น้ำมันรถใกล้หมดทำไงดี !

ประสบการณ์ใช้รถ | 9 เม.ย 2568
แชร์ 0

เมื่อต้องพบเจอเข้ากับเหตุการณ์รถน้ำมันหมดจะต้องทำอย่างไร น้ำมันรถใกล้หมดมีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถนำรถไปถึงจุดหมายปลายทางได้

รถไม่มีน้ํามัน หรือ รถน้ำมันหมดในระหว่างที่ทำการขับขี่อยู่บนท้องถนนนับเป็นอีกหนึ่งในประสบการณ์ที่ผู้ใช้รถหลายรายจะต้องพบเจอ เนื่องจากในบางครั้งเส้นทางที่ผู้ขับขี่จะต้องเดินทางไปนั้นอยู่ในระยะไกลและไม่มีปั๊มน้ำมันอยู่ในบริเวณสองข้างทางก่อนถึงจุดหมายผนวกกับน้ำ มัน รถ หมด เพราะไม่ได้เตรียมเติมน้ำมันมาให้พอดีกับจุดหมายปลายทางย่อมทำให้ท่านต้องพบเจอเข้ากับปัญหาใหญ่ทั้งจากการเดินทางไปถึงเป้าหมายช้ากว่ากำหนด จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทาง หรือ ในกรณีที่น้ำ มัน รถ หมดในช่วงเวลากลางคืนย่อมมีความเสี่ยงต่อการเจอมิจฉาชีพและต้องรอคอยความช่วยเหลืออยู่บนถนนแค่เพียงลำพังนั่นเอง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่จะต้องพบเจอหากท่านไม่เติมน้ำมันให้มีความพอดีกับเส้นทางที่จะต้องเดินทางไป Chobrod.com ได้นะแนวทางการแก้ปัญหาเมื่อต้องพบเจอเข้ากับเหตุการณ์รถไม่มีน้ำมัน หรือ รถ น้ำ มัน หมด มาให้ท่านลองไปปรับใช้

น้ำมันรถใกล้หมดทำไงดี !
น้ำมันรถใกล้หมดทำไงดี ! 

 

เมื่อผู้ขับขี่ทราบว่ารถที่กำลังใช้งานอยู่น้ำมันหมดในระหว่างที่ทำการขับขี่อยู่บนท้องถนนการตั้งสติแล้วค่อยๆประคองรถเพื่อให้ไปถึงจุดหมายได้นับว่ามีความสำคัญมากที่สุด เพราะหากผู้ขับขี่เพิ่มความเร็วมากยิ่งขึ้นก็ยิ่งส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและเร่งการใช้น้ำมันที่ยังพอเหลืออยู่ในถังน้ำมันมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดรถ Chobrod.com ได้นำ 6 เคล็ดลับเมื่อต้องเผชิญเข้ากับปัญหาน้ำ มัน รถหมด 

แนะนำวิธีแก้ปัญหาเมื่อต้องเจอปัญหารถน้ำมันหมด

 

1.ปิดระบบปรับอากาศ

ระบบปรับอากาศในรถยนต์จะต้องใช้พลังงานจากเครื่องยนต์เข้ามาเป็นตัวทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน เมื่อรถผู้ขับขี่น้ำมันรถใกล้หมดทำไงดี ก็ต้องเริ่มจากการปิดสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นออกไป อาทิ รถยนต์ที่ได้รับการติดตั้งระบบกระจกแบบอัตโนมัติปรับเลื่อนได้ด้วยไฟฟ้าอาจจะต้องทำการลดกระจกด้านใดด้านหนึ่งลงมาเล็กน้อยเพื่อให้มีอากาศหายใจและในกรณีที่รถน้ำมันหมดระบบไฟภายในรถยนต์จะไม่สามารถใช้งานได้และกระจกที่เป็นรูปแบบปรับออโต้ก็จะไม่สามารถเลื่อนขึ้นลงได้นั่นเอง กอปรกับรถยนต์ที่ได้รับการติดตั้งกระจกแมนแมนนวลก็ควรละกระจกลงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศภายนอกเข้าก่อนทำการปิดระบบปรับอากาศภายในรถแล้วจึงทำการขับขี่รถต่อไป

2.ปิดระบบอินโฟเทนเมนท์

เพื่อหลีกเลี่ยงกับการพบเจอเข้ากับเหตุการณ์น้ํา มัน รถ หมด ก่อนถึงจุดหมายเมื่อผู้ขับขี่ทราบว่าระดับน้ำมันในรถของท่านใกล้ถึงตัวอักษร E ที่แสดงให้เห็นเป็นสัญลักษณ์อยู่บริเวณหน้าปัดแสดงผลการขับขี่ให้พึงระลึกเอาไว้เสมอว่ารถน้ำมันใกล้หมดและจะต้องปรับการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆที่ไม่มีความจำเป็นออกไปเพื่อให้รถใช้พลังงานจากเครื่องยนต์น้อยที่สุดและสามารถที่จะเดินทางไปจนถึงจุดหมายได้ ระบบอินโฟเทนเมนท์ก็ถือเป็นอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่ต้องใช้งานไฟฟ้าซึ่งส่งผ่านมาจากไดชาร์จซึ่งต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์ในการหมุนไดชาร์จเมื่อรถน้ำมันใกล้หมดจึงควรปิดระบบอินโฟเทนเมนท์ทั้งในส่วนของระบบนำทางเนวิเกเตอร์ วิทยุ เครื่องเสียง หรือ หน้าจอทัชสกรีนเพื่อให้รถประหยัดพลังงานเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

