HEV, PHEV, BEV และ FCEV ในรถยนต์คืออะไร และแต่ละประเภทมีระบบการทำงานอย่างไรบ้าง
ในปัจจุบัน การใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนยานยนต์เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกต่างหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อลดปัญหามลพิษและการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ผู้บริโภคเองก็เริ่มให้ความสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเล็งเห็นข้อดีจากการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
BEV PHEV HEV และ FCEV คืออะไร
ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ 4 ประเภทของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่นิยม ได้แก่ HEV, PHEV, BEV และ FCEV โดยจะได้ศึกษาถึงความหมาย โครงสร้างเทคโนโลยี และคุณสมบัติเด่นของแต่ละประเภท เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจภาพรวมของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดมากยิ่งขึ้น
รถยนต์ไฟฟ้า หมายถึง ยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อน โดยที่อาจจะมีเครื่องยนต์สันดาปมาเสริมการทำงาน หรือเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวก็ได้ ซึ่งจะไม่มีการปล่อยไอเสียออกมา ถือเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถยนต์ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป
รถยนต์ไฟฟ้า คืออะไร?
ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยมีการพัฒนารูปแบบและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้งในด้านประสิทธิภาพการขับขี่ ระยะทางการวิ่งด้วยไฟฟ้า และการชาร์จไฟ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
รถยนต์ไฟฟ้ามีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีแนวคิดในการออกแบบและระบบการทำงานที่แตกต่างกัน ในที่นี้เราจะมาทำความรู้จักรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ HEV, PHEV, BEV และ FCEV
HEV คืออะไร (HEV: Hybrid Electric Vehicle)
HEV หรือ Hybrid Electric Vehicle เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ระบบไฮบริด โดยจะมีการใช้เครื่องยนต์สันดาปร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน
PHEV คืออะไร (PHEV: Plug-in Hybrid Electric Vehicle)
PHEV หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle เป็นรถยนต์ที่มีระบบไฮบริดเช่นเดียวกับ HEV แต่มีความสามารถในการเสียบปลั๊กชาร์จไฟจากภายนอกเพิ่มเติม
BEV คืออะไร (BEV: Battery Electric Vehicle)
BEV หรือ Battery Electric Vehicle เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อน โดยไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปเอาไว้
FCEV คืออะไร (FCEV: Fuel Cell Vehicle)
FCEV หรือ Fuel Cell Electric Vehicle เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า แทนการใช้แบตเตอรี่
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า จะพบว่า BEV (Battery Electric Vehicle) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดที่สุด เนื่องจากมีความสามารถในการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ต้องใช้เครื่องยนต์สันดาปซึ่งเป็นตัวสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และยังไม่มีการปล่อยมลพิษหรือ CO2 ออกมาเลย ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่ำกว่ารถยนต์ประเภทอื่น
ขณะที่ PHEV (Plug-ใน Hybrid Electric Vehicle (HEV) และ PHEV จะมีการใช้เชื้อเพลิงจากทั้งเครื่องยนต์สันดาปและพลังงานไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่า BEV โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม PHEV ยังมีข้อดีในการวิ่งด้วยไฟฟ้าระยะสั้นได้ ซึ่งส่งผลให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ใช้งานในเมืองได้มากขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์ไฟฟ้ามักมีราคาสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ที่สูง รวมถึงเทคโนโลยีและระบบการจัดการพลังงานที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม เมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้ใช้จะได้รับผลประโยชน์จากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ต่ำลง และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่น้อยลง เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนน้อยกว่าและไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเหมือนรถยนต์ธรรมดา
นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนจากรัฐบาลในหลายประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า อาทิเช่น การลดภาษี หรือการเสนอเงินช่วยเหลือในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มแข่งขันกับรถยนต์ทั่วไปมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้ง HEV, PHEV, BEV และ FCEV ต่างก็มีข้อดีและประโยชน์เฉพาะตัว ทั้งในแง่ของความสะดวกสบาย ราคา และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมและความต้องการของตนเอง โดยคำนึงถึงทั้งความประหยัดและผลกระทบที่มีต่อโลกของเราในระยะยาว
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