เหตุผลที่ Toyota Mirai ยังไม่รุ่ง

ประสบการณ์ใช้รถ | 1 ม.ค 2562
แชร์ 0

รถยนต์ไม่ใช่แค่สวยและราคารับได้เท่านั้น เรื่องเชื้อเพลิงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อด้วย ถ้าหาสถานีเติมเชื้อเพลิงยากไม่ว่ารถยนต์คันนั้นจะดีแค่ไหนก็ยากที่จะทำยอดขายได้ดี

ในทางการตลาดแล้วถ้าคุณเป็นแบรนด์เล็กๆแบรนด์หนึ่ง ที่ขายสินค้าที่มีเจ้าใหญ่ๆครองตลาดอยู่แล้ว การสื่อสารหรือโฆษณาให้กับลูกค้าได้รับรู้ว่าคุณคือใคร ชื่ออะไร ทำธุรกิจอะไร และลูกค้าสามารถจดจำได้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะอะไร? เพราะว่าถ้าคุณโฆษณาออกมาแล้วลูกค้าไม่สามารถจดจำได้ว่าคุณที่ขายสินค้าA มีแบรนด์ชื่ออะไร เวลาลูกค้าอยากจะใช้สินค้านั้นๆขึ้นมาก็จะไปหาซื้อกับแบรนด์เจ้าตลาด ยกตัวอย่างเช่น สมมติคุณเป็นบริษัทผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ใหม่แกะกล่องไม่เคยมีใครรู้จัก เมื่อคุณโฆษณาให้เห็นข้อดีของสมาร์ทโฟน ว่าทำนั่น ทำนี่ได้ สะดวก โดยลงทุนโฆษณาเป็นเงินหลายล้านบาท แต่มีคนจำนวนมากไม่สามารถจำได้ว่าโฆษณานี้เป็นของแบรนด์อะไร ผลจะเป็นอย่างไร จะมีลูกค้าที่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนที่ทำนู่น ทำนี่ได้มากขึ้น แต่จะหันไปซื้อของ Apple หรือไม่ก็ Samsung แทน เพราะจำแบรนด์คุณไม่ได้ แต่จำแบรนด์เจ้าตลาดได้ การแก้ปัญหานี้คือต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ใหม่ได้นั่นเอง ในทางกลับกันถ้าลูกค้าจำแบรนด์ได้แล้ว แบรนด์ติดตลาดแล้ว คนรู้จักดีอยู่แล้ว ผลิตสินค้าตัวใหม่ออกมาที่ยังไม่เคยมีใครรู้จัก คุณจะทำอย่างไรให้คนรู้สึกว่าน่าใช้และซื้อหา เพราะอาจจะมีแบรนด์อื่นที่มีสินค้าต่างจากคุณแต่ใช้แทนกันได้ ปัญหาแบบนี้ดูจะแก้ไขได้ยากกว่านัก

อุตสาหกรรมรถยนต์เองก็เช่นกัน แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota เป็นแบรนด์ที่คนรู้จักกันดีอยู่แล้วในระดับโลก ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานแทบจะไม่ต้องบอกว่าขายสินค้าอะไรคนส่วนใหญ่ก็รู้ แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่ Toyota ทำสินค้าตัวใหม่ออกมา มันคือ รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะสื่อสารกับลูกค้าอย่างไรให้ลูกค้าอยากจะซื้อไปใช้ เพราะว่าต่อให้ลูกค้าไม่ซื้อไปใช้ก็มีแบรนด์อื่นมากมายที่มีรถยนต์เหมือนกัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนกันต่างกันที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก นั่นคือปัญหาของรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่ชื่อว่า Toyota Mirai ในตอนนี้

ทำไมรถยนต์ Toyota Mirai ไม่ค่อยปัง!

รถยนต์ Toyota Mirai เริ่มเดินสายการผลิตไปตั้งแต่ปลายปี 2014 และก็มานับยอดขายจริงๆจังๆกันตั้งแต่ปี 2015 โดยใช้พลังงานไฮโดรเจนแบบเต็มตัวและให้น้ำบริสุทธิ์ออกมาแทนไอเสีย ทำให้เป็นรถยนต์พลังงานสะอาดอย่างแท้จริง และในปี2016ก็ได้รับรางวัลWorld Green Car of the Year Award เป็นรถยนต์ที่รักษ์โลกที่สุดแห่งปีนั่นเอง แต่กระนั้นยอดขายก็ยังดันไปไม่ค่อยไหว สิ้นปี2017ก็ขายไปทั่วโลกรวมแล้ว 5300 คันเท่านั้น ถ้าเทียบกับรถยนต์ทุกชนิดเชื้อเพลิงทั่วโลกที่ขายได้แล้วนับว่ายังน้อยนิดนัก เหตุผลหลักๆที่ทำให้ยอดขายไม่ค่อยวิ่งของ Toyota Mirai พอจะสรุปได้ดังนี้