3.เข้าเกียร์ว่างในขณะที่รถจอดนิ่ง หรือ ติดไฟแดง

เมื่อรถน้ำมันหมดสิ่งที่ผู้ขับขี่จะต้องคำนึงถึง คือ การลดการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อที่จะประหยัดน้ำมันเอาไว้ให้ได้มากที่สุด การเข้าเกียร์ว่างในขณะที่รถติดไฟแดงก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเซฟน้ำมันเอาไว้ได้ เนื่องจากในขณะที่รถจอดนิ่งโดยที่ไม่ได้เครื่องยนต์ และ อยู่ในตำแหน่ง D เครื่องยนต์จะทำการส่งน้ำมันไปยังระบบส่งกำลังเพื่อให้คลัชเกียร์ทำงานและพร้อมสำหรับการออกตัวอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากผู้ขับขี่เลือกที่จะใส่เกียร์ว่างในตำแหน่ง N ย่อมเป็นการตัดการทำงานของระบบคลัชลงไปโดยอัตโนมัติและประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม

4.ใช้ความเร็วในระดับคงที่

ในกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องพบเจอเข้ากับปัญหารถน้ำมันใกล้หมดก่อนถึงจุดหมาย การเลือกใช้วิธีขบรถโดยใช้ระยะความเร็วที่คงที่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากการเร่งเครื่องยนต์ หรือ ผ่อนความเร็วสลับกันอยู่โดยตลอดจะทำให้เครื่องยนต์ต้องใช้เชื้อเพลิงในการเพิ่มระดับความเร็วในแต่ละครั้งมากตามตัวไปด้วย ทั้งนี้สำหรับรถยนต์ที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดตั้งแต่ 1.2 ลิตร ถึง 1.8 ลิตร ควรใช้อัตราความเร็วคงที่ในระยะ 40-45 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนรถที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร ถึง 3.0 ลิตร ควรใช้ความเร็วประมาณ 45-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งอยู่ในระยะความเร็วที่เหมาะสมโดยที่เครื่องยนต์ไม่ต้องใช้พลังงานจากน้ำมันมากจนเกินไป

5.อย่าเร่งเครื่องบ่อย

เมื่อรถน้ำมันใกล้หมดสิ่งที่ผู้ขับขี่หลายรายมักจะกระทำ คือ รับขับเพื่อนำพารถให้ไปถึงจุดหมายโดยเร็วที่สุดแต่ลืมไปว่าการที่ผู้ขับขี่ต้องเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วสูงสลับกับผ่อนคันเร่งย่อมที่จะส่งผลให้เครื่องยนต์มีการทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง โดยที่จะต้องใช้น้ำมันในปริมาณที่มากกว่าการขับขี่โดยใช้ความเร็วตามปกติ หรือ การรักษาความเร็วรถให้คงที่อยู่มากทีเดียว

6.เปิดโหมด Econ

สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่จากหลายค่ายมีการติดตั้งปุ่ม Econ หรือ ปุ่มปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้อยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน เมื่อผู้ขับขี่เปิดการใช้งานผ่านการกดปุ่ม Econ รถจะเริ่มปรับการทำงานของเครื่องยนต์ลงพร้อมทั้งปรับระดับการใช้งานของระบบไฟให้อยู่ในโหมดที่ประหยัดแต่ยังคงรักษาความเสถียรภาพของระดับความเร็วพร้อมทั้งการใช้งานฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆได้ตามปกติซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถประหยัดน้ำมันและไปถึงจุดหมายได้ตามปกติ

รถไม่มีน้ํามัน ต้องทำอย่างไร

สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องพบเจอเข้ากับปัญหาน้ำ มัน รถ หมด ย่อมส่งผลให้การเดินทางถึงจุดหมายเป็นไปอย่างล่าช้ามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามแม้จะใช้วิธีการต่างๆแล้วรถก็ยังคงน้ำมันหมดกลางทางอยู่ดีมีแนวทางการแก้ไขง่ายๆดังนี้ 

