ทำความรู้จัก !! เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับอัฉริยะจาก 7 ค่ายชั้นนำสายพันธุ์ญี่ปุ่น

รถยนต์สมัยใหม่ในยุคนี้ เรียกได้ว่ามีการแข่งขันที่สูงมาก ๆ ด้วยการดีไซน์ออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูล้ำสมัยเพื่อให้ใช้ได้อีกนาน ไหนจะภายใน, เครื่องยนต์ ต่างก็พัฒนากันอย่างไม่หยุด ซึ่งระบบความปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญให้รถยนต์รุ่นนั้น ๆ มีความน่าสนใจและคุ้มค่า คุ้มราคานั่นเอง โดยแต่ละค่ายก็ได้พัฒนาระบบความปลอดภัยให้เหนือระดับ ซึ่งก็จะมีชื่อเรียกเฉพาะของแต่ละค่าย และยังมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอีกด้วย วันนี้เราจะขอพาทุกท่านมารู้จักระบบความปลอดภัยเหนือระดับของแต่ละค่ายจากรถญี่ปุ่น

1.Toyota Safety Sense

Toyota Safety Sense เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ถูกอัปเกรดให้มีความอัฉริยะมากยิ่งขึ้น

ระบบความปลอยภัยจากค่ายสามห่วง โดยเดินทางมาถึงเจนฯที่ 2 แล้วกับระบบ Toyota Safety Sense โดยหลัก ๆ แล้วก็คือเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ถูกอัปเกรดให้มีความอัฉริยะมากยิ่งขึ้นจะช่วยลดอุบัติเหตุ ซึ่งระบบนี้ก็คือชุดระบบความปลอดภัยโดยเจนฯที่ 1 นั่นเริ่มในช่วงปี 2015 มาจนถึงช่วงปี 2018 ที่พัฒนาเป็นเจนฯที่ 2 โดยประกอบด้วย 6 ระบบช่วยผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ได้แก่

Toyota Safety Sense เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ถูกอัปเกรดให้มีความอัฉริยะมากยิ่งขึ้น

• Lane Departure Alert ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ
• Pre – Collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
• Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
• Automatic High Beams ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
• Road Sign Assist ระบบเตือนสัญญาณจราจร
• Lane Tracing ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน

ขั้นตอนการทำงานของระบบ Toyota Safety Sense

ระบบ Toyota Safety Sense นั้นทำงานผ่านกล้องด้านหน้า แบบเดี่ยว พร้อมกับเรดาร์ตรวจคลื่นความถี่ระดับละเอียด (มิลลิเมตร) อุปกรณ์ทั้งหมดก็คล้ายกับรุ่นเก่า แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือมีความละเอียดมากยิ่งขึ้นพร้อมขยายขีดความสามารถในการตรวจจับได้ไกลมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา Toyota Safety Sense เจนฯ 1 นั้นจะอยู่ในรถ Toyota ในประเทศญี่ปุ่น, ยุโรป, สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ใน เจนฯที่ 2 นั้นที่ชาวไทยได้ใช้แล้วก็คือ Toyota C-HR HV Hi (ตัวท็อป) ซึ่งเป็นตัว Hybrid นั่นเอง  

2. Honda Sensing 

Honda Sensing

ความปลอดภัยอัฉริยะที่คนไทยนั้นรู้จักกันดีของค่าย Honda นั่นก็คือระบบ Honda Sensing ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้มีความปลอดภัยและไฮเทคของค่ายนี้เลย โดยเน้นการทำงานที่ครบครันระหว่างรถยนต์คนอื่น ไปจนถึงผู้คนบนทางเท้า ระบบ Honda Sensing นั้นคือเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ประกอบด้วยระบบต่าง ๆ ดังนี้

ระบบ Honda Sensing คือระบบอัฉริยะที่ถูกพัฒนามาจากค่าย Honda

• Collision Mitigation Braking System ระบบเตือนการชน รถและคนเดิน พร้อมระบบช่วยเบรก
• Adaptive Cruise Control ระบบควบคุมความเร็ว และปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้า
• Lane Keeping Assist System ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
• Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถอยู่นอกช่องเดินรถ
• Auto High-Beam ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

