มีอุบัติเหตุอย่าพึ่งช็อก! ประกันภัยรถยนต์ช่วยได้แค่ต้องตั้งสติ

เชื่อว่าหลายครั้ง คนใช้รถใช้ถนนก็มักจะเจอกับเกิดการณ์ไม่คาดฝันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่จะต้องมีกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้หลายคนอยากจะกรีดร้องกันเลยทีเดียว แต่เชื่อหรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว การเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็สามารถจัดการได้ง่าย ๆ เพียงแค่ให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ของคุณเข้ามาดูแล และจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น 

การแก้ไขปัญหาหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

เพราะฉะนั้น Unseencar.com จะมาแนะนำวิธีที่คุณต้องจัดการหากเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้คุณผ่านปัญหาดังกล่าวไปได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะเหล่ามือใหม่หัดขับที่ยังไม่ประสีประสาการใช้รถใช้ถนน ด้วยทริคง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ 

ตั้งสติอย่าพึ่งตื่นเต้น 

ก่อนอื่น หากเกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องไม่คาดฝันที่เกี่ยวข้องกับรถของคุณ ก่อนอื่นเลยอย่าตกใจหรือหัวร้อนจนสติแตกอย่างเด็ดขาด ให้คุณตั้งสติให้ไวที่สุดและระงับอารมณ์โดยเร็ว หายใจเข้าออกจนตั้งสติแล้วก็มาสำรวจว่าสภาพโดยรอบเป็นอย่างไร เพราะหากคุณมัวแต่สติแตกทำอะไรไม่ถูก แน่นอนว่ามันจะทำให้คุณต้องปวดหัวในภายหลังหากต้องให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นต่อตัวแทนประกันหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำสำนวน 

ที่สำคัญ อย่าไปเคลื่อนย้ายรถโดยเด็ดขาด หากไม่มีคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ เพราะจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและบริษัทประกันมาเก็บข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน แต่หากเป็นอุบัติเหตุไม่หนักแค่เฉี่ยวชนมีรอยบุบเบา ๆ ก็สามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อไม่ให้กีดกวางการจราจรและรวบกวนคนใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ  

ควรตั้งสติให้ดีหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

ประเมินสถานการณ์โดยรอบ

ให้สำรวจว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีระดับความรุนแรงเท่าไหร่ แค่เฉี่ยวชน หรืออีกฝ่ายบาดเจ็บด้วย ให้คุณสำรวจสภาพการเกิดเหตุโดยรอบแล้วจดจำเหตุการณ์เอาไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาจากใคร มีสิ่งกีดขวางอะไรบนท้องถนนหรือไม่ มีใครบาดเจ็บหรือเปล่า หากมีก็ให้รีบโทรแจ้งกู้ภัยฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด เพราะนั่นหมายถึงชีวิตความเป็นความตายของคน อย่าพึ่งไปตรวจสอบว่าคนบาดเจ็บเป็นคนผิดหรือไม่ ให้คุณคำนึงถึงชีวิตคนก่อนแล้วค่อยไปสนใจเรื่องอื่น ๆ 

นอกจากนี้ การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ถ้าคนเจ็บอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างบาดเจ็บรุนแรง ไม่ใช่เพียงแค่มีรอยถลอก อย่าไปเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจะเกิดอันตรายตามมาได้หากคุณเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บผิดวิธี 

หากเกิดอุบัติเหตุ ให้คุณประเมินสถานการณ์ให้เรียบร้อย

แจ้งประกันภัยรถยนต์ให้เร็วที่สุด 

เมื่อคุณประเมินสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว ก็ให้ติดต่อหาประกันภัยรถยนต์ของตัวเองทันทีรวมถึงตำรวจด้วย เพราะการเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ควรแจ้งตำรวจทุกครั้ง เพราะหากคู่กรณีดันไปแจ้งความภายหลังอีกทีคุณอาจจะกลายเป็นคนที่หลบหนีได้ จากเดิมที่คุณอาจจไม่ได้ผิดก็กลายเป็นคุณเป็นคนผิดฐานหลบหนีทันที โดยเมื่อแจ้งประกันภัยรถยนต์แล้วก็ให้รอเจ้าหน้าที่ประกันมาหาคุณ โดยเฉลี่ยจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เท่านั้น แต่หากเป็นการเกิดอุบัติเหตุในชนบทที่อยู่ไกลจากตัวเมืองอาจจะต้องรอนานมากขึ้น ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นหลักว่าสะดวกต่อการเดินทางหรือไม่ 

ที่สำคัญ ควรเตรียมข้อมูลเบื้องต้นที่จะต้องแจ้งทางประกันภัยด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อผู้ขับขี่ ทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ รุ่นรถ สีรถ เบอร์โทรติดต่อ ลักษณะของการเกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุ และให้สอบถามชื่อผู้รับแจ้งเหตุด้วย

อ่านเพิ่มเติม 

>> เลี้ยวซ้าย(ไม่)ผ่านตลอด เรื่องเข้าใจผิด ๆ ที่ไม่เป็นมิตรกับกฎหมายจราจร
>> คลายปมปัญหาใหญ่ ก่อนตัดสินใจซื้อประกันภัยรถยนต์ให้ถูกใจ

