ปัจจัยที่ทำให้จีนกลายเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ประสบการณ์ใช้รถ | 10 ม.ค 2562
แชร์ 3

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีคนจำนวนมากก็จริง แต่การจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตได้อย่างรวดเร็วถ้าไม่มีกลยุทธ์ดีๆก็คงไม่ง่าย ตอนนี้จีนกลายเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว ปัจจัยอะไรที่ทำให้เป็นเช่นนั้น

กระแสของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรถโลกนั้นนับว่าดูเป็นทิศทางที่สดใสและเป็นแหล่งพลังงานสำหรับรถยนต์ที่ดูมีความคุ้มค่าและยังไม่ปล่อยก๊าซพิษสู่สิ่งแวดล้อมอีกด้วย สำหรับประเทศไทยนั้นแม้เรากำลังอยู่ในหน้าแรกๆของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการคมนาคมในชีวิตประจำวัน แต่ก็เรียกได้ว่ามีประกายแสงไฟที่จุดติดและกำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาแล้ว เพียงแต่สิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไปก็คือว่าอนาคตในอีก3-5ปีจะมีแนวโน้มการเติบโตและเสียงตอบรับจากลูกค้าหรือประชาชนในประเทศมากแค่ไหน ด้วยราคาค่าตัวของรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ใช่ถูกๆในแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและทำประวัติดีมาอย่างยาวนาน เพราะแม้รัฐบาลจะไม่ได้ปิดกั้นในด้านนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าราคาค่าตัวของมันก็ยังคงสูงอยู่ในระดับหนึ่ง ต่างกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างในอเมริกาหรือยุโรปที่การซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแทบจะเป็นเรื่องปกติ แม้ในเอเชียเองประเทศใกล้บ้านเราอย่างประเทศจีนก็มีรถยนต์ไฟฟ้าใช้กันอย่างแพร่หลายแล้ว

รถยนต์ไฟฟ้าทั่วทั้งโลกเติบโตแค่ไหน

ถ้านับทั่วทั้งโลกแล้วกว่าจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าขายออกสู่ลูกค้าได้ครบ1ล้านคันต้องใช้เวลาถึง4ปี นั่นคือช่วงปลายปี 2015 แต่หลังจากนั้นมารถยนต์ไฟฟ้าก็มียอดขายทั่วทั้งโลกเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและทำยอดขายได้มากขึ้น4เท่า กลายเป็น4ล้านคันในเวลา3ปีต่อมา คือช่วงปลายปี2018 นับเป็นการเติบโตของยอดขายอย่างก้าวกระโดดที่น่าประทับใจต่อชาวโลกที่รักษ์สิ่งแวดล้อม และแนวโน้มการเติบโตของยอดขายคาดว่าจะโตขึ้นอย่างน้อยปีละ1ล้านคัน ที่สำคัญในบรรดา4ล้านคันที่ขายไปแล้วนั้น สัดส่วนที่มากที่สุดคุณคิดว่ามันมาจากมุมไหนของโลก คำตอบคือประเทศจีน ที่ปลายปี2018 มีรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนรวมแล้วเกือบ2ล้านคัน นั่นก็เกือบจะครึ่งหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว และแนวโน้มก็อาจจะเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นชนิดที่เอาภูมิภาคอื่นมารวมกันก็อาจจะสู้ประเทศจีนชาติเดียวไม่ได้

ประเทศจีนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ประเทศจีนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ปัจจัยอะไรที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในจีน

ความเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนเป็นที่น่าสนใจเพาะทำให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ โดยเน้นที่คุณค่าที่จะเกิดขึ้นแก่ทุกฝ่าย

