บรรพบุรุษของรถยนต์คันแรกของโลก

น้ำดื่มขวดลิตรธรรมดาจำนวน 1 ขวด ที่ความดันปกติเมื่อถูกทำให้เดือดจะระเหยกลายเป็นไอที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสและจากปริมาตร 1 ขวดจะขยายตัวกลายเป็นปริมาตร1,600ชวดของปริมาตรเดิม และด้วยกฎง่ายๆของการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวกลายเป็นไอ เป็นจุดกำเนิดของรถยนต์ที่วิ่งกันเป็นพันล้านคันในทุกวันนี้

คาร์ล ฟรีดริช เบนซ์ วิศวกรชาวเยอรมันถูกขนานนามว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์คันแรกของโลกในช่วงปี 1885 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงสันดาบภายใน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นก็มีสิ่งประดิษฐ์รูปร่างคล้ายรถถือกำเนิดขึ้นมาแล้วเช่นกันเพียงแต่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงสันดาบภายในแบบที่คาร์ล เบนซ์เป็นผู้ประดิษฐ์ แต่ใช้ไอน้ำเป็นแรงขับดันและสันดาบภายนอกทำให้รถก่อนรถยนต์คันแรกนั้นเป็นรถที่เคลื่อนที่ด้วยแรงดันไอน้ำ นับได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของรถยนต์ที่ทั่วโลกขนานนามว่าเป็นรถยนต์คันแรกได้อย่างแท้จริง (ทั่วโลกขนาดนามรถของคาร์ล เบนซ์เป็นรถยนต์คันแรกด้วยนิยามว่ารถยนต์คือรถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงและสันดาบภายใน)

จุดกำเนิดรถไอน้ำ

สิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆในโลกนี้ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาต่อๆกันมาแทบทั้งนั้น รถพลังงานไอน้ำคันแรกของโลกก็เช่นกัน มันไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อใช้ขนส่งหรือให้คนขับเพราะขนาดของมันมีความยาวแค่65ซม.เท่านั้น และมันถูกประดิษฐ์ขึ้นเป็นของเล่นให้แก่จักรพรรดิหรือฮ่องเต้ในประเทศจีนตั้งแต่สมัยปี 1672 การที่มันนถูกทำมาให้เป็นของเล่น มันจึงไม่ได้ถูกขนานนามว่าเป็นรถยนต์คันแรก  แต่ก็ยังได้รับการยกย่องให้เป็นรถคันแรกที่ใช้พลังงานไอน้ำและสามารถเคลื่อนที่ได้สำเร็จ โดยผู้ที่ประดิษฐ์รถของเล่นคันแรกที่ทรงพลังคันนี้ขึ้นมาคือ Ferdinand Verbiest

รถของเล่นที่ใช้พลังงานไอน้ำคันแรกของโลกมีความยาว65ซม.

ความฉลาดของนาย Ferdinand Verbiest คือแนวคิดที่ใช้ไอน้ำดันกังหันและต่อเข้ากับล้อรถ โดยไอน้ำที่เกิดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนรถคันนี้มาจากหม้อต้มทรงกลมที่มีการต่อท่อจากด้านบนลำเลียงไอน้ำไปยังกังหันให้กังหันหมุน (คล้ายการใช้น้ำดันกังหันให้หมุนแต่นี่ใช้ไอน้ำแทน) และต่อกังหันเข้ากับเพลงรถส่งกำลังไปยังล้อ นาย Ferdinand Verbiestเป็นผู้ที่ทำงานให้กับราชวงศ์จีนเป็นเวลานานและมีผลงานหลายอย่างรวมถึงงานทางด้านดาราศาสตร์ด้วย แต่สุดท้ายกลับเสียชีวิตด้วยบาดแผลจากการตกม้าพยศทำให้โลกใบนี้สูญเสียบุคคลากรสำคัญระดับโลกไป