รถยนต์ Toyota Mirai

รถยนต์ Toyota Mirai

  1. ข้อดีที่ยังไม่โดดเด่น

คนๆหนึ่งจะซื้อรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน คุณคิดว่าเขาซื้อเพราะว่าอะไร เพราะว่าจุดประสงค์หลักคือเรื่องรักษ์โลกอย่างนั้นหรือ ก็อาจใช่แต่บอกได้แน่ๆว่าไม่ใช่ทุกคน ดังนั้นถ้าคนส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องการรักษ์โลกเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถยนต์แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ก็คงยังไม่ซื้อถ้าไม่มีข้อดีอื่นๆมาแทนรถยนต์ใช้พลังงานน้ำมันสันดาบภายใน ข้อดีที่นอกเหนือจากเรื่องการรักษ์โลกก็คือระยะเวลาในการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเข้าสู่ตัวรถ ไม่นานเหมือนชาร์จด้วยพลังงานไฟฟ้า เรียกว่าเร็วกว่าชาร์จด้วยไฟฟ้าแบบเห็นๆ แต่เทคโนโลยีทุกวันนี้ก็มีเทคโนโลยีการชาร์จพลังงานที่รวดเร็วจนแทบจะมากลบข้อดีของรถยนต์ไฮโดรเจนในแง่การเติมพลังงานแล้วด้วยและก็ยังคงพัฒนาต่อไปจากหลากหลายค่ายผู้ผลิต เรียกว่ารวมหัวกันพัฒนาก็ย่อมได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าและดีกว่า

ไฟฟ้าชาร์จง่าย ไฮโดรเจนชาร์จเร็ว

ไฟฟ้าชาร์จง่าย ไฮโดรเจนชาร์จเร็ว

  1. ราคารถยนต์

Toyota Mirai สัญชาติญี่ปุ่นราคาเท่าไร รถยนต์ Toyota Mirai ขายในประเทศญี่ปุ่นราคาประมาณ 7.2ล้านเยนหรือประมาณ 2.1ล้านบาท ในขณะที่รถยนต์หรู Toyota Alphard ซึ่งเป็นรุ่นที่แพงที่สุดของToyotaเมื่อขายในประเทศไทย แต่ในญี่ปุ่นราคา3.4ล้านเยนหรือประมาณ1ล้านบาท เรียกว่ารถที่แพงที่สุดสำหรับประเทศไทยก็ยังราคาถูกกว่า Toyota Mirai ถึง2เท่า ขนาดในประเทศญี่ปุ่นที่รถยนต์นับว่าราคาไม่แพงยังขาย Toyota Mirai ราคาสูงมาก เหตุผลที่ราคาต้องแพงแบบนี้ก็คงเป็นเพราะต้นทุนที่สูงทั้งด้านการพัฒนาวิจัยและจำนวนรถยนต์ที่ขายไม่ได้มีปริมาณมากทำให้เฉลี่ยต้นทุนได้ยากรถจึงออกมาราคาแรงแบบนี้

รถยนต์ Toyota Alphard ที่ราคายังถูกกว่า Toyota Mirai

รถยนต์ Toyota Alphard ที่ราคายังถูกกว่า Toyota Mirai

เพิ่มเติม

  1. สถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน

ถ้ามีคำถามที่ว่า เกิดมาชาตินี้เคยเห็นสถานีเติมพลังงานไฮโดรเจนหรือยัง ต่อให้เอาคำถามนี้ไปถามคนอายุ60ปีขึ้นไปที่ออกเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศมาแล้ว ส่วนใหญ่คำตอบก็คือ ยังไม่เคยเห็น นั่นแปลว่าต่อให้เป็นเจ้าของรถยนต์ Toyota Mirai จริงๆ จะเติมไฮโดรเจนที่ไหน!!! สถานีเติมพลังงานไฮโดรเจนไม่ใช่จะหากันง่ายๆ และถ้าจะลงทุนสร้างก็ใช้งบประมาณที่มาก ในทางเทคนิคการอัดก๊าซไฮโดรเจนลงไปในรถยนต์นั้น ความยากง่ายทางเทคนิคระหว่างการเติมไฮโดรเจนกับการเติมไฟฟ้าลงแบตเตอรี่นั้นต่างกันชนิดที่เทียบกันไม่ได้ และถึงแม้ทั้งหมดนั้นจะทำได้จริง เจ้าของสถานีไฮโดรเจนจะทำกำไรจากการขายไฮโดรเจนได้หรือไม่ เพราะรถยนต์ Toyota Mirai ที่จะมาเติมไฮโดรเจนทั้งโลกนี้ทุกประเทศรวมกันมียังไม่ถึงหมื่นคัน

สถานีเติมไฮโดรเจนไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ

สถานีเติมไฮโดรเจนไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ

  1. ราคาค่าเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับพลังงานอื่น

มีเว็บไซต์หลายเว็บที่มีการคำนวณราคาของการใช้เชื้อเพลิงทั้งน้ำมันดิบ ไฟฟ้า และไฮโดรเจน เอาเป็นว่าถ้าเป็นพลังงานที่สะอาดเหมือนกันคือรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮโดรเจนเทียบกันสองเชื้อเพลิงนี้ ผลปรากฏว่ารถยนต์ไฟฟ้าใช้ราคาต่อ100กิโลเมตรประมาณ112บาท ในขณะที่รถยนต์ไฮโดรเจนใช้ราคาต่อ100กิโลเมตรประมาณ231บาท อย่างไรก็ตามราคาต่อกิโลเมตรของการใช้ไฟฟ้าอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศที่ราคาไฟฟ้าไม่เท่ากัน สรุปว่าแม้จะมีส่วนต่างราคาแตกต่างกันไปในแต่ละที่แต่ราคาต่อกิโลเมตรของไฮโดรเจนก็ไม่ได้ทิ้งห่างกับการใช้ไฟฟ้ามากระดับดึงดูดให้อยากหันมาใช้ และถ้าคิดตามประสิทธิภาพของการเผาผลาญเชื้อเพลิงระหว่างไฮโดรเจนและไฟฟ้าแล้ว ไฮโดรเจนยังด้อยกว่าไฟฟ้าอยู่ประมาณสองเท่า

  1. ไม่มีใครอยากแข่งด้วย

ตลาดของรถยนต์สันดาบภายในด้วยน้ำมันนั้นเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับพลังงานประเภทอื่นๆ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็กำลังจะขยายตัวขึ้นเรื่อย แบรนด์ต่างๆก็หันหน้ามาผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากันเรียบร้อยแล้ว ส่วนรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนยังไม่เห็นว่ามีข่าวว่าแบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจะหันหน้ามาพัฒนารถยนต์ไฮโดรเจนอย่างจริงจังนอกจาก Toyota (ที่หลังๆก็เริ่มจะถอนตัวแล้ว) มีเพียงเพื่อนร่วมชาติที่มีรถยนต์ไฮโดรเจนมาโชว์ตัวตามงานมอเตอร์โชว์ต่างๆบ้างคือ Honda แต่แบรนด์อื่นเอาทรัพยากรไปทุ่มให้กับรถยนต์ไฟฟ้ากันหมด เมื่อเป็นดังนี้แล้วผลจะเป็นอย่างไร เมื่อคนไม่แข่งตัว ตลาดของรถยนต์ไฮโดรเจนก็จะไม่โต เมื่อไม่โตโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อรถยนต์ไฮโดรเจนมาใช้ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก

Honda Clarity Fuel Cell รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนจาก Honda

Honda Clarity Fuel Cell รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนจาก Honda

ด้วยเหตุผลคร่าวๆ 5 ข้อนี้ ก็คงจะตอบได้แล้วว่า ลูกค้า(ส่วนใหญ่) ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะหันหน้าไปซื้อรถยนต์ไฮโดรเจนแม้จะเป็นรถยนต์ไฮโดรเจนแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Toyota ก็ตาม สำหรับคนไทยเราแล้วถ้าราคารถไม่ได้ถูก ค่าบำรังรักษาไม่แพง ชนิดว่าใครก็ซื้อได้ก็คงยากที่รถยนต์ไฮโดรเจนจะเข้ามาทำตลาดแต่ถึงอย่างไรถ้าวันหนึ่งที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นไปสูงมากๆคนไทยก็คงหันหน้าไปเติมแก๊สกันอยู่ดี

เพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้