  1. ฝ่ายประชาชน

ไม่ว่าประชาชนจะอยากใช้รถยนต์แบบไหน พลังงานอะไร หลักๆแล้วแทบจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากนักหากมันไม่ได้ตอบโจทย์และความต้องการจริงๆของลูกค้า ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการอยากมีอากาศที่บริสุทธิ์ไม่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะแพงหน่อยพวกเขาก็คงยอม แต่ไม่ใช่กับประเทศจีน ประชาชนจีนต้องการมีอากาศบริสุทธิ์ปราศจากมลพิษก็จริงแต่ต้องจ่ายเงินซื้อรถยนต์ราคาเกินล้านก็คงไม่เอาด้วย จากการสอบถามคนในพื้นที่ของประเทศจีน ความต้องการหลักของคนจีนโดยส่วนใหญ่ต้องการมีรถยนต์ส่วนตัวที่เน้นพาตัวเองไปในสถานที่ต่างๆได้ไม่ต้องไกลมาก ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี ราคาถูก ไม่ได้ต้องการเอาไว้โชว์ว่าตัวเองมีเงินมากแค่ไหน ด้วยความต้องการแบบนี้หากราคารถยนต์ไม่สูงมากและตอบโจทย์ข้างต้นได้ครบ รถยนต์คันนั้นก็คงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อย่างที่รถยนต์ Chery eQ  กวาดยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไปอย่างถล่มทลายในจีนในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาถูกที่สุดคือประมาณ3แสนบาทเท่านั้น แถมยังวิ่งได้ถึง200กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟแค่ครั้งเดียว การจะทำรถยนต์ถูกแบบนี้ได้ก็เพราะว่ามีรับบาลสนับสนุน

ชาวจีนส่วนใหญ่ขอให้มีรถขับไม่ต้องแพงไม่ต้องหรูเน้นถูกไว้ก่อน

ชาวจีนส่วนใหญ่ขอให้มีรถขับไม่ต้องแพงไม่ต้องหรูเน้นถูกไว้ก่อน

Chery eQ รถยนต์ไฟฟ้าที่แสนถูกในจีนด้วยราคาราว3แสนบาท

Chery eQ รถยนต์ไฟฟ้าที่แสนถูกในจีนด้วยราคาราว3แสนบาท

ดูเพิ่มเติม
>>
ปี 2020 เตรียมพบเทคโนโลยีใหม่จาก Mazda คาดเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก!
>> เปรียบเทียบรถพลังไฟฟ้า!!! Hyundai IONIQ กับ Nissan leaf

  1. ฝ่ายรัฐบาล

รัฐบาลผู้บริหารประเทศต้องการให้ประชาชนในประเทศมีรถยนต์ไฟฟ้าไว้ใช้งานเหตุผลหนึ่งก็คือเรื่องของมลภาวะทางอากาศ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่ปล่อยไอเสียออกสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้ประชาชนตามท้องถนนและโดยทั่วไปมีอากาศทิ่บริสุทธิ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงมีนโยบายสนับสนุนผู้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศในแง่เงินทุนที่จะส่งผลต่อราคาขายปลีกรถยนต์ให้อยู่ในราคาที่ประชาชนสามารถซื้อได้ การสนับสนุนนี้เกิดขึ้นกับรถยนต์แบรนด์ของจีนเท่านั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และนั่นกดราคาของรถยนต์ไฟฟ้าให้ต่ำลงไปที่ 3แสนบาทต่อคันได้ในที่สุด ถูกใจชาวจีนเป็นอย่างยิ่ง

  1. ฝ่ายผู้พัฒนารถยนต์

ทางด้านผู้พัฒนารถยนต์เฉพาะที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นสัญชาติจีนเห็นว่ามีการสนับสนุนให้ประชาชนจีนใช้รถยนต์ไฟฟ้า เห็นว่าเป็นแหล่งสร้างกำไรแบบชัดเจน จึงอยากเข้ามาลงเล่นในสนามนี้ด้วย ปรับทิศทางเดินหน้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ผู้พัฒนารถยนต์แบรนด์จีนก็จะได้รับผลประโยชน์นี้ไปเต็มๆ ทำให้การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างก้าวหน้า เผลอๆถ้าประสิทธิภาพโดนใจชาวโลกยังเอาออกขายต่างชาติได้อีก ในขณะที่แบรนด์จากต่างชาติจะเข้าไปทำตลาดก็ต้องผ่านการร่วมมือ ร่วมลงทุนผ่านแบรนด์ภายในประเทศก่อนจึงจะมีนโยบายสนับสนุนทางด้านการเงิน เรียกว่าจะทำอะไรก็ขอให้ได้ผลประโยชน์กันทุกฝ่ายไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ท้องถิ่นจีนที่ได้รับความรู้เทคโนโลยีในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าจากต่างชาติ ผลกำไรจากการขายให้ลูกค้าชาวจีน และสิ่งแวดล้อมที่ไร้มลพิษ