นายFerdinand Verbiest ผู้ประดิษฐ์รถของเล่นที่ใช้ไอน้ำขับเคลื่อน

รถไอน้ำบรรพบุรุษรถยนต์คันแรก

หลังจากที่มีรถต้นแบบเป็นรถของเล่นพลังงานไอน้ำแล้วต่อมาในปี1769-1770 ก็มีการประดิษฐ์รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไอน้ำที่ขนาดใหญ่มากพอที่จะโดยสารหรือบรรทุกสินค้าขึ้นมาได้สำเร็จโดยกัปตันในกองกำลังของฝรั่งเศสที่ชื่อ Nicolas-Joseph Cugnot และยังเป็นวิศวกรของกองทัพด้วย ซึ่งรถไอน้ำคันนั้นเป็นรถที่มีสามล้อ สองล้อหลังดัดแปลงมาจากล้อของรถม้าที่สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ค่อนข้างมากและยังเป็นล้อแบบเดียวกันที่ใช้ในการทำเป็นล้อลากของปืนใหญ่ ส่วนล้อหน้าเป็นแบบล้อเดียวตรงกลางรับน้ำหนักของหม้อต้มน้ำ และมีที่นั่งพร้อมคันบังคับบริเวณกลางตัวถัง รถคันนี้เป็นรถขนาดจริงคันแรกที่ประดิษฐ์ขึ้นได้สำเร็จ มันมีน้ำหนักค่อนข้างมากถึง 2.5 ตัน น้ำหนักมากขนาดนี้ด้วยกำลังของไอน้ำที่จะขับดันให้มันวิ่งไปได้ต้องมากพอดู ทำให้มันมีความเร็วในการวิ่งได้สูงสุดคือ 3.6 กม./ชม.เท่านั้น แทบจะเร็วพอๆกับมนุษย์เดินเลยทีเดียว แต่ก็ดีตรงที่มันสามารถบรรทุกของหนักๆได้ แต่ด้วยน้ำหนักที่มากของตัวมันเองและเทคโนโลยีของการใช้แรงดันไอน้ำยังไม่ดีพอทำให้ประสิทธิภาพของรถไอน้ำคันนี้ค่อนข้างแย่ เพราะนอกจากจะวิ่งได้ช้าแล้ว การวิ่งขึ้นเนินที่ชันหรือการข้ามสิ่งกีดขวางขนาดเล็ก พื้นดินที่ขรุขระ ยังทำได้ไม่ดีนัก

Nicolas-Joseph Cugnot ผู้ประดิษฐ์รถไอน้ำที่ใช้โดยสารได้คันแรกของโลก

รถไอน้ำคันแรกของโลกในปี 1769

การทดลองยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ ต่อมาในปี1772 พระเจ้าหลุยส์ที่15 ได้สนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาและทรงเก็บสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้เข้าสู่คลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ และในปี 1800 รถไอน้ำนี้ก็ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปเก็บในพิพิธภัณฑ์ศิลปวัตถุแห่งชาติของประเทศฝรั่งเศส (Conservatoire national des arts et métiers) และก็ยังสามารถให้ผู้คนเข้าชมนวัตกรรมนี้ได้ตราบจนปัจจุบัน

รถไอน้ำที่พัฒนาจากปี1769และเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่ฝรั่งเศสในปัจจุบัน

แบบแปลนด้านข้างของรถพลังงานไอน้ำคันแรกของโลก

หลังจากที่มันเป็นนวัตกรรมที่ถูกเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู 240ปีหลังจากที่มันเกิดมาบนโลกนี้ปี2010 นักเรียนของสถาบัน French engineering and research graduate school ในฝรั่งเศสเกิดความสงสัยถึงหลักการและประสิทธิภาพของรถไอน้ำ จึงได้ใช้แนวคิดนี้นำมาประดิษฐ์รถไอน้ำที่คล้ายกันขึ้นโดยพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเขาก็ทำได้จริง เป็นการพิสูจน์ว่าหลักการของรถไอน้ำต้นแบบที่ทำขึ้นในปี1769นั้นเป็นไปได้และนับว่าเป็นอีกหนึ่งบรรพบุรุษของรถยนต์ในปัจจุบัน