ระบบ Honda Sensing นั้นมีในประเทศไทยมาสักพักใหญ่ ๆ แล้วด้วยรุ่นแรกที่นำ Honda Sensing เข้ามาใช้ก็คือ Honda Civic, Honda Hr-v, New Honda Accord โฉมล่าสุด ซึ่งได้การตอบรับที่ดีเยี่ยมจากชาวไทยอยู่พอตัวเลยทีเดียว แต่จริง ๆ แล้วสำหรับค่าย Honda นั้น ในส่วนของระบบความปลอดภัยยังมีระบบ Advanced Safety อีกด้วยเช่น 

• Multi-View Camera System ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง
• Honda Smart Parking Assist System ระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบะช่วยเบรก
• Cross Traffic Monitor ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านตอนถอย
• Driver Attention Monitor ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่

ทั้งหมดนี้คือระบบความปลอดภัยสุดอัฉริยะจากค่าย Honda ที่จะทำให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดย ระบบความปลอดภัย Honda Sensing จะทำงานผ่านกล้อง และเรดาร์ที่หน้ารถนั่นเอง และในอนาคตคงจะมีรถรุ่นอื่น ๆ ที่รองรับระบบ Honda Sensing มากยิ่งขึ้น

ดูเพิ่มเติม

>> รถรุ่นใดปลอดภัยสุด ๆ ในไทย การันตีด้วย 5 ดาว "ASEAN NCAP"

>> Isuzu เติม B20 ได้แล้ว เข้าศูนย์ก่อนใช้ มีรุ่นไหนบ้างต้องดู

 3. Suzuki Safety Support

ระบบ Suzuki Safety Support

สำหรับระบบเทคโนโลยี Suzuki Safety Support นั้นเป็นการอัปเกรดความปลอดภัยในแก่รถยนต์จากค่าย Suzuki นั่นเอง พื้นฐานส่วนใหญ่รถยนต์จากค่ายนี้จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดเล็กเน้นรูปลักษณ์ที่มีความสดใสน่ารัก พร้อมกับความประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ และราคาของตัวรถเป็นที่จับต้องได้ง่ายอีกด้วย แต่น่าเสียดายระบบ Suzuki Safety Support ยังไม่มีในประเทศไทย จะมีเพียงแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่อนาคตมาแน่ เพราะค่ายต่าง ๆ ก็มีระบบความปลอดภัยอัจฉริยะเปิดตัวกันอย่างหนักหน่วง โดย Suzuki Safety Support นั่นประกอบด้วยระบบต่าง ๆ ดังนี้

Suzuki Safety Support ระบบอัจฉริยะที่มีในรถค่าย Suzuki ที่ยังไม่ได้เข้าประเทศไทย

• ระบบป้องกันการชนด้านหน้า Dual Sensor Brake Support
• ระบบป้องกันการถอยชนท้าย Brake Support -Reverse
• ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจหน้า-หลัง
• ระบบป้องกันรถออกนอกเลน
• ระบบอ่านป้ายจราจร
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง
• ไฟสูงอัตโนมัติ
• ระบบแจ้งเตือนรถคันหน้าเคลื่อนตัว
• ไฟเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ 

Dual Sensor Brake Support จะช่วยป้องกันการชนคันหน้า

ระบบ Suzuki Safety Support นั้นอาจจะมาช้าไปเสียหน่อย เพราะในประเทศไทยรุ่นที่คาดว่าได้จะได้ระบบ Suzuki Safety Support เป็นรุ่นนี้อาจจะเป็น Suzuki Swift ก็ได้ นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นของรถจากค่ายนี้ก็คือราคาที่ถูกกว่าค่ายอื่น ซึ่งถ้าหากมีระบบ Suzuki Safety Support เข้ามาอาจจะทำให้ราคารถเพิ่มหรือเปล่าเราต้องคอยดูกัน ! 