  1. ค้นหาปั๊มที่อยู่ในบริเวณใกล้สุดจากโทรศัพท์สมาร์ทโฟนก่อนจะทำการติดต่อเพื่อขอซื้อน้ำมันเพิ่มเติมซึ่งในบางครั้งมีการบริการในจุดนี้ให้แก่ผู้ขับขี่ในบริเวณใกล้เคียงกับปั๊มน้ำมันที่มีการเปิดโปรโมชั่นนี้ อาทิ PT Max Service ซึ่งถือเป็นบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้แก่รถ น้ำ มัน หมดในบริเวณใกล้เคียงกับปั๊ม PT ในระยะไม่เกิน 10 กิโลเมตร เพียงแค่กด 1614 แล้วโทรออกก็สามารถที่จะแจ้งเรื่องรถน้ำมันหมดเพื่อขอใช้บริการดังกล่าวได้
  2. โทรศัพท์หาบริษัทประกัน ปัจจุบันรถที่มีการทำประกันชั้น 1 หรือ ชั้น 2 มักจะมีการระบุอยู่ในรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยในการช่วยเหลือขณะที่น้ำ มัน รถ หมด โดยจะได้รับการช่วยเหลือจากตัวแทนประกันภัยในการนำน้ำมันเข้ามาส่งให้ถึงรถของผู้ขับขี่ที่กำลังประสบเหตุอยู่ซึ่งน้ำมันที่ได้รับจะอยู่ในปริมาณ 4-6 ลิตร ซึ่งเพียงพอต่อการที่ผู้ขับขี่สามารถขับประคองรถไปจนถึงปั๊มน้ำมันด้านหน้า
  3. ติดต่อฉุกเฉินไปที่ 191 , จส 100 และหน่วยบริการประชาชนในพื้นที่ อาทิ ป้อมตำรวจ สายตรวจตำบล หรือ มูลนิธิต่างๆที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อขอความอนุเคราะห์ในการนำน้ำมันเข้ามาให้ในจุดที่รถจอดน้ำมันหมดอยู่นั่นเอง

เตรียมตัวก่อนรถไม่มีน้ำมัน

เติมน้ำมันให้เต็มอยู่เสมอ
เติมน้ำมันให้เต็มอยู่เสมอ
 

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องพบเจอเข้ากับสถานการณ์น้ํา มัน รถ หมด สิ่งที่ควรทำมีดังนี้

 

  • เติมน้ำมันให้เต็มอยู่เสมอ เพราะการเดินทางในระทางไกลข้ามจังหวัด หรือ การขับขี่รถเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติซึ่งมีระยะทางไกลควรเติมน้ำมันเต็มถังในขณะที่ยังมีปั๊มอยู่ในระหว่างทางเพื่อป้องกันปัญหาน้ำ มัน รถ หมด
  • ในกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องขับรถไปในระยะทางไกลและทราบถึงสภาพเส้นทางว่ามีปั๊มน้ำมันให้บริการอยู่ ณ จุดใด ควรวางแผนการเดินทางเพื่อหยุดพักเติมน้ำมันในปั๊มดังกล่าวให้สอดคล้องกับระยะทางก่อนถึงจุดหมาย เนื่องจากการเติมน้ำมันรถในปริมาณที่พอดี หรือ มากกว่าระยะทางของจุดหมายย่อมช่วยให้ไม่ต้องพบเจอกับปัญหารถไม่มีน้ำมัน
  • เลือกใช้น้ำมันสำรอง หากรถของท่านเป็นรถยนต์เก่าที่มีอายุการใช้งานมาอย่างยาวนานและมีอัตราการบริโภคน้ำมันสูง หรือ ผู้ที่ชื่นชอบการขับรถในพื้นที่ทุรกันดารควรเตรียมถังน้ำมันสำรองโดยเติมน้ำมันให้เต็มถังและพกพาใส่รถไปด้วยเมื่อรถน้ำมันใกล้หมดก็สามารถที่จะเลือกใช้น้ำมันจากแกลลอนสำรองที่ติดรถไว้นั่นเอง

น้ํา มัน รถ หมด เติมน้ำมันไปแล้วเครื่องไม่ติดทำอย่างไร

หากผู้ขับขี่พบเข้ากับปัญหาน้ํา มัน รถ หมด แล้วทำการเติมน้ำมันเข้าไปใหม่แล้วปรากฏว่าเครื่องยนต์ยังคงสตาร์ทไม่ติดให้ลองเปิดฝากระโปรงและกดไปที่ปั๊มแรงดันต่ำ (ปั๊มแย๊ก , ปั๊มมือ) ซึ่งจะได้รับการติดตั้งเข้ามาไว้กับรถในทุกรุ่นซึ่งมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกและมีจุกสีดำอยู่ด้านบนให้ผู้ขับขี่กดที่จุกสีดำด้านบนกรองน้ำมันเพื่อไล่อากาศออกจากสายน้ำมันและทำให้น้ำมันเข้าสู่ระบบเครื่องยนต์ได้เต็มที่มากยิ่งขึ้นและต้องทำการกดที่ปั๊มแย๊กจนมีความรู้สึกว่าตึงมือจึงทำการสตาร์ทรถเครื่องยนต์จะสตาร์ทติดตามปกติ

สำหรับผู้ที่มีความสนใจเคล็ดลับในการใช้งานรถ เมื่อพบปัญหาน้ํา มัน รถ หมด รถไม่มีน้ํามัน น้ำมันรถใกล้หมดทำไงดี พร้อมเทคนิคในการขับรถเพื่อให้ถึงจุดหมายแม้ว่าน้ํา มัน รถ หมด สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Chobrod.com ตลาดรถออนไลน์ชั้นนำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

อ่านเพิ่มเติม