รถน้อยในสมัยนั้นก็ยังมีอุบัติเหตุ

ถึงแม้ว่ารถในสมัยนั้นยังมีจำนวนน้อยหรือแทบจะไม่มี ก็ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ เรื่องอุบัติเหตุที่ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกของวงการรถคือปี 1771 ในขณะนั้นรถไอน้ำของนาย Nicolas-Joseph Cugnot ซึ่งเป็นรุ่นที่2ได้ไปชนเข้ากับกำแพงของคลังแสงในปารีส อาจจะเนื่องด้วยการบังคับที่ยังไม่คล่องหรือระบบไอน้ำที่ควบคุมได้ยากในตอนนั้นทำให้มันกลายเป็นที่รู้จักกันในนามว่า “อุบัติเหตุครั้งแรกของวงการรถ” อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรแน่ชัด แต่ที่เป็นลายลักษณ์อักษรแน่ชัดเกิดขึ้นในอีก33ปีต่อมาคือปี 1804 และก็เป็นเจ้าของรถนั่นเองคือนาย Nicolas-Joseph Cugnot ที่ถูกจับกุมและพิพากษาว่ามีความผิดฐานขับรถอันตราย ถึงแม้จะไม่ได้เสียชิวิตจากอุบัติเหตุแบบ Ferdinand Verbiest ที่เจอม้าพยศ แต่การถูกจับกุมจากรถที่ตัวเองสร้างขึ้นมาแบบนี้จะเข้าทำนองที่ว่ามาตกม้าตายตอนท้ายรึเปล่านะ อย่างน้อยนั่นเป็นการบ่งบอกว่าเรื่องความสำนึกเกี่ยวกับอันตรายจากการขับขี่นั้นก็มีมานานเป็นร้อยๆปีแล้วเช่นกัน

อุบัติเหตุของรถไอน้ำนับเป็นอุบัติเหตุของรถครั้งแรกของโลก

สเปกรถไอน้ำของ Nicolas-Joseph Cugnot ในปี 1770

สเปกของรถไอน้ำที่ประดิษฐ์เพื่อโดยสารได้คันแรกนั้นมีความยาวตัวถัง 7.32 เมตร ความกว้างฐานของล้อหลังสองล้อ 0.19 เมตร ความสูงรวม 2.2 เมตร ระยะห่างจากพื้นถึงก้นหม้อต้ม 0.47 เมตร ล้อรถมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.23 เมตร มีส่วนสำหรับบรรทุกสินค้าขนาดกว้าง 1.1 เมตร ยาว 3.4 เมตร ส่วนระบบต้มน้ำให้กลายเป็นไอประกอบด้วยลูกสูบ 2ลูก โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางของลูกสูบ 32.5 ซม. ระยะชักของลูกสูบ 30.5 ซม. โดยทั้งหมดนี้สร้างกำลังที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ 4-5 ตัน ด้วยความเร็ว 3.5 – 3.9 กม./ชม. และสามารถวิ่งได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 12-15 นาที นับว่าประสิทธิภาพต่างกันกับรถยนต์ในปัจจุบันราวกับฟ้าและเหว แต่ก็นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของมวลมนุษยชาติ ที่ต่อมานายคาร์ล ฟรีดริช เบนซ์ ได้นำมาเป็นรากฐานในการพัฒนารถยนต์ที่สันดาบภายในใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในเวลาต่อมา

ลูกสูบสองตัวที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถไอน้ำบรรพบุรุษของรถยนต์คันแรก

เพื่อนๆชาว chobrod คงเห็นภาพของบรรพบุรุษรถคันแรกของโลกกันไปแล้วนะครับ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรและมีการพัฒนาให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆจนกลายเป็นรถยนต์ที่สันดาบภายในให้เราได้ใช้อย่างในปัจจุบัน แถมในขณะที่รถก็ยังไม่ได้มีมากในสมัยก่อน การขับรถจนเกิดอุบัติตุก็ยังเกิดขึ้นได้แสดงว่ารถยนต์เต็มท้องถนนอย่างในวันนี้เราก็ต้องขับอย่างระมัดระวังให้สมกับเป็นคนรุ่นใหม่ไม่ให้ตกม้าตายแบบตัวอย่างที่มีให้เห็นกันมาในอดีตนะครับ

ดูเพิ่มเติม
สี่งที่คุ้นเคยเเต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับ Honda แบรนด์รถยนต์แห่งความภาคภูมิใจของคนญี่ปุ่น
หลักการทำงานของเครื่องยนต์ VTEC

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
อ่านรีวิวรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์  เชิญที่นี่