4. Mitsubishi Advance Safety Technology

Mitsubishi Advance Safety Technology เทคโนโลยีความปลอดภัยที่มาพร้อมกับความล้ำสมัย

สำหรับค่าย Mitsubishi นั้นถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการดีไซน์ ที่เปลี่ยนความธรรมดาสู่ความล้ำหน้าในทุกรายละเอียด เริ่มจากการดีไซน์ที่เป็นแบบ Dynamic Shield พร้อมโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้สิ่งที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของค่ายนี้คือ ระบบเทคโนโลยีที่ให้มาอย่างจัดเต็มพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Mitsubishi Advance Safety Technology ที่จะช่วยเสริม ให้ผู้ขับนั้นปลอดภัย หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้นั่นเอง โดยจะมีระบบต่าง ๆ ดังนี้

• Bilnd Spot Warning With Lane Change ระบบตรวจจับรถคันอื่นเพื่อเตือนในมุมอับสายตา
• Ultrasonic Misacceleration Mitigation System ระบบทำงานโดยใช้คลื่น Ultrasonic ตรวจจับวัตถุด้านหน้า- หลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร
• Forward Collision Mitigation System ระบบช่วยชะลอความเร็วโดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่าง
• Rear Cross Traffic Alert ระบบตรวจจับรถ ขณะที่เรากำลังถอยหลัง
• Multi Around Monitor ระบบทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งแสดงผลไปยังจอในรถเป็นมุม Bird’s Eye View

เรียกได้ว่าระบบความปลอดภัยของทางค่าย Mitsubishi ไม่ได้น้อยหน้าค่ายอื่น ๆ เลยซึ่งรถที่เราจะได้พบกันก็คือ Triton และ Pajero Sports โฉมล่าสุดนั่นเอง นอกจากจะมีดีไซน์ที่สวยงามบึกบึนดุดัน และยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัยอีกด้วย 

5. Mazda i-Activsense

ระบบ  i-Activsense ใน Mazda 3

เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำในยนตรกรรม Skyactive ทุกรุ่น สำหรับค่าย Mazda นั้นได้มีการพัฒนาและยกระดับความปลอดภัยของรถในค่ายทุกคัน ด้วยการผสานวิทยาการความปลอดภัยที่จะช่วยปกป้องผู้ใช้รถ จากอุบัติเหตุ และจะช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนน รวมทั้งยังสามารถคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่นั้นเพิ่มความระมัดระวังพร้อมกับการขับขี่ที่สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยระบบ Mazda i-Activsense นั้นจะประกอบด้วยระบบต่าง ๆ ดังนี้

 Mazda i-Activsense  ยนตกรรมสุดล้ำจากค่าย Mazda

• Adaptive LED Headlamps  ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ช่วยปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ
• Adaptive Front-Lighting System ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ
• Driver Attention Alert ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ 
• Lane-keep Assist System ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
• Smart City Brake Support-Reverse ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง
• Advanced Blind Spot Monitoring ระบบแจ้งเตือนรถในมุมอับสายตา
• Smart City Brake Support ระบบช่วยเบรกอัจฉริยะ
• High Beam Control ระบบปรับไฟอัตโนมัติ
• Lane Departure Warning System ระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน
• Rear Cross Traffic Alert ระบบเรดาร์ที่ช่วยเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ใน Mazda i-Activsense

สำหรับระบบ Mazda i-Activsense นั้นจะมีในรถยนต์ Mazda ยุคใหม่ทุกคัน เว้นแต่ Mazda BT-50 รุ่นเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่มีการพัฒนาทั้งระบบเครื่องยนต์ที่เป็น Skyactive และยังมีระบบ Mazda i-Activsense ที่จะช่วยให้คุณขับรถยนต์จากค่าย Mazda เร้าใจและปลอดภัยมายิ่งขึ้น

6. Nissan Intelligent Mobility

Nissan Intelligent Mobility เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่

Nissan Intelligent Mobility เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ ที่ค่าย Nissan ได้พัฒนาขึ้นมาเมื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับผู้ขับขี่ โดยในปี 2019 นี้ทางค่าย Nissan ได้ชูระบบ Nissan Intelligent Mobility ให้เป็นจุดเด่นโดยจับระบบนี้เข้าไปไว้ในรถตลาดหลากหลายรุ่น ทำให้ระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยมีความล้ำสมัยและช่วยเสริมให้ผู้ขับรถ Nissan ได้รับความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้นโดยจะประกอบด้วยระบบต่าง ๆ ดังนี้

Nissan Intelligent Mobility เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่

