถขนาดเล็กต้องเลี่ยง
รถกระบะ ลุยน้ําได้ แค่ ไหน ระดับน้ำ 60-80 เซ็นติเมตร อันตรายต่อรถรถกระบะแลพรถทุกคัน
ไม่ควรขับลุย เพราะน้ำอาจไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับ หยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเสียหายในระบบต่างๆ ได้ ซึ่งการขับลุยน้ำท่วมระดับนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ที่สำคัญอย่าปะทะคลื่นโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางอากาศ
นอกจากการขับรถลุยน้ำต้องดูระดับน้ำท่วมแล้ว ยังขอแนะนำการขับขี่ว่าควรปิดเครื่องปรับอากาศ ใช้เกียร์ต่ำ ความเร็วต่ำ เร่งรอบเครื่องให้คงที่ สังเกตระดับน้ำท่วมจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้ดี และถ้าไม่ชินทาง อย่าลงไปลุยเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้เลยว่าผิวทางเป็นอย่างไรบ้าง อย่าใจร้อนรีบลุยน้ำ ควรให้ขับอย่างระมัดระวังที่สุด ขอให้หน้าฝนนี้ ทุกท่านมีความปลอดภัยในการเดินทางครับ แล้วพบกันสาระดีๆจากเว็บไซต์ Chobrod กันได้ใหม่ในคราวหน้า สวัสดีครับ
ดูเพิ่มเติม
>> สรุป 10 ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ที่ 3 มิถุนายน – 8 มิถุนายน 2019
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้