การติดต่อประกันภัยรถยนต์หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

เก็บรูปให้ละเอียดเพื่อเป็นหลักฐาน 

สิ่งที่สำคัญมากที่สุด นอกเหนือจากการแจ้งประกัน หรือแม้แต่ตรวจสอบความรุนแรงของอุบัติเหตุแล้ว ก็คือการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุด้วยเอง เพื่อป้องกันคู่กรณีชิ่ง โดยให้ถ่ายภาพการเกิดอุบัติเหตุ สภาพโดยรอบ รถของคุณเอง รถของคู่กรณี ร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุบนรถ เช่น รอยถลอก รอยบุบ โดยการถ่ายรูปรถของคู่กรณีนั้น ก็ให้ขออนุญาตก่อน เพราะนับว่าเป็นมารยาทที่คุณต้องแสดงน้ำใจต่ออีกฝ่าย อีกอย่างการถ่ายรูปรถคนอื่นที่เห็นป้ายทะเบียนชัดเจน หากไม่ได้รับอนุญาตก็จะกลายเป็นคุณไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้  

การเก็บรูปภาพในที่เกิดเหตุเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

การเจรจากับคู่กรณี (ในกรณีที่อีกฝ่ายไม่ชิ่ง) 

การเจรจากับคู่กรณีนั้น หากอยู่ระหว่างการรอประกันแล้วมีการพูดคุยกัน ก็พยายามอย่าไปตกลงอะไรเด็ดขาด เพราะในส่วนนั้นทางประกันจะเป็นฝ่ายที่เคลียร์ให้คุณเอง ถึงแม้คุณอาจจะคิดว่าคุณควรรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้จำเป็นพอที่จะไปตกลงหรือไปตัดสินอะไรด้วยแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องของความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

ส่วนสิ่งที่คุณสามารถเจราจาหรือให้ข้อมูลได้ ก็คือรายละเอียดการเกิดอุบัติเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกับตัวแทนประกันของตัวเองเท่านั้น ที่สำคัญ หากรถของคุณมีกล้องหน้ารถ ก็อย่าลืมแจ้งทางประกันให้รับทราบด้วย เพราะถือว่าเป็นหลักฐานที่จะบ่งชี้ได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด หรือมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เป็นต้น 

การเจรจากับคู่กรณีของตัวแทนประกันภัยรถยนต์

เช็กรายการเคลมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ กับทางประกันภัยรถยนต์ 

สำหรับการเกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง ที่คุณต้องให้ตัวแทนบริษัทประกันภัยรถยนต์มาดำเนินการให้นั้น เบื้องต้น คุณต้องรู้ก่อนว่ารถของคุณเป็นประกันภัยชั้นไหน แล้วคุ้มครองในกรณีใดบ้าง เพราะประกันรถยนต์แต่ละชั้นก็จะคุ้มครองแตกต่างกันออกไปตามเบี้ยประกันที่จ่าย โดยรายการเคลมรถและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็ขึ้นกับเบี้ยที่คุณซื้อไว้เช่นกัน 

ทั้งนี้ หากมีค่าใช้จ่ายอะไร ก็ขอให้คุณเช็กกับตัวแทนประกันให้เรียบร้อย หากมีคำถามอะไรก็ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ไปเลย ไม่ต้องเกรงใจ เช่น การซ่อมบำรุงในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายถูก ที่ทางคู่กรณีจะต้องเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้ด้วย ที่สำคัญ อย่าไปเซ็นเอกสารอะไรที่ไม่ใช่มาจากทางประกันภัยของคุณกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเด็ดขาด ควรรอตรวจเช็กและรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ประกันภัยก่อน จะดีที่สุด 

การเช็กรายการค่าใช้จ่ายและการเคลมกับตัวแทนประกันภัยรถยนต์

เป็นอย่างไรบ้าง กับวิธีจัดการกับปัญหาที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งหากคุณเกิดอุบัติเหตุก็อย่าพึ่งตกใจ ตั้งสติ แล้วค่อย ๆ หาทางแก้ไขปัญหา ที่สำคัญ ต้องใช้ประกันรถยนต์ที่ซื้อไว้ให้เป็นประโยชน์ด้วย เพราะจะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง โดยเฉพาะค่าซ่อมบำรุงรถ 

ทั้งนี้ การใช้รถใช้ถนนนั้น จะต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังและมีสติ เพราะฉะนั้น ก่อนที่คุณจะขับรถก็ให้เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ และขับรถด้วยความใจเย็น อย่าไปรีบร้อน เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยในชีวิตของคุณนั่นเอง 

อ่านเพิ่มเติม 

>> ส่องรีวิวประสบการณ์ใช้รถ ก่อนตัดสินใจซื้อ Honda Accord มือสอง
>> จริงหรือไม่ ที่คนไทยนิยมซื้อรถเก๋ง Honda Civic เพราะเน้นแค่รูปลักษณ์
 

ตลาดรถออนไลน์ Unseencar.com ขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้เเละคราวหน้าเรื่องอะไรติดตามไปพร้อมกันเลยนะคะ