• Intelligent Cruise Control (ICC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ
• Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย
• Intelligent Forward Collision Warning (FCW) ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้าหากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนทางด้านหน้ารถด้วยสัญญาณและเสียงเตือน
• Intelligent Emergency Braking (IEB) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ทำงานร่วมกับระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า
• Lane Departure Warning (LDW) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง
• Blind Spot Intervention (BSW) ระบบเตือนเมื่อมีวัตถุหรือรถยนต์อยู่ในจุดอับสายตา
• Intelligent Around View Monitor (iAVM) กล้องอัจฉริยะรอบทิศทาง ทำงานด้วยกล้อง 4 ตัวรอบคัน
• Moving Object Detection (MOD) ระบบตรวจจับวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวรอบรถ
• High Beam Asisst ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
• Active Engine Brake ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง
• Active Ride Control ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ
• Hill Start Assist ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน
• Active Brake Limited Slip ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะวิ่งบนถนนลื่น

Rear Cross Traffic Alert ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย

เรียกได้ว่าเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility เป็นชุดเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัยที่มีมาให้อย่างจัดหนักไม่น้อยหน้าค่ายอื่นอีกด้วย นอกจากนี้ทางค่าย Nissan ยังมีอีก 2 ระบบคือ Nissan Intelligent Power ที่จะเป็นตัวจัดการของระบบขับเคลื่อน และ Nissan Intelligent Driving ซึ่งจะเป็นระบบช่วยแบ่งเบาภาระในการขับขี่รถของคุณนั่นเอง โดยในประเทศไทยเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility นั้นมีอยู่ในรถ Nissan X-Trail, Nissan Teana, Nissan Terra, Nissan Leaf โฉมปัจจุบันทั้งหมด

7. Subaru Eye sight 

 Subaru EyeSight ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ

ค่ายดาวลูกไก่ก็มีระบบความปลอดภัยระดับสูงเรียกว่า “Subaru Eye Sight” ถ้าหากพูดถึงเรื่องสมรรถนะของรถยนต์ค่ายนี้ก็คงจะรู้จักกันดีของเรื่องเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนที่มีความเป็นเลิศ ซึ่งเจ้าระบบความปลอดภัย Subaru Eye Sight อาจจะไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงเท่าไหร่นัก แต่ก็เรียกว่าไม่ได้ด้อยกว่าค่ายอื่นแต่อย่างใด ด้วยระบบ Subaru Eye Sight นี้ เปรียบเสมอดวงตาอีกคู่ของผู้ขับรถเลยก็ว่าได้ ด้วยระบบความปลอดภัยอัฉริยะนี้ มีส่วนช่วยในการลดอุบัติเหตุได้ถึง 2 ใน 3 ของประเทศอเมริกาอีกด้วย ระบบ Subaru Eye Sight นั้นประกอบด้วยกันถึง 6 ระบบ ได้แก่

ระบบ Subaru EyeSight จะช่วยให้การใช้ถนนนั้นปลอดภัยมายิ่งขึ้น

• Pre-collision Braking ระบบช่วยเบรกก่อนชน
• Pre-collision Throttle Management ระบบจัดการกำลังของเครื่องยนต์ก่อนชน
• Adaptive Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับ
• Lane Departure & Sway Warning ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนและเบี่ยงออกจากเลน
• Pre-collision Steering Assist ระบบประคองพวงมาลัยให้ตัวรถอยู่ในเลน
• Lead Vehicle Start Alert ระบบแจ้งเตือนรถคันหน้าก่อนออกตัว

Subaru EyeSight จะสแกนวัตถุบนถนนผ่านกล้องและเรดาร์ที่หน้ารถ

ระบบทั้งหมดนี้คือ Subaru EyeSight โดยจะมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ติดตั้งไว้ในรถอย่างกล้องคู่หน้าอัฉริยะที่ถูกติดตั้งระหว่างกระจกมองหลัง ที่จะตรวจอันตรายในจุดที่ผู้ขับมองไม่เห็น และจะช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยอย่างไร้กังวล ซึ่งระบบนี้ติดตั้งยังไม่มีขายในไทย แต่ในอนาคตคนไทยก็อาจจะได้ใช้เจ้าระบบนี้กันอย่างแน่นอน

ดูเพิ่มเติม

>> Mitsubishi Pajero Sport 2019 ไมเนอร์เชนจ์ปรับเพียบ เปิดตัวในราคาเริ่ม 1.299 ล้านบาท

>> จับ "Tesla Semi" รถบรรทุกไฟฟ้าต้นแบบแปลงเป็น Motorhome

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีเชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้