ตลาดจีนเค้กชิ้นใหญ่ของค่ายรถยนต์ต่างๆ

ตลาดจีนเค้กชิ้นใหญ่ของค่ายรถยนต์ต่างๆ

สถานการร์รถยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย

แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลกอย่าง Nissan ที่ทำ Nissan Leaf ออกมาขายและกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายเป็นอันดับ1ได้สำเร็จ ก็ยังเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว แต่แค่ตัวของมันค่อนข้างสูง คนที่จะซื้อมาใช้ต้องเป็นผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีระดับหนึ่ง เนื่องจากมันมีมูลค่าเฉียดๆ2ล้าน เงินจำนวนนี้นำไปซื้อรถยนต์หรูในกลุ่ม D-Segment ได้สบายๆแถมยังเหลือเงินไว้แต่งรถได้อีก อีกค่ายหนึ่งจากแดนโสมคือ Hyundai ที่นำรถยนต์ไฟฟ้า Hyundai Ioniq เข้ามาทำตลาดบ้านเราเช่นกันแม้จะมีสัดส่วนที่ไม่มาก ราคาค่าตัวจะต่ำลงมาหน่อยที่ประมาณ 1.7 ล้านบาท นี่คือสองแบรนด์ใหญ่ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกซื้อแต่ก็ต้องมีเงินในมือเกือบๆสองล้านถึงจะอุ่นใจ (ถ้าไม่ได้กู้) ซึ่งอาจเป็นเพราะรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดในบ้านเรายังไม่มากการแข่งขันด้านราคาจึงยังไม่ชัด ครั้นแบรนด์ที่เป็นของคนไทยก็ยังไม่มีการประกาศตัวอย่างเป็นทางการ หรือแม้จะเป็นทางการแล้วก็ต้องมาดูกันว่าราคาเริ่มต้นจะไปจบที่เท่าไร หากราคาไม่แพง คือระดับ 3-4แสนบาท เหมือนในประเทศจีนได้ ก็ยิ่งน่าจะทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ส่วน Vera ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคนไทยคอยกำกับควบคุมการผลิตก็มีรากฐานมาจากจีนจนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเราพัฒนาส่วนใดกันแน่ และราคาเริ่มต้นถึง 945,000 บาท ที่สามารถใช้เงินจำนวนเดียวกันนี้ออกรถยนต์สันดาบภายในที่กว้างขวางอย่าง Honda Civic หรือ Toyota Altis ได้สบายๆ

รถยนต์ไฟฟ้า Vera ที่เคลมว่าสัญชาติไทยแต่ราคาไปเฉียดล้าน

รถยนต์ไฟฟ้า Vera ที่เคลมว่าสัญชาติไทยแต่ราคาไปเฉียดล้าน

คงต้องรอดูกันต่อไปว่า ถ้าแบรนด์คนไทยทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมาสู่ตลาดจริงๆแล้วจะมีราคาเริ่มต้นเท่าใด จะแข่งขันด้านราคากับแบรนด์ใหญ่ๆจนคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากๆเหมือนในประเทศจีนได้ไหม รัฐบาลในอนาคตจะสนับสนุนด้านการเงินให้กับแบรนด์คนไทยเพียงใด เพราะเมื่อถึงวันนั้นแล้วอากาศบนท้องถนนก็คงจะบริสุทธิ์ขึ้นบ้างไม่มากก็น้อยเหมือนกับที่รัฐบาลจีนวางแผนให้เป็นแบบนั้นในอนาคต

ดูเพิ่มเติม

>> ล้ำไปอีก!!! แบตเตอรี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
>> เหตุผลที่ Toyota Mirai ยังไม่รุ่